xs
xsm
sm
md
lg

ความเปลี่ยนแปลงหลังปฐพีสะเทือน ปฏิรูป เปิดกว้าง เพื่อภาพลักษณ์ที่ดี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เจ้าหน้าที่ช่วยกันอุ้มเหยื่อแผ่นดินไหวออกจากซากปรักหักพัง ในอำเภอเป่ยชวน มณฑลซื่อชวน (เสฉวน) เมื่อวันอังคาร (13 พ.ค.) - เอเยนซี
นิวยอร์ค ไทมส์ – หายนะครั้งใหญ่จากแผ่นดินไหวรุนแรงกว่า 7.9 ริกเตอร์ ทำเอารัฐบาลจีนถูกวิพากษ์วิจารณ์มากมาย ทั้งมีการขุดคุ้ยว่าเจ้าหน้าที่รู้ตัวล่วงหน้า แต่เมินเฉย หรือระบบป้องกันภัยไม่ทำงานมา 3 ปีแล้วแต่ก็ไม่มีใครแก้ ส่วนสื่อบางกระแสก็โจมตีว่านี่เป็นความท้าทายครั้งใหญ่ที่อาจสะเทือนบัลลังก์พรรค อย่างไรก็ตามข้อวิจารณ์เหล่านี้กลับถูกกลบเกลื่อนด้วยมิติเชิงจริยธรรมเสียหมด นักวิเคราะห์จีนส่วนหนึ่งชี้ว่า ที่จริงแล้ววิกฤตนี้สะท้อนอะไรหลายอย่าง และเป็นโอกาสของจีน

นับแต่เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งร้ายแรงเมื่อวันจันทร์ (12 พ.ค.) สื่อจีนเสนอข่าว เรื่องหายนะภัยครั้งนี้แบบวินาทีต่อวินาที นับเป็นปราฏการณ์ใหม่ที่น่าสังเกต เนื่องจากโดยปกติแล้วข่าวเกี่ยวกับความเสียหาย หรือความรุนแรงครั้งใหญ่มักถูกนำเสนอโดยการลดทอนความรุนแรงลง

บางทีที่ทางการจีนเสนอข่าวทันใจ แถมเผยอย่างหมดเปลือก อาจเป็นเพราะช่วงเวลาที่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากพม่าถูกนาร์กีสถล่มไม่นาน โดยปฏิบัติการบรรเทาสาธารณภัยและการปกปิดข่าวของพม่าถูกวิจารณ์อย่างรุนแรง แรงวิจารณ์ดังกล่าวจึงส่งผลกระทบให้จีนต้องเร่งบรรเทาสาธารณภัย ด้วยมาตรฐานและความพยามที่เหนือกว่า

นอกจากนี้ภาพลักษณ์ในทางลบที่เกิดขึ้นจากการปราบปรามจลาจลในทิเบต, กระแสชาตินิยมสุดโต่ง และการปะทะระหว่างกลุ่มสนับสนุนจีน กับนานาชาติที่เป็นนักรณรงค์ตามเส้นทางโอลิมปิก ทำให้รัฐบาลจีนต้องอาศัยวิกฤตครั้งนี้กู้ภาพลักษณ์ในระดับนานาชาติ

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาทางการจีนตัดสินใจลดพิธีการและความบันเทิงรื่นเริงของการวิ่งคบเพลิงโฮลิมปิกลง รวมทั้งจัดให้มีการตั้งกล่องรับบริจาคสำหรับพี่น้องผู้ประสบภัยตามจุดวิ่งคบเพลิงต่างๆ ตลอดเส้นทางจนกระทั่งสิ้นสุดระยะทางวิ่ง หลังจากถูกกระแสชาวเน็ตโจมตี วิพากษ์วิจารณ์ว่า สิ้นเปลือง และไร้มนุษยธรรม การกระทำดังกล่าวส่งสัญญาณว่า รัฐบาลเองก็ให้ความสำคัญกับความอ่อนไหวของมติมหาชนและนานาชาติไม่น้อย

สื่อ อันปิน ศาตราจารย์ด้านสื่อศึกษา (Media studies) แห่งมหาวิทยาลัยชิงหัว แสดงทัศนะว่าเหตุการณ์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะกระแสลบที่เกิดขึ้นหลังการปราบจลาจลในทิเบต ส่งผลต่อการตัดสินใจของผู้นำจีนไม่น้อย “ผมคิดว่ารัฐบาลได้เรียนรู้บทเรียนบางอย่างจากทัศนคติแง่ลบที่เกิดขึ้นกับจีน ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนี้แง่หนึ่งก็สะท้อนกระแสปฏิรูปและเปิดกว้างของรัฐ”

แนวทางดังกล่าวได้รับเสียงตอบรับแง่บวกไม่น้อย บรรดานักท่องเน็ตชาวจีนต่างเขียนข้อความชมรัฐบาล ที่ปฏิบัติการบรรเทาสาธารณภัยอย่างรวดเร็ว ส่วนนักท่องเน็ตที่บังอาจเปิดประเด็นติติงว่า รัฐบาลทำงานล่าช้า หรือติงถึงข้อบกพร่องของเจ้าหน้าที่ที่ไม่เตือนก่อนหน้า กลับถูกมติมหาชนบังคับให้หุบปาก “ใครที่ดีแต่พูด ตอนนี้ก็หุบปากไปซะ” ข้อความบนเวบไซต์แห่งหนึ่งโจมตีผู้ที่บังอาจตั้งคำถาม

หากจีนสามารถบริหารวิกฤตครั้งนี้ได้ดีกว่าที่สหรัฐอเมริการับมือกับเฮอร์ริเคนแคทรินา ความสำเร็จดังกล่าวจะช่วยตอกย้ำภาพลักษณ์ในแง่บวกต่อรัฐบาลจีน ที่นำประเทศก้าวรุดหน้าอย่างรวดเร็ว

หยาง ต้าลี่ ผู้อำนวยการสถาบันเอเชียตะวันออกของสิงคโปร์ชี้ว่า “รัฐบาลจีนอาจก้าวมาถึงจุดที่ตระหนักว่า การเปิดกว้างและการตรวจสอบได้จะช่วยหนุนความชอบธรรมในการปกครอง ทั้งยังช่วยลดทอน ต้านความไม่พอใจที่เกิดขึ้นจากการคอร์รัปชั่น, เงินเฟ้อ และช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจน”

“ผมมองว่าการที่รัฐบาลให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือผู้ประสบภัย เหมือนกับการสื่อสารว่า รัฐบาลสามารถจัดการได้ และรัฐบาลก็เป็นห่วงต้องการดูแลคุณ ดูเหมือนรัฐบาลจีนรู้ว่า วิกฤตนี้เป็นโอกาสที่จะช่วยผสานคนทั้งชาติเข้าด้วยกัน และใช้กระแสดังกล่าวหนุนรัฐได้”

ปฏิกิริยาของทางการจีนต่อภัยพิบัติครั้งนี้ต่างกับทางการพม่าที่มีต่อผู้ประสบภัยจากพายุนาร์กีส และยังต่างกับการปฏิบัติต่อผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่ถังซานเมื่อปี 1976 ซึ่งมีผู้เสียชีวิตถึง 240,000 คน ดูเหมือนบทเรียนจากถังซานจะตราตึงอยู่ในใจของผู้นำจีน

หลังภัยพิบัติที่ถังซานไม่กี่วัน แก็งค์สี่คนพยายามลดทอนความรุนแรงของภาพภัยพิบัติครั้งนั้น แถมยังตอกกลับ ปฏิเสธความช่วยเหลือจากนานาชาติ ปล่อยให้เจ้าหน้าที่จีนซึ่งในเวลานั้นขาดแคลนอุปกรณ์ต่างๆทำการช่วยเหลือลำพัง

หัว กั๋วเฟิง ซึ่งเวลานั้นกำลังถูกพายุลมการเมืองโหมใส่ วางตัวได้อย่างดีด้วยการไปเยี่ยมผู้ประสบภัย การกระทำดังกล่าวทำให้เขาได้รับความชื่นชม เสริมบารมีของหัวไม่น้อย กระทั่งหลังอสัญกรรมของเหมา บารมีที่เพิ่มขึ้นนี้ มีส่วนไม่น้อยในการช่วยให้หัวสามารถมีบทบาทสำคัญในการขับไล่แก็งค์สี่คนตกจากเวทีการเมือง

ที่ผ่านมาข่าวอุทกภัยฉางเจียง, การแพร่ระบาดโรคซาร์ส, และพายุหิมะที่เพิ่งถล่มจีนเมื่อต้นปีมักถูกเสนอข่าวดีเลย์ หรือมีการเสนอแบบกั๊ก ทว่าสำหรับธรณีพิโรธครั้งนี้ดูเหมือนรัฐบาลจีนได้ประมวลบทเรียนที่ผ่านๆมา

แม้นักข่าวต่างชาติอาจถูกห้ามไม่ให้เข้าไปในพื้นที่แผ่นดินไหวบางแห่ง ทว่านักข่าวจีนกลับเสนอข่าวสดทันเหตุการณ์ วินาทีต่อวินาที โดยเฉพาะซินหัวได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับประเด็นนี้ เสนอภาพอุปสรรคที่หน่วยกู้ภัยประสบ, อับเดทข้อมูลผู้เสียชีวิตอย่างรวดเร็ว

ศ. สื่อ กล่าวว่าเขารู้สึกประหลาดใจกับการเผยแพร่ข้อมูลครั้งนี้ นับเป็นการเปิดกว้างครั้งใหม่ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะกฎหมายใหม่ที่บังคับให้เจ้าหน้าที่เปิดเผยข้อมูลภัยพิบัติทางธรรมชาติกับสื่อ อย่างไรก็ตามศ.เน้นว่า โอลิมปิกมีส่วนสำคัญที่ทำให้จีนเปิดกว้างมากขึ้น

“นี่เป็นครั้งแรกที่สื่อจีนเสนอข่าวตามมาตรฐานนานาชาติ ผมคิดว่ารัฐบาลได้เรียนรู้บทเรียนจากอดีต” ศ.สื่อกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น