ซินหัวเน็ต / ไชน่านิวส์ – จากปัญหาเศรษฐกิจของสหรัฐฯที่กำลังส่งผลไปทั่วโลก ได้ทำให้อัตราแลกเปลี่ยนเงินสกุลต่างๆในเอเชีย โดยเฉพาะเงินหยวนและดอลลาร์ไต้หวันทำนิวไฮกันอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงที่ผ่านมามีทุนจากต่างชาติที่ไหลเข้ามาเก็งกำไรค่าเงินดังกล่าวอย่างไม่ลดละ
หลังจากที่เมื่อวันพุธ (21 พ.ค.)อัตราแลกเปลี่ยนเงินสกุลเหรินหมินปี้ต่อดอลลาร์สหรัฐฯได้พุ่งทะลุ 6.96 ไปเพียงวันเดียว มาถึงวันพฤหัสบดี (22 พ.ค.) อัตราแลกเปลี่ยนกลางก็ยังพุ่งต่อเนื่องทะลุ 6.95 ต่อดอลลาร์สหรัฐฯแล้ว โดยตัวเลขจากศูนย์แลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของจีนระบุว่า ในวันที่ 22 อัตราแลกเปลี่ยนของเงินหยวนอยู่ที่ 6.9428 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐฯ และเป็นการทำนิวไฮครั้งที่ 37 ของปี 2008 นี้ ซึ่งอัตราการแลกเปลี่ยนดังกล่าว เท่ากับว่าในปีนี้อัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนได้แข็งค่าสะสมทั้งสิ้น 5.2% แล้ว
จากการประกาศข่าวล่าสุดของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เมื่อวันที่ 29-30 เม.ย. ถือว่าเป็นการส่งสัญญาณว่าจากนี้ไปเฟดจะไม่ลดดอกเบี้ยอีก ทว่าในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ในเฟดหลายคนกลับรู้สึกว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯยังมีแนวโน้มและความเสี่ยงว่ายังจะถดถอยอยู่ จึงได้ปรับลดคาดการอัตราเติบโตของผลผลิตมวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐฯปี 2008 ทำให้ตลาดยังกังวลว่า ปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐฯจะเป็นการเพิ่มความกดอันให้กับอัตราแลกเปลี่ยนของดอลลาร์
นอกจากนั้น ด้วยปัจจัยเดียวกันนี้ยังได้ส่งผลให้เงินดอลลาร์ไต้หวันถีบตัวขึ้นเช่นกัน โดยการที่ดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนตัว ส่งผลให้มีทุนต่างชาติแห่เข้ามาลงทุนค่าเงินไต้หวันจำนวนมาก ทำให้อัตราแลกเปลี่ยนไต้หวันพุ่งขึ้นมาที่ 30.499 เหรียญไต้หวันต่อดอลลาร์สหรัฐฯ
“ขณะนี้เงินร้อนจากทั่วโลกยังคงไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ตลาดการแลกเปลี่ยนเงินคึกคักขึ้นอีกครั้ง และอาจมีทุนต่างชาติที่เข้ามาสร้างกระแสการเก็งกำไรอีกระลอกหนึ่ง” นักวิเคราะห์จากธนาคารในไต้หวันระบุ
โดยเจ้าหน้าที่จากธนาคารรายใหญ่แห่งหนึ่งในไต้หวันระบุว่า “เมื่อวานนี้ไม่เพียงแต่มีเงินทุนต่างชาติที่ไหลเข้ามาอย่างมหาศาล แต่ยังมีนักลงทุนที่หวังเก็งกำไรระยะสั้น ได้อาศัยช่องทางของตลาดแลกเปลี่ยนต่างประเทศ สร้างกระแสโจมตีเข้ามาอีกระลอก ธนาคารพาณิชย์จากต่างประเทศก็พยายามเทขายเงินดอลลาร์สหรัฐฯอย่างเอาเป็นเอาตาย ซึ่งตอนนี้ธนาคารกลางก็กำลังตามรอยเพื่อที่จะเล่นงานกลุ่มพวกนี้อยู่”
ด้านนักวิเคราะห์ตลาดมองว่า ในช่วงที่ราคาน้ำมันโลกพุ่งขึ้นอย่างหยุดไม่อยู่ จนทำให้หลายประเทศในเอเชียเกิดปัญหาเงินเฟ้อกันถ้วนหน้า ในขณะที่เงินหยวนทำนิวไฮอีกครั้ง ธนาคารกลางเกาหลีก็มีเงินเกาหลีไม่เพียงพอ เงินเยนของญี่ปุ่นก็พุ่งขึ้นไปที่ 103.4 เยนต่อดอลลาร์ ทำให้เห็นว่า ประเทศในเอเชียมีเจตนาที่จะให้อัตราแลกเปลี่ยนของตนแข็งค่าขึ้น เพื่อบรรเทาแรงกดอันจากปัญหาเงินเฟ้อ