ไชน่าเดลี่ - กว่า 20 ปีที่เกาะไห่หนัน หรือ ไหหลำ กลายเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษที่ใหญ่ที่สุด มาวันนี้ไหหลำกำลังเบนหัวเรือใหญ่ มุ่งสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแบบเต็มลูกสูบ ทำภูเก็ตร้อนๆ หนาวๆ
เมื่อเร็วๆ นี้ รัฐสภาจีนได้ตอบรับแผนการพัฒนาไหหลำให้กลายเป็น “เกาะท่องเที่ยวนานาชาติ” โดยได้เรียกร้องให้กระทรวง ทบวง กรม ต่างๆ สนับสนุนแผนดังกล่าวอย่างแข็งขัน นอกจากนี้คณะรัฐมนตรีจีนยังได้อนุมัติการจัดตั้งร้านค้าปลอดภาษี (duty-free shops) ในเมืองไหโข่ว ซันย่า ฉงไห่ และ วั่นหนิง เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวของเกาะ
การไฟเขียวให้ตั้งร้านค้าปลอดภาษีนั้นก็ถือเป็นหนทางสำคัญในการกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวให้มากขึ้น เมื่อดูจาก ฮ่องกง สิงคโปร์ และบาหลี ของอินโดนิเซีย ที่พิสูจน์ทฤษฎีนี้ให้ประจักษ์แล้ว
โดยปีที่แล้ว ร้านค้าปลอดภาษีในจีน 129 แห่ง มียอดจำหน่ายถึง 4,980 ล้านหยวน (711 ล้านเหรียญสหรัฐ) อย่างไรก็ตาม เนื่องจากที่ผ่านมาการจัดตั้งร้านค้าปลอดภาษีในจีนนั้นจะต้องดำเนินการภายใต้ขั้นตอนที่ควบคุมอย่างเข้มงวด และส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ในสนามบิน สำหรับให้นักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางออกนอกประเทศได้ชอปปิ้ง ดังนั้นผลกระทบต่อการดึงดูดเงินในกระเป๋านักชอปต่างชาติ จึงมีไม่มากนัก การกระตุ้นให้มีการเปิดร้านในตัวเมืองต่างๆ จึงเป็นทางเลือกที่น่าทดลอง
เว่ย หลิ่วเฉิง หัวหน้าพรรคคอมมิวนิสต์ประจำไหหลำเชื่อว่า “สิ่งแวดล้อมที่เป็นธรรมชาติและโดดเด่นของไหหลำสามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศได้ในอีก 5-10 ข้างหน้า โดยเราจะให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวมากกว่าวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี”
นอกจากนี้ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมป่าไม้ หาดทราย จุดท่องเที่ยวที่สวยงาม และวัฒนธรรมพื้นบ้านของไหหลำ ทางเกาะได้ผุดนโยบายพิเศษต่างๆ มากมาย อาทิ การอนุญาตไม่ต้องขอวีซ่าเข้าไหหลำ และเสรีภาพการบินตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้น จางฉี ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวประจำไหหลำกล่าว
โดยตั้งแต่ปี 2002 เป็นต้นมา จีนได้ไฟเขียวให้กรุ๊ปทัวร์ที่มีนักท่องเที่ยวมากกว่า 5 คน จาก 21 ประเทศ สามารถเข้าไหหลำได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า แต่ทางรัฐบาลท้องถิ่นก็คิดว่านี่ยังไม่เพียงพอ และต้องการให้ขยายนโยบายยกเว้นวีซ่าให้ครอบคลุมนักท่องเที่ยวที่ไม่ได้มาเป็นกรุ๊ปด้วย
ขณะเดียวกัน ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวต่างตอบรับนโยบายผลักดันไหหลำให้กลายเป็นสวรรค์ของนักท่องเที่ยว โดยมีโรงแรมชั้นนำของโลก เริ่มลงเสาก่อสร้างโรงแรมบริเวณอ่าวไห่ถัง เมืองซันย่า เพื่อปรับโฉมอ่าวดังกล่าวให้กลายเป็นจุดท่องเที่ยวและพักผ่อนหย่อนใจสำคัญของไหหลำ
ทั้งนี้ เมื่อปี 2007 ที่ผ่านมา ไหหลำดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในและนอกประเทศมากถึง 18.4 ล้านคน เก็บเกี่ยวผลประโยชน์ไปถึง 17,100 ล้านหยวน เมื่อเทียบกับปี 1987 แล้ว จำนวนนักท่องเที่ยวของไหหลำเพิ่มขึ้นถึง 24 เท่า ขณะที่รายได้จากการนี้เพิ่มขึ้นถึง 150 เท่าเลยทีเดียว
โดยก่อนหน้านี้เคยมีรายงานข่าวว่า นักท่องเที่ยวจีนที่เคยนิยมชมชอบมาท่องเที่ยวที่ภูเก็ต ได้เริ่มหันไปพักผ่อนยังเกาะไหหลำ ทางใต้ของจีนบ้านเกิดแทน ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ยอดนักท่องเที่ยวจีนในภูเก็ตลดจำนวนลง เนื่องจากไหหลำมีทัศนียภาพที่ไม่น้อยหน้าชายหาดภูเก็ต อีกทั้งการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศของชาวหยุนหนัน (ยูนนาน) เองย่อมสะดวกกว่าต้องข้ามน้ำข้ามทะเลมาเที่ยวเมืองไทย ซึ่งสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้กว่าครึ่ง