หนังสือพิมพ์สากล -สำนักงานกิจการไต้หวันของจีนแสดงการยอมรับท่าทีของประธานาธิบดีหม่า อิงจิ่วอย่างสูง พร้อมเสนอให้พยายามเชื่อมความสัมพันธ์ใน 3 ทาง และรื้อฟื้นกลไกการเจรจาโดยเร็ว
หลังจากที่หม่า อิงจิ่วได้กล่าวสุนทรพจน์ในวันรับตำแหน่งขึ้นเป็นประธานาธิบดีไต้หวันอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 20 พ.ค.โดยได้ระบุว่าตนเห็นด้วยกับการที่หัวหน้าพรรคอู๋ ป๋อสงเดินทางไปเยือนประเทศจีน และหวังว่าสองฟากฝั่งนั้นจะสามารถรื้อฟื้นกลไกการเจรจากันได้โดยเร็ว โดยควรจะหาเวทีอื่นในการหารือเพิ่มขึ้น
ต่อกรณีดังกล่าว เมื่อวันพฤหัสบดี (22 พ.ค.) ที่ผ่านมา นายเฉิน หยุนหลินผู้อำนวยการสำนักงานกิจการจีนไต้หวันของแผ่นดินใหญ่ได้ส่งสัญญาณบวก และแสดงท่าทีการยอมรับในความคิดและแนวทางของหม่าเป็นอย่างสูง โดยได้ระบุว่าทั้งสองฟากฝั่งกำลังพยายามและเตรียมที่จะฟื้นฟูการเจรจาโดยถือฉันทามติปี 1992 เป็นพื้นฐาน
สิ่งที่น่าสนใจก็คือ การแถลงข่าวของเฉิน หยุนหลินในครั้งนี้ ไม่มีการพูดถึงคำว่า “จีนเดียว” ซึ่งเป็นคำที่อ่อนไหว และจะต้องเน้นย้ำในการแถลงข่าวแทบทุกครั้งออกมาเลย
เฉินได้ระบุว่า จีนกับไต้หวันควรจะแสดงความพยายามในการผลักดันความสัมพันธ์ 3 ประการ ก็คือพยายามที่จะผลักดันการเชื่อมโยงตรง 3 ทาง พยายามที่จะเชื่อมโยงในด้านต่างๆอาทิวัฒนธรรม เศรษฐกิจระหว่างสองฟากฝั่ง และพยายามที่จะให้มีการเชื่อมโยงระหว่างพี่น้องร่วมอุทร และภาคส่วนต่างๆของสังคมในสองฟากฝั่งให้มากขึ้น
สื่อหลายสำนักของจีนได้ตีความท่าที่ของเฉิน หยุนหลินในครั้งนี้ ว่าเป็นการส่งสัญญาณที่ดี ที่จะผลักดันให้มีการพัฒนาการเจรจาให้ดีขึ้นระหว่างแผ่นดินใหญ่กับไต้หวัน
ด้านหม่า อิงจิ่วเองก็ได้แสดงท่าทีตอบรับต่อการแถลงข่าวของเฉิน หยุนหลิน โดยระบุว่า โดยพื้นฐานถือว่าเป็นเจตนาที่ดี ซึ่งหวังว่าจะสามารถความไว้เนื้อเชื่อใจต่อกัน รื้อฟื้นการเจรจาขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม
ทั้งนี้ ฉันทามติที่ทั้ง 2 ฝ่ายต่างเห็นด้วยว่าจะเป็นพื้นฐานในการพัฒนาการเจรจาของจีนกับไต้หวันนั้น ได้ระบุว่าเป็นการยอมรับร่วมกันว่า “จีนมีจีนเดียว” โดยไม่ได้ขยายความนิยามดังกล่าวแต่อย่างใด และเมื่อไม่นานนี้ ก็ได้มีการพบปะระหว่างเหลียนจั้น อดีตหัวหน้าพรรคก๊กมินตั๋งซึ่งในขณะนั้นเป็นหัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน กับประธานาธิบดีหูจิ่นเทา ที่ได้ระบุว่า “สร้างความเชื่อใจซึ่งกันและกัน ลดความขัดแย้ง แสวงจุดร่วมสงวนจุดต่าง ร่วมสร้างผลประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย”
