รอยเตอร์ – หลังจากที่ได้ระดมทุนครั้งใหญ่ในตลาดกระดานเอของจีนเมื่อปีที่ผ่านมา ล่าสุดปิโตร ไชน่าได้ประกาศแผนการระดมทุนอีกครั้งด้วยการออกตราสารหนี้มูลค่ามหาศาลถึง 60,000 ล้านหยวนซึ่งเป็นการออกตราสารหนี้ครั้งใหญ่สุดของจีน โดยสาเหตุถูกมองไปในแง่ต่างๆเช่นการปรับโครงสร้างหนี้ การเพิ่มเงินทุนหมุนเวียน การลงทุน หรือแม้แต่การไปซื้อกิจการในต่างประเทศ
บริษัทปิโตร ไชน่า ยักษ์ใหญ่น้ำมันของจีนได้ประกาศเมื่อวันพุธ (11 มิ.ย.) ที่ผ่านมา ว่าที่ประชุมกรรมการบริษัทได้ตัดสินใจมีการออกตราสารหนี้ในประเทศมูลค่าไม่เกิน 60,000 ล้านหยวน โดยอาจจะมีการออกในครั้งเดียวหรือแบ่งงวดในการออกตราสารหนี้ เพื่อที่จะลดต้นทุนในการระดมเงินและเพิ่มเติมเงินทุนหมุนเวียน โดยการออกตราสารหนี้ในครั้งนี้ ถือว่าเป็นการออกตราสารหนี้มูลค่าสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ในจีน
ในประกาศของปิโตร ไชน่าได้ระบุว่า การออกตราสารหนี้เพื่อระดมทุนครั้งนี้เพื่อเติมเงินทุนหมุนเวียนในระยะกลางและระยะยาว อีกทั้งเป็นการระดมทุนเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ และอาจจะเป็นเงินทุนที่ใช้ไปเพื่อดำเนินโครงการเชื่อท่อเชื่อมตะวันตก-ตะวันออก ดังนั้นจึงต้องขอการอนุมัติจากกรรมการบริษัทเพื่อระดมทุนดังกล่าว โดยรายละเอียดของการออกตราสารหนี้ดังกล่าวจะมีการให้กรรมการบริษัทลงมติอีกครั้งในวันที่ 31 มิ.ย.
นายหลัว เหว่ยเยี่ยนักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์สได้เปิดเผยว่า “เนื่องจากทางการจีนแผ่นดินใหญ่มีการควบคุมราคาน้ำมันสำเร็จรูปเอาไว้ ทำให้ธุรกิจโรงกลั่นของปิโตรไชน่าขาดทุนอย่างมหาศาล ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาในด้านของเงินสดหมุนเวียนภายในบริษัท บวกกับรายจ่ายของบริษัทที่เพิ่มขึ้นทุกปี ดังนั้นเชื่อว่าการระดมทุนในครั้งนี้ มองได้ว่าทั้งเป็นการเตรียมเงินทุนให้เพียงพอและอาจจะเป็นการเตรียมตัวสำหรับการออกไปซื้อบริษัทในต่างประเทศด้วย”
ในขณะที่นักวิเคราะห์อีกท่านหนึ่งได้มองว่า “ก่อนหน้านี้ปิโตร ไชน่าได้เคยเปิดเผยว่าจะซื้อหุ้นอีก 50% ของบริษัทในต่างประเทศของบริษัทแม่อย่างไชน่า ปิโตรเลียม เอ็กซโปรเรชั่น แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากช่วงเวลานี้ราคาน้ำมันได้ทำสถิติสูงเป็นประวัติการณ์ จึงยังไม่ใช่โอกาสดีนักที่จะรีบซื้อตอนนี้”
นอกจากนั้น ก่อนหน้านี้ปิโตรไชน่าเองก็เคยประกาศว่า จะใช้เงินจำนวน 1,004 ล้านหยวน ในการเข้าไปถือหุ้นในสินทรัพย์และธุรกิจการจัดซื้อและจำหน่ายน้ำมันสำเร็จรูปของไชน่า เนชั่นแนล ปิโตรเลียม คอร์ปซึ่งเป็นบริษัทแม่ของตน
โดยธุรกิจและสินทรัพย์ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ได้เกี่ยวข้องกับธุรกิจน้ำมันสำเร็จรูปที่กระจายตัวอยู่ใน 16 มณฑลของจีน ครอบคลุมถึงปั๊มน้ำมัน 208 แห่งและโกดังกักเก็บน้ำมันอีก 25 จุด โดยธุกริจดังกล่าวปัจจุบันมีผู้ถือหุ้นอยู่ที่สิ้น 8 ราย
ทั้งนี้ หลังจากประกาศข่าวดังกล่าว หุ้นของปิโตร ไชน่าในช่วงเช้าก็ปิดเพิ่มขึ้น 0.19% หลังจากที่ในช่วงเดือนที่ผ่านมาตกลงไปถึง 5.1%
