เอเอฟพี – หม่าอิงจิ่วเผย ซื้ออาวุธมะกันเป็นเรื่องจำเป็น เมื่อต้องเผชิญหน้ากับจีน ย้ำความมั่นคงเป็นสิ่งสำคัญ แต่ต้องไม่ยั่วยุ ท้าทายจีน เพื่อสันติภาพช่องแคบ
ในงานสัมมนาร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารเมื่อวันอังคาร (26 ก.พ.) หม่าอิงจิ่ว ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีไต้หวัน จากพรรคกั๋วหมินตั่ง (ก๊กมินตั๋ง) กล่าวว่า
“ขณะที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนกำลังพัฒนากองทัพ ไต้หวันต้องสร้างกองทัพให้มีขนาดพอเหมาะ, แข็งแกร่ง แต่มีประสิทธิภาพมากกว่านี้ เป็นกองกำลังที่สามารถบดขยี้ศัตรูได้ตั้งแต่เปิดฉากสงคราม หากเราสามารถพัฒนากองทัพได้ตามแนวทางนี้ พรรคคอมมิวนิสต์จะละทิ้งความคิดว่า การยึดครองไต้หวัน จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อจีนเพียงเล็กน้อย”
นอกจากนี้หม่ายังย้ำกับ ผู้เชี่ยวชาญด้านการทหาร และนายพลปลดเกษียณให้รอบคอบ ระวังประเด็นเรื่องการทหารเป็นพิเศษ เนื่องจากการเพิ่มปริมาณอาวุธไม่เพียงสร้างความกังวลให้กับจีนเท่านั้น แต่ยังมีผลกระทบถึงประเทศเพื่อนบ้าน
“แนวทางของผมไม่ใช่การสะสมอาวุธแข่งกับจีน เนื่องจากสถานะเศรษฐกิจไต้หวันไม่สามารถรองรับการแข่งขัน กับจีนที่มีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างร้อนแรงได้ งบประมาณทางทหารควรอยู่ที่ 3% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) หากได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีผมจะสั่งซื้อ เอฟ-16 จากสหรัฐฯ รวมทั้งอาวุธสำคัญจากประเทศอื่นๆ แต่ผมจะไม่ใช้มาตรการที่เป็นการยั่วยุจีน จะเน้นนโยบายดำรงรักษาสถานะปัจจุบัน (status quo) ในความสัมพันธ์ช่องแคบ ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย ทั้งญี่ปุ่น, สหรัฐฯ และจีน”
ที่ผ่านมารัฐบาลไต้หวันภายใต้การนำของประธานาธิบดี เฉินสุยเปี่ยน แห่งพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (ดีพีพี) ดำเนินนโยบายที่แข็งกร้าว และยั่วยุจีนมาตลอด ในปี 2007 มีการเพิ่มงบกระทรวงกลาโหมจาก 2.6% ในปี 2006 เป็น 2.85%ของจีดีพี