ธุรกิจสิ่งทอกลัวขาดทุนแห่ทิ้งดอลลาร์

ซีน่าเน็ต – ผลสำรวจชี้ว่า เพื่อหนีการขาดทุน บริษัทส่งออกสินค้าสิ่งทอเริ่มขึ้นราคา เลิกใช้การเสนอราคาหรือซื้อขายด้วยดอลลาร์สหรัฐฯ หลังค่าเงินหยวนยังเดินหน้าแข็งค่าไม่หยุด พร้อมชี้ปี 2010 สถานการณ์ส่งออกสิ่งทอจึงจะดีขึ้น

ในช่วงที่ผ่านมา หลังจากเงินดอลลาร์ยังคงอ่อนค่าลงเรื่อยๆ ในขณะที่เงินหยวนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯได้แข็งค่าขึ้นเกือบ 4% ในไตรมาสแรกที่ผ่านมา ทำให้ธุรกิจต่างๆในจีนเริ่มเมินการซื้อขายด้วยดอลลาร์สหรัฐฯแล้วหันมาหาเงินหยวนแทน

จากการสำรวจของเว็บไซต์สิ่งทอจีนได้ทำการสำรวจผู้ประกอบการจำนวนกว่าพันราย พบว่าเพื่อเป็นการป้องกันการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน ทำให้ส่วนใหญ่เริ่มไม่ยอมที่จะเสนอราคาเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และหากยังเสนอเป็นราคาดอลลาร์ ก็จะมีผลเพียง 1 สัปดาห์จากที่การเสนอราคาในอดีตสามารถมีผลเป็นระยะเวลา 1-2 เดือน

นายหวัง กงจู้ผู้จัดการใหญ่ของบริษัทสิ่งทอขนาดใหญ่อย่างหัวเม่า ในมณฑลอันฮุยได้เปิดเผยว่า “ทางบริษัทมียอดการส่งออกราว 30 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในขณะนี้หากสามารถที่จะไม่ใช้สกุลเงินดอลลาร์ในการซื้อขายได้ก็จะพยายามไม่ใช้ แต่ก็จะประเมินตามความต้องการของลูกค้า กับระดับความสูญเสียจากอัตราแลกเปลี่ยน”

แม้ว่าที่ผ่านมาการขึ้นราคาก็เป็นมาตรการหลักอย่างหนึ่งที่ใช้รับมือกับปัญหาเงินหยวนแข็งค่า ทว่าการขึ้นราคาเองก็มีปัญหาที่ซับซ้อนอยู่ในตัว ด้านหนึ่งคือตลาดสิ่งทอถือเป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด ยิ่งเป็นตลาดสินค้าราคาระดับกลางกับระดับล่างก็เรียกว่าเกินจุดอิ่มตัว การขึ้นราคาสุ่มสี่สุ่มห้าไม่เพียงอาจไม่ได้กำไร แต่อาจจะถึงกับเสียตลาดไปเลยก็ได้ อีกปัญหาหนึ่งก็คือการคืนภาษีส่งออก กับกฎหมายแรงงานใหม่ ที่ทำให้ต้นทุนวัตถุดิบพุ่งขึ้นราวติดปีก ดังนั้นการขึ้นราคากับการยกเลิกการคิดราคาหรือซื้อขายด้วยเงินหยวนจึงต้องเลือกใช้อย่างเหมาะสม

อย่างไรก็ตามนายฝาน หมิ่นประธานบริษัทข้อมูลสิ่งทอในเซี่ยงไฮ้มองว่า “ในขณะนี้ผู้ประกอบการต้องรู้จักเลือก และอย่างน้อยต้องหาทางอยู่รอดไปให้ได้อีก 2 ปีจนถึงปี 2010 ซึ่งหากผ่านช่วง 2 ปีนี้ไปได้ สถานการณ์การดำรงอยู่ของธุรกิจสิ่งทอก็จะดีขึ้น”