หนังสือพิมพ์สากล – หลังจากที่มีการเรียกร้องกันมานาน ในที่สุดก็มีการลงคะแนนและได้มติเอกฉันท์ที่จะแก้ไขโควตาและสิทธิการออกเสียงในกองทุนไอเอ็มเอฟใหม่ โดยในครั้งนี้ประเทศกำลังพัฒนาอย่างจีน อินเดีย จะได้โควตาเพิ่มขึ้นมาก
กองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือไอเอ็มเอฟ ได้มีมติเป็นเอกฉันท์ในการแก้ไขโควต้าและสิทธิในการออกเสียง ที่ถูกยื่นเสนอมาในวันที่ 28 มีนาคม โดยระบุว่าจะมีการเพิ่มโควต้าและสิทธิในการออกเสียงของจีนเพิ่มขึ้น
โดยในมติดังกล่าวประเทศที่ได้รับสิทธิเพิ่มขึ้นมากที่สุดได้แก่จีน เกาหลี อินเดีย บราซิล และเม็กซิโก ซึ่งจะทำให้จีนมีโควต้าในกองทุนไอเอ็มเอฟเพิ่มเป็น 3.997% และมีสิทธิในการออกเสียงเพิ่มเป็น 9.807% ส่วนอินเดียจะอยู่ที่ 2.443% กับ2.3338% ตามลำดับ โดยจีนจัดอยู่ในลำดับที่ 6 ส่วนอินเดียอยู่ในลำดับที่ 12
ทางกองทุนไอเอ็มเอฟได้เปิดเผยว่า การลงคะแนนจากประเทศสมาชิกทั้ง 185 เสียง มี 175 เสียงที่เห็นด้วยต่อการปรับเปลี่ยนดังกล่าว มี 3 เสียงที่คัดค้าน อีก 2 งดออกเสียง และอีก 5 เสียงไม่ได้เข้าร่วมลงความเห็น อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการโหวตผ่านไปด้วยมติเอกฉันท์แล้ว ทว่าข้อบังคับดังกล่าจะมีผลในวันที่ 31 ตุลาคาม เนื่องจากที่ต้องรอประเทศสมาชิกอีกหลายประเทศอนุมัติจึงจะมีผล
ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา หลายประเทศได้มีการเรียกร้องให้มีการปรับเปลี่ยนกลไก และโควต้าในกองทุนไอเอ็มเอฟซึ่งกำหนดไว้ตามความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ และสิทธิในการออกเสียงของไอเอ็มเอฟ เนื่องจากเศรษฐกิจของโลกได้เปลี่ยนไปมาก โดยมีจีน อินเดีย บราซิล เม็กซิโกที่มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว ทว่าแนวความคิดดังกล่าวก็ถูกจนทำให้เกิดผลกระทบต่อจุดยืนผู้นำกลุ่มอย่างสหรัฐและยุโรป อีกทั้งมีหลายประเทศที่กลัวว่าอิทธิพลของประเทศกำลังพัฒนาใหญ่ๆหลายประเทศอย่างจีนจะมีมากขึ้น
อย่างไรก็ตามนักวิชาการกลุ่มหนึ่งได้มองว่า การปรับในครั้งนี้ก็ไม่ได้ให้โควต้าในการออกเสียงกับประเทศกำลังพัฒนามากมายอะไรนัก โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ผ่าน การที่ไอเอ็มเอฟตกอยู่ในภาวะวิกฤติทางการเงิน ได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากภายนอกอย่างรุนแรง พร้อมระบุว่าอำนาจในการควบคุมเศรษฐกิจและตลาดการเงินโลกของไอเอ็มเอฟได้ลดลงตลอดเวลา
นาย โดมินิค สเตราส์ คาห์นประธานกองทุนไอเอ็มเอฟได้ระบุว่า “เราจะดำเนินการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องในอีก 10 ปีข้างหน้า” ในขณะที่เจ้าหน้าที่จากไอเอ็มเอฟได้เปิดเผยว่า ในอนาคตจะมีการประเมินประเทศสมาชิกใหม่ทุๆ 5 ปีเพื่อทำการจัดสรรสิทธิในการออกเสียง
ทั้งนี้ จากการปรับครั้งล่าสุด ได้ทำให้สิทธิในการออกเสียงจากประเทศที่พัฒนาแล้วลดลงจาก 59.5% เหลือ57.9% ในขณะที่ประเทศกำลังพัฒนานั้นเพิ่มขึ้นจาก 40.5% มาเป็น 42.1% โดยมีสหรัฐฯ ญี่ปุ่น เยอรมนี ฝรั่งเศส อังกฤษเป็นกลุ่มที่มีสิทธิในกองทุนไอเอ็มเอฟมากที่สุด โดยมีโควต้า 17.674% และมีสิทธิในการอกเสียง 16.732%
