หนังสือพิมพ์สากล / ซีน่าเน็ต – หลังเลือกตั้งประธานาธิบดีไปแล้ว ล่าสุดไต้หวันได้เปิดเผยโผว่าที่ครม.ชุดแรกที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งภายใต้ผู้นำคนใหม่หม่า อิงจิ่ว โดยโพลสำรวจประชาชนเกินครึ่งที่ยอมรับหน้าตาของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีดังกล่าว ในขณะที่ข่าวลือหนาหูว่า ทางสำนักงานอัยการเตรียมไม่อนุญาตให้เฉิน สุยเปี่ยนและภริยาออกต่างประเทศหลังลงจากตำแหน่ง เพื่อป้องกันการหลบหนีจากคดีคอร์รัปชั่น
เมื่อวันจันทร์ (21 เม.ย.) ไต้หวันได้เปิดโผว่าที่นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ที่เตรียมจะเข้ามาทำงานหลังจากที่คณะรัฐบาลเก่าจะหมดวาระลงไปพร้อมกับการลงจากตำแหน่งของประธานาธิบดีเฉิน สุยเปี่ยนในวันที่ 20 พ.ค.นี้
โดยว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่นายหลิว เจ้าเสวียนกับรองนายกรัฐมนตรีชิว เจิ้งสงได้ร่วมกันแถลงข่าว โดยคณะรัฐมนตรีชุดแรกโดยมีรัฐมนตรีสำคัญๆจากกระทรวงต่างๆได้แก่นายเซียว์ เซียงชวน ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะรัฐมนตรี หวัง ชิงเฟิงดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม โอว เผิงเลี่ยนเป็นรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศ อิ่น ฉี่หมิงเป็นรัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจ เหมา จื้อกั๋วเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
หลิว เจ้าเสวียนกับชิว เจิ้งสงได้เปิดเผยต่อนักข่าวว่า การทำงานในอนาคตของคณะรัฐมนตรีชุดใหม่นี้มีเป้าหมายที่จะให้เป็นการบริหารงานที่สุจริต มีความเป็นมืออาชีพ เป็นบุคคลรุ่นใหม่ กระจายความมั่งคั่ง และพลิกโฉมหน้าไต้หวัน
“รายชื่อของคณะรัฐมนตรีนอกจากตำแหน่งในส่วนของการป้องกันประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระหว่างกิจการของสองฟากฝั่งแล้ว คนอื่นๆส่วนใหญ่ผมได้การนำเสนอรายชื่อเพื่อหารือกับหม่า อิงจิ่ว และเซียว วั่นฉาง และร่วมหารือกัน 3 คนก่อนที่จะมีการตัดสินใจ” หลิว ระบุ
นอกจากนั้นยังมีการประกาศว่า “จะแก้ถือการปัญหาความเป็นอยู่ของชาวบ้านเป็นประเด็นสำคัญ และจะคอยผลักดันเร่งรัดทีมงานทุกคน ให้ลุยทำงานหนักตั้งแต่รับตำแหน่ง และจะต้องมีผลงานตั้งแต่วันแรก”
“เนื่องจากชาวไต้หวันได้ตั้งความหวังเอาไว้สูง สมาชิกในคณะรัฐมนตรีทุกคนจึงต้องเสนอวิธีการแก้ปัญหา และปรับปรุงสิ่งต่างๆให้ดีขึ้นในระยะเวลาสั้นที่สุด ฉะนั้นเราจึงคัดเลือกบุคคลที่มีประสบการณ์และความสามารถเข้ามา เพราะเราไม่มีเวลารอให้มานั่งปรับตัวใหม่อีก” เฉินระบุ
โพลหนุนว่าที่รัฐบาลใหม่
หลังจากที่มีการประกาศรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดแรกจำนวน 17 คน ที่จะเข้ามาทำงานกับนายกรัฐมนตรี และประธานาธิบดีหม่า อิงจิ่วแล้ว ล่าสุดสถานีโทรทัศน์ทีวีบีเอสของไต้หวัน ได้ทำโพลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนออกมา โดยพบว่ามีชาวไต้หวันที่พอใจกับโผรายชื่อดังกล่าวมากถึง 56% โดยมีผู้ที่ไม่เห็นด้วยเพียง 10%เท่านั้น
โดยในจำนวนคนที่รับการสำรวจ มี 56% ที่ระบุว่ามีความเชื่อมั่นว่าทีมงานภายใต้การนำภาของหลิว เจ้าเสวียนจะสามารถผลักดันเศรษฐกิจให้ดีขึ้นได้ แต่ก็มีผู้ที่รู้สึกว่าไม่มั่นใจอยู่ 16%
“เฉิน” อาจถูกสั่งห้ามออกตปท.
สื่อไต้หวันยังรายงานว่า ช่วงที่ผ่านมามีแหล่งข่าววงในจากสำนักงานอัยการได้เปิดเผย ว่าจากการที่ตอนนี้เฉิน สุยเปี่ยนและภรรยา ยังมีคดีคอร์รัปชั่นอยู่ ดังนั้นทางสำนักงานอัยการไทเป จึงคิดที่จะควบคุมไม่ให้เฉินกับภริยาออกนอกประเทศหลังจากที่ลงจากตำแหน่งแล้ว เพราะหากปล่อยให้เฉิน และภรรยาหลบหนีไปต่างประเทศ การจะทำเรื่องเพื่อขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนจะยากและวุ่นวายมาก
อย่างไรก็ตาม เมื่อได้สอบถามเรื่องดังกล่าวไปยังสำนักงานอัยการ ทางสำนักงานอัยการเลือกที่จะ “ไม่ให้ความเห็น” และไม่ปฏิเสธ ซึ่งการกระทำดังกล่าว ยิ่งทำให้เฉิน ที่ไม่กลายเป็นข่าวมานาน กลับยิ่งมีความสนใจว่า ท้ายที่สุดแล้วเฉินจะมีจุดจบเช่นไรหลังหมดวาระการเป็นประธานาธิบดี
ในขณะที่เฉินเองเคยกล่าวรับรองก่อนหน้านี้ว่า ตนเองจะไม่มีวันหลบหนีอย่างแน่นอน โดยให้เหตุผลว่าภรรยาของตนเป็นคนที่ต้องอยู่บนรถเข็น การจะหลบหนีจึงเป็นเรื่องที่ลำบาก ซึ่งการรับรองดังกล่าว ก็ถูกตีความไปว่าหากภรรยามิได้เป็นผู้พิการ แปลว่าหลังจากลงตำแหน่งเขาอาจมีความคิดหลบหนี ซึ่งทำให้หลายฝ่ายมองว่าความคิดที่เฉินจะหลบหนีนั้นมีความเป็นไปได้สูง
การที่เฉินให้คำ “รับรอง” ว่าจะไม่หลบหนีนั้น เมื่อดูจากในระยะเวลา 8 ปีที่เขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ยิ่งเป็นการตอกย้ำว่าการ “รับรอง” ของเขามีน้ำนักน้อยถึงเพียงไหน บวกกับข่าวที่ลือออกมาว่า ในช่วงนี้ ทางทำเนียบประธานาธิบดีได้จ่ายเงินไปถึงกว่า 2,000,000 เหรียญไต้หวันซื้อเครื่องทำลายเอกสาร เพื่อเร่งความเร็วในการทำลายเอกสารที่เกี่ยวข้องกับงานของประธานาธิบดีในมือของเขาให้เร็วขึ้น
ไม่เพียงเท่านั้น ขณะนี้ยังมีประชาชนแล้วชาวเน็ตอีกจำนวนมาก ที่อยากจะให้มีการรื้อคดีการลอบยิง “เฉิน” เมื่อคราวก่อนเลือกตั้งเข้าดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีครั้งที่ 2 เพื่อคืนความเป็นธรรมให้กับสังคม เพราะที่ผ่านมา มีคนจำนวนไม่น้อยที่เชื่อมั่นว่า การที่เฉินถูกยิงในครั้งนั้น เป็นการจัดฉากของเฉินเอง เพื่อให้ได้มาซึ่งคะแนนเสียงจากการเลือกตั้ง
ทั้งนี้เมื่อวัน 3 พ.ย. 2006 อัยการไต้หวันได้ยื่นฟ้องดำเนินคดีต่อภรรยาและอดีตคนสนิทของประธานาธิบดีเฉิน สุยเปี่ยน ข้อหายักยอกปลอมเอกสาร พร้อมระบุว่ามีหลักฐานมากพอดำเนินคดีกับเฉินในข้อหาคอร์รัปชั่นงบลับทางการทูต แต่ต้องรอลงจากตำแหน่ง เพราะมีเอกสิทธิคุ้มครองในฐานะผู้นำประเทศ ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงที่เขาจะถูกดำเนินคดีหลังจากหมดวาระ