เอเยนซี่ – หม่าอิงจิ่วว่าที่ผู้นำไต้หวันประกาศ หลังตนเข้ารับตำแหน่งจะยกเลิกกฎห้ามลงทุนในจีนเกินกว่า 40% ของสินทรัพย์สุทธิ พร้อมเสนอโครงการปรับโฉมสนามบินนานาชาติเถาหยวนให้ทันสมัยทัดเทียมเพื่อนบ้าน
หม่าอิงจิ่วประกาศหลังจากการประชุมร่วมกับบริษัทด้านไฮเทคโนโลยีรายใหญ่ของไต้หวัน 8 รายเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (22 เม.ย.) ว่าหลังจากวันที่ 20 พ.ค. ซึ่งเป็นวันที่หม่าเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีไต้หวันอย่างเป็นทางการ จะยกเลิกข้อจำกัดที่ห้ามลงทุนในแผ่นดินใหญ่เกินกว่า 40% ของสินทรัพย์สุทธิ ที่วิสาหกิจไต้หวันส่วนใหญ่ตั้งตารอมานาน
นอกจากนี้หม่ายังกล่าวว่าจะเดินหน้าปฏิรูปลดภาษี และพยายามทำให้ไต้หวันกลายเป็น “สำนักงานใหญ่ของการบริหารธุรกิจทั่วโลก” ของนักธุรกิจไต้หวัน
มูลค่าการตลาดของบริษัทไฮเทคโนโลยีรายใหญ่ทั้ง 8 แห่งของไต้หวัน เช่น Acer, MiTAC รวมแล้วมากกว่า 1.3 ล้านล้านดอลลาร์ไต้หวัน หม่าอิงจิ่วซึ่งอยู่ระหว่างการรอเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งจึงให้ความสำคัญแก่บริษัทเหล่านี้อย่างมาก โดยจัดประชุมร่วมกันและสำรวจความเห็นและความต้องการของบริษัทเหล่านี้ ทั้งนี้หม่าหวังว่าจะใช้โอกาสนี้ดึงเงินลงทุนสู่ไต้หวันมากยิ่งขึ้น พร้อมกับดึงดูดบริษัทต่างชาติเข้ามาตั้งศูยน์วิจัยในไต้หวัน
อีกด้านหนึ่ง หม่าได้เสนอแผนให้ปรับโฉมสนามบินนานาชาติเถาหยวนที่ใช้งานมานาน โดยจะสร้างอาคารผู้โดยสารแห่งใหม่ เพิ่มรันเวย์และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ของสนามบิน
พร้อมกันนั้นจะสร้างเมืองบริวารที่ทันสมัยใกล้กับสนามบินดังกล่าวที่ตั้งอยู่ชานเมืองไทเปบนพื้นที่ 7,200 เฮคตาร์ ประกอบด้วยโรงแรม ห้างสรรพสินค้า ศูนย์แสดงสินค้า และเขตที่อยู่อาศัย สำหรับเงินลงทุนทั้งโครงการคาดว่าจะอยู่ที่ราว 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ไต้หวันหรือราว 395,900 ล้านเหรียญสหรัฐ
จูลี่หลุน นายอำเภอเถาหยวน ที่ตั้งของสนามบินนานาชาติคาดว่าสภานิติบัญญัติจะอนุมัติโครงการดังกล่าวอย่างรวดเร็วหลังจากที่หม่าอิงจิ่วนั่งเก้าอี้ผู้นำไต้หวันอย่างเป็นทางการ พร้อมกันนั้น จูยังกล่าวเชิญชวนให้นักลงทุนจากจีนแผ่นดินใหญ่เข้ามาลงทุนในโครงการดังกล่าว ทั้งนี้หลังจากปรับโฉมสนามบินใหม่แล้วคาดว่าจะสร้างรายได้ปีละ 600,000 ล้านเหรียญสหรัฐและสร้างงานถึง 80,000 ตำแหน่ง
สนามบินนานาชาติเถาหยวนใช้งานมานาน 28 ปีแล้ว เริ่มทรุดโทรมและมีเสียงวิจารณ์ว่าไม่มีประสิทธิภาพ ในการจัดอันดับคุณภาพของสนามบินนานาชาติ ไต้หวันอยู่ในอันดับที่ 98 จาก 136 แห่งทั่วโลก
หม่าอิงจิ่วประกาศหลังจากการประชุมร่วมกับบริษัทด้านไฮเทคโนโลยีรายใหญ่ของไต้หวัน 8 รายเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (22 เม.ย.) ว่าหลังจากวันที่ 20 พ.ค. ซึ่งเป็นวันที่หม่าเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีไต้หวันอย่างเป็นทางการ จะยกเลิกข้อจำกัดที่ห้ามลงทุนในแผ่นดินใหญ่เกินกว่า 40% ของสินทรัพย์สุทธิ ที่วิสาหกิจไต้หวันส่วนใหญ่ตั้งตารอมานาน
นอกจากนี้หม่ายังกล่าวว่าจะเดินหน้าปฏิรูปลดภาษี และพยายามทำให้ไต้หวันกลายเป็น “สำนักงานใหญ่ของการบริหารธุรกิจทั่วโลก” ของนักธุรกิจไต้หวัน
มูลค่าการตลาดของบริษัทไฮเทคโนโลยีรายใหญ่ทั้ง 8 แห่งของไต้หวัน เช่น Acer, MiTAC รวมแล้วมากกว่า 1.3 ล้านล้านดอลลาร์ไต้หวัน หม่าอิงจิ่วซึ่งอยู่ระหว่างการรอเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งจึงให้ความสำคัญแก่บริษัทเหล่านี้อย่างมาก โดยจัดประชุมร่วมกันและสำรวจความเห็นและความต้องการของบริษัทเหล่านี้ ทั้งนี้หม่าหวังว่าจะใช้โอกาสนี้ดึงเงินลงทุนสู่ไต้หวันมากยิ่งขึ้น พร้อมกับดึงดูดบริษัทต่างชาติเข้ามาตั้งศูยน์วิจัยในไต้หวัน
อีกด้านหนึ่ง หม่าได้เสนอแผนให้ปรับโฉมสนามบินนานาชาติเถาหยวนที่ใช้งานมานาน โดยจะสร้างอาคารผู้โดยสารแห่งใหม่ เพิ่มรันเวย์และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ของสนามบิน
พร้อมกันนั้นจะสร้างเมืองบริวารที่ทันสมัยใกล้กับสนามบินดังกล่าวที่ตั้งอยู่ชานเมืองไทเปบนพื้นที่ 7,200 เฮคตาร์ ประกอบด้วยโรงแรม ห้างสรรพสินค้า ศูนย์แสดงสินค้า และเขตที่อยู่อาศัย สำหรับเงินลงทุนทั้งโครงการคาดว่าจะอยู่ที่ราว 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ไต้หวันหรือราว 395,900 ล้านเหรียญสหรัฐ
จูลี่หลุน นายอำเภอเถาหยวน ที่ตั้งของสนามบินนานาชาติคาดว่าสภานิติบัญญัติจะอนุมัติโครงการดังกล่าวอย่างรวดเร็วหลังจากที่หม่าอิงจิ่วนั่งเก้าอี้ผู้นำไต้หวันอย่างเป็นทางการ พร้อมกันนั้น จูยังกล่าวเชิญชวนให้นักลงทุนจากจีนแผ่นดินใหญ่เข้ามาลงทุนในโครงการดังกล่าว ทั้งนี้หลังจากปรับโฉมสนามบินใหม่แล้วคาดว่าจะสร้างรายได้ปีละ 600,000 ล้านเหรียญสหรัฐและสร้างงานถึง 80,000 ตำแหน่ง
สนามบินนานาชาติเถาหยวนใช้งานมานาน 28 ปีแล้ว เริ่มทรุดโทรมและมีเสียงวิจารณ์ว่าไม่มีประสิทธิภาพ ในการจัดอันดับคุณภาพของสนามบินนานาชาติ ไต้หวันอยู่ในอันดับที่ 98 จาก 136 แห่งทั่วโลก