หนังสือพิมพ์สากล – กรมศุลกากรจีนได้เปิดเผยตัวเลขสถิติล่าสุดว่า การซื้อขายระหว่างจีนกับไต้หวันในไตรมาสแรกของปีนี้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเพิ่มขึ้นทั้งการนำเข้าและส่งออก โดยมีอัตราเติบโตมากกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วกว่า 2 เท่า ทำให้เห็นได้ว่าการค้าระหว่างสองฟากฝั่งกำลังคึกคักมากขึ้นทุกที
โดยตัวเลขที่กรมศุลกากรได้เปิดเผยระบุว่า การค้าระหว่างแผ่นดินใหญ่กับไต้หวันในไตรมาสแรกของปีนี้มีลักษณะพิเศษอยู่ 3 ประการ กล่าวคือการซื้อขายสินค้าแปรรูปนั้นคิดเป็นกว่า 60% ของการซื้อขาย โดยมีตัวเลขการนำเข้าส่งออกสินค้าแปรรูปอยู่ที่ 19,990 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 18.4% และคิดเป็น 63.3% ของตัวเลขการนำเข้าส่งออก โดยแบ่งเป็นตัวเลขการนำเข้า 17,110 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 19.4% และส่งออก 2,880 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น12.5%
ประการที่สองคือ มีวิสาหกิจจากต่างชาติเป็นตัวหลักในการซื้อขายระหว่างสองฟากฝั่ง โดยการนำเข้าส่งออกคิดเป็นตัวเลข 24,100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 19.6% แบ่งเป็นการนำเข้าจากไต้หวัน 20,250 ล้านเหรียญสหรัฐฯคิดเป็น 76.3% ของตัวเลขนำเข้าส่งออก และส่งออก 3,850 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 12.9%
อย่างที่สาม สินค้าเครื่องจักรและเครื่องใช้ไฟฟ้าเริ่มมีบทบาทมากขึ้น โดยในไตรมาสแรกมีการนำเข้าส่งออกสินค้าประเภทดังกล่าวระหว่างแผ่นดินใหญ่กับไต้หวันทั้งสิ้น 20,860 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 20.5% โดยเป็นตัวเลขการนำเข้า 17,450 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 22.2% และส่งออก 3,410 ล้นเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 12.6%
ด้านสำนักข่าวบลูมเบิร์กได้รายงานว่า ที่ผ่านมาไต้หวันกับแผ่นดินใหญ่มีความสัมพันธ์ในด้านของการค้าและการลงทุนอย่างแน่นแฟ้น และเมื่อหม่า อิงจิ่วกับเซียว วั่นฉางได้ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี และรองประธานาธิบดีไต้หวันแล้ว ก็เชื่อได้ว่าข้อจำกัดด้านการค้าต่างๆระหว่างสองฟากฝั่งจะค่อยๆถูกยกเลิกไป ซึ่งจะยิ่งเป็นการกระตุ้นการนำเข้าส่งออกให้มากขึ้น
ในขณะที่ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของซิตี้ แบงก์ได้ระบุว่า “แม้ว่าสหรัฐยังมีอิทธิพลสำคัญต่อไต้หวัน ทว่าการที่ไต้หวันเริ่มมีการส่งออกสู่จีน รัสเซีย อินเดียซึ่งเป็นตลาดใหม่เพิ่มขึ้นนั้น จะช่วยให้ไต้หวันสามารถชะลอผลกระทบอันเกิดจากเศรษฐกิจสหรัฐฯถดถอยได้”
ขณะที่นายฝู หมิงไฉหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ดได้คาดการณ์ว่า “การส่งออกของไต้หวันสู่แผ่นดินใหญ่จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งจะสนับสนุนการส่งออกรวมของไต้หวัน แต่การส่งออกผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ส่งไปยังยุโรปกับสหรัฐฯคงจะชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง”