หนุ่มนกหงส์กับสาวนกยูง ชีวิตรัก “ขมิ้นกับปูน”?

"ก่อนจะแต่งงานจะต้องพิจารณาในโลกของความเป็นจริงและเตรียมพร้อมเสียก่อน มิเช่นนั้นจะไม่สามารถเผชิญหน้ากับปัญหาที่จะตามมาในอนาคตได้"

“หนุ่มนกหงส์” ศัพท์ใหม่ที่เริ่มกลายเป็นที่นิยม โดยเฉพาะหลังมีการฉายซีรีย์ทีวีเรื่อง “ซินเจี๋ยฮุนสือไต้”(新结婚时代ยุคการแต่งงานใหม่) กับเรื่อง “ซวงเมี่ยนเจียว” (双面胶 กาวสองหน้า) ที่เนื้อหาจะเกี่ยวข้องกับการที่ “หญิงลูกเศรษฐี” ที่ถูกเรียกว่าสาวนกยูง ไปแต่งงานกับ “หนุ่มชนบทยากไร้” หรือหนุ่มนกหงส์ เนื่องจากมีปูมหลังทางครอบครัวที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ทำให้ชีวิตคู่นั้นมีแต่การทะเลาะเบาะแว้ง เหมือนขมิ้นกับปูน

ในเว็บไซต์ชื่อดังของจีนอย่างไปตู้ ด๊อท คอม ได้ทำการอธิบายคำศัพท์ดังกล่าวเอาไว้ว่า “หนุ่มนกหงส์” หมายถึง หนุ่มชนบทที่เป็นความหวังของครอบครัว มุมานะตั้งในร่ำเรียนมานับสิบปี ในที่สุดก็สามารเป็นเสมือนนกหงส์ทองที่บินออกจากหุบเหวได้ ลักษณะพิเศษก็คือเกิดมามีฐานะที่ค่อนข้างแย่ แต่มีความฉลาดและอดทนจึงสามารถกลายเป็นนกหงส์ได้ นอกจากนั้นความสำเร็จของเขาก็จะต้องมาจากน้ำพักน้ำแรงของตนเอง แต่ปัญหาของคนประเภทนี้ก็คือเขามีความน้อยเนื้อต่ำใจเก็บอยู่เสมอ แม้จะดูว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ก็มักจะเป็นต้นเหตุของความขัดแย้ง

ส่วน “สาวนกยูง” หมายถึงสาวที่เติบโตในเมืองหลวง เกิดในครอบครัวเศรษฐีอีกทั้งได้รับความดูแลเอาใจใส่ตามอกตามใจจากพ่อแม่ ตั้งแต่เล็กจนโตไม่เคยพบเจอกับควาทุกข์ยากอะไร มีจิตใจที่เรียบง่ายใสซื่อ มีคนคอยปรนนิบัติรับใช้ แน่นอนว่าบุคคลประเภทนี้ย่อมไม่รู้ถึงความสำคัญของเงิน ดังนั้นเวลาที่เลือกคู่ ก็จะไม่เคยสนใจพิจารณาถึงฐานะการเงินของฝ่ายชาย พวกเธอจะยกย่องเชิดชูแต่ความรักอันบริสุทธิ์ ให้ความสำคัญกับความสามารถของฝ่ายชาย

หลังจากซีรีย์ดังกล่าวได้สร้างความนิยมไปอย่างมากมายแล้ว ทำให้เกิดข้อสงสัยขึ้นว่า ชีวิตสมรสระหว่างหนุ่มนกหงส์ กับสาวนกยูงนั้น จะมีข้อขัดแย้งสารพัดสารพันอย่างที่เห็นในทีวีจริงหรือ? รักแท้จำเป็นต้องมีครอบครัวที่เหมาะสมกันจริงหรือ?

ล่าสุดทางหนังสือพิมพ์ชิงเหนียนเป้าของจีน ได้จับมือกับเว็บไซต์คิวคิว เพื่อทำการสำรวจความคิดเห็นจากกลุ่มหนุ่มสาวที่อายุต่ำกว่า 35 ปีจำนวน 1,075 คน ผลปรากฏว่ามีหนุ่มสาวจำนวนถึง 67.6% เชื่อว่าชีวิตคู่แบบนี้จะต้องเจอกับปัญหามาก 62.3% มองว่าปัญหาส่วนใหญ่เกิดจากความแตกต่างของสิ่งแวดล้อมที่โตมาในเมืองกับในชนบท 50.7% คิดว่าปัญหาเกิดจากครอบครัวของทั้งสองฝ่าย และ 26.2% มองว่าเป็นปัญหาของสังคมทั้งระบบ

เหอ เจี้ยนกั๋ว หนุ่มที่จบคณะคอมพิวเตอร์มหาวิทยาลัยชิงหัว มีเงินเดือนปีละ 120,000 หยวน (ราว 540,000 บาท) หน้าตาหล่อเหลาคล้ายพระเอกหนังเกาหลีใต้ ซ้ำยังทำกับข้าวเก่ง สามารถดูแลงานบ้านทุกอย่างได้อย่างดี นิสัยดี ซื่อสัตย์ และจะไม่ยอมปันใจเป็นอื่น ซึ่งเป็นบุคลิกของพระเอกในเรื่อง “ซินเจี๋ยฮุนสือไต้” ในเรื่องกู้ เสี่ยวซีนางเอกที่มาจากครอบครัวเศรษฐีก็ยินดีแต่งงานกับเขาด้วยความเต็มอกเต็มใจ ไม่ว่าใครจะห้ามปรามอย่างไรก็ตาม

แต่ในโลกของความเป็นจริง ก็มีหญิงผู้หนึ่งที่ชื่อ กัว หยวนหยวน เป็นแพทย์ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในมณฑลเหอเป่ย ที่มีชึวิตคล้ายกับกู้ เสี่ยวซีในหนังเรื่องดังกล่าว เพราะเธอเองก็ได้เจอผู้ชายที่เข้าข่าย “หนุ่มนกหงส์” และตอนนั้นเธอก็ตัดสินใจแต่งงานกับเขาโดยไม่สนใจคำทัดทานแต่อย่างใด

“คนๆหนึ่งมีข้อดีเป็นร้อย แต่มีข้อเสียเพียงอย่างเดียว ถึงกับจะทำให้รับไม่ได้เชียวหรือ?” กัว หยวนหยวนในอดีตก็ได้ตั้งคำถามนี้กับคนที่ตั้งข้อสงสัยในตัวแฟนของเธอ และมองเค้าเหล่านั้นว่ามอง “หนุ่มนกหงส์” ด้วยสายตาที่มีอคติ และเธอยังได้ใช้เหตุผลเดียวกันนี้ในการกลอ่มคุณพ่อคุณแม่ จนกระทั่งหลังจากคบหากันมา 8 ปีพวกเธอก็เดินเข้าสู่พิธีวิวาห์

“ตอนนั้นที่ฉันคัดค้านการแต่งงานของพวกเขา ก็เพราะว่าครอบครัวเรามีฐานะที่ไม่เหมาะสมกัน” คุณแม่ของกัวได้เล่าให้ฟังถึงความเห็นของเธอ โดยเล่าว่าในซีรีย์ที่ดู แม่ของกู้ เสี่ยวซีเองก็เคยห้ามไม่ให้แต่งงานกับเหอ เจี้ยนกั๋ว โดยให้เหตุผลว่า “คู่ครองจำเป็นต้องมีฐานะ และสถานะครอบครัวที่เหมาะสมกัน การแต่งงานของคนสองคน ก็คือการดองระหว่างสองครอบครัว เขาแต่งกับลูก ก็เท่ากับแต่งกับทุกอย่างของลูก ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ หรือความสถานะและความสัมพันธ์ในสังคม....”

ต่อกรณีดังกล่าว เหอ หยุนลู่ นักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญด้านชีวิตสมรสของจีนได้ระบุว่า “นี่เป็นกรณีที่พบเห็นได้บ่อยมาก ความขัดแย้งที่เกิดกับการอยู่ร่วมกันของคนทั้งสองประเภทนี้เกิดขึ้นนับไม่ถ้วน”

อย่างไรก็ตาม เธอก็ได้เตือนว่า “คู่ที่เกิดจากการรักข้างเดียวนั้น ถือว่าเป็นหายนะของชีวิตสมรส เพราะการแต่งงานคือการที่ทั้งสองคนจะต้องหารือการใช้ชีวิตร่วมกัน ดังนั้นก่อนจะแต่งงานจะต้องพิจารณาในโลกของความเป็นจริงและเตรียมพร้อมเสียก่อน มิเช่นนั้นจะไม่สามารถเผชิญหน้ากับปัญหาที่จะตามมาในอนาคตได้”