โพลชี้นักลงทุนมั่นใจตลาดหุ้นจีนกลับมาคึกแน่

ไชน่าเดลี่ - นักลงทุนรายบุคคลจีนมากกว่าครึ่งแสดงความเชื่อมั่น ตลาดหุ้นมังกรจะฟื้นกลับมาคึกอีก แม้ว่าราคาหุ้นเริ่มต้นเดือนกรกฎาคมจะยังดิ่งลงอีกก็ตาม ตามที่สำนักข่าว เซี่ยงไฮ้ ซิเคียวริตี้ส์ และเว็บไซต์หุ้น สต็อกสตาร์ ร่วมกันทำการสำรวจ

เป็นเวลาติดต่อกันถึง 7 สัปดาห์แล้ว ที่กราฟดัชนีหุ้นจีนดิ่งลงเรื่อยๆ โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (4 ก.ค.) ดัชนีคอมโพซิทของเซี่ยงไฮ้ตกลง 1.24% ปิดตลาดที่ 2669.89 ขณะที่ดัชนีคอมโพแนนท์เซินเจิ้น ขยับขึ้นเพียง 0.03% เท่านั้น ปิดตลาดที่ 9400.72

อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจความคิดเห็นของนักลงทุนรายย่อยที่มีต่อสภาพตลาดในขณะนี้ โดยสำนักข่าว เซี่ยงไฮ้ ซิเคียวริตี้ส์ ร่วมกับเว็บไซต์หุ้น สต็อกสตาร์ทำการสำรวจ ปรากฏว่า มากกว่า 60% ของนักลงทุนให้สัมภาษณ์ว่า พวกเขาเชื่อมั่นว่าเร็วๆ นี้รัฐบาลจะเข็นมาตรการที่มีประสิทธิภาพและสามารถฉุดตลาดหลักทรัพย์ให้กลับมาคึกคักใหม่อีกครั้ง ความเห็นดังกล่าวมีขึ้นหลังจากเมื่อวันอังคารที่ 1 ก.ค.สำนักข่าวซินหัวรายงานความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญระบุ การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศจีนจะเป็นปัจจัยสำคัญช่วยอุ้มชูตลาดหลักทรัพย์ในประเทศ

เช่นเดียวกับความคิดเห็นของ ซุน เผย พนักงานเก็บเงินวัย 40 ปี ซึ่งแม้ว่าจะไม่ได้ร่วมในการสำรวจครั้งนี้ แต่เธอก็เชื่อมั่นว่าตลาดหุ้นจีนจะฟื้นตัว ทั้งที่ช่วงที่ผ่านมาเธอขาดทุนกว่าครึ่งหนึ่งของเงินลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ทั้งหมด 1 ล้านหยวน

“ฉันยังคงเชื่อมั่นในตลาดจีน เพราะว่ารัฐบาลแสดงให้เห็นว่าพวกเขาเป็นห่วงที่สภาพของตลาดหลักทรัพย์เริ่มซบเซาแบบนี้ ซึ่งนั่นหมายความว่ารัฐบาลกำลังพิจารณาหามาตรการที่มีประสิทธิภาพมากระตุ้นตลาดหลักทรัพย์อยู่” ซุนกล่าว

ด้านเหมา หนัน นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์โอเรียนท์ ซิเคียวริตี้ส์ แสดงความคิดเห็นว่า ความรู้สึกของนักลงทุนมีความเกี่ยวพันกับท่าทีของรัฐบาลเป็นอย่างมาก และจากจำนวนบัญชีทุนเปิดใหม่ที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็เป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุน

เหมากล่าวเสริมว่า ถึงแม้ผลกำไรของบริษัทจดทะเบียนจะตกฮวบลง 20.9% ตั้งแต่เดือนมกราคม-พฤษภาคมที่ผ่านมา แต่ยังมีแรงคาดการณ์ว่ายอดรายได้สุทธิจะเพิ่มสูงขึ้นจากปีที่แล้วราว 30%

ทั้งนี้ที่ผ่านมาหน่วยงานต่างๆ ที่สังกัดคณะรัฐมนตรีจีน ได้เริ่มทยอยลงมือช่วยเหลือตลาดหุ้นที่ดิ่งเหว ดังเช่นเมื่อวันที่ 20 เม.ย.ทางคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์จีนได้ประกาศให้ผู้ถือหุ้นที่ติดไซเลนซ์ พีเรียดในมือ นำออกจำหน่ายภายใน 1 เดือน โดยจำนวนที่นำออกจำหน่ายรวมแล้วจะต้องไม่น้อยกว่า 1% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด

นอกจากนั้นยังมีการกำหนดให้ผู้ถือหุ้นที่ถือหุ้นมากกว่า 5% ขึ้นไป หากจะมีการเคลื่อนไหวในการจำหน่ายหุ้น จะต้องทำตามกฎระเบียบที่ทางคณะกรรมการกำกับตลาดหลักทรัพย์ได้ระบุ และเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะ ซึ่งมาตรการดังกล่าวนั้นส่งผลให้เช้าวันรุ่งขึ้นดัชนีเซี่ยงไฮ้ดีดตัวขึ้นรับทันที 6.8% หลังเปิดตลาด