xs
xsm
sm
md
lg

ฮ่องกงยี้ “ข้าวไทย” ราคาแพงลิบ หันกิน “ข้าวแผ่นดินใหญ่” แทน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ชาวฮ่องกงเริ่มซื้อข้าวกักตุนหลังข้าวจากไทยมีราคาแพงขึ้น
เอเยนซี – หลังจากอุปทานข้าวในตลาดโลกขาดแคลน บวกกับการส่งสัญญาณทางจิตวิทยาจากผู้รับผิดชอบที่ทำให้ข้าวไทยราคาแพงหูฉี่จนส่งผลกระทบทั้งในและนอกประเทศ ทำให้ผู้นำเข้าฮ่องกงจับมือทางการ ลดขั้นตอนที่ยืดเยื้อและสิ้นเปลืองหันนำเข้าข้าวจากจีนแผ่นดินใหญ่ที่ถูกกว่ามาทดแทน

หลังจากที่หนังสือพิมพ์เหวินฮุ่ย ของฮ่องกงได้รายงานว่า ข้าวจากประเทศไทยแพงและขาดแคลน ทำให้ส่งผลกระทบต่อฮ่องกง ทำให้ราคาข้าวพุ่งขึ้นไปเรื่อยๆ และอาจจะทำให้ราคาขายปลีกของข้าวในฮ่องกงพุ่งขึ้นไปอีก 20-30% จนทำให้เกิดการแย่งซื้อและกักตุนข้าวในช่วงที่ผ่านมา

ล่าสุด จากกรณีของข้าวไทยนี้ ทำให้สมาคมผู้นำเข้าข้าวของฮ่องกงต้องประชุมหารือร่วมกับทางการฮ่องกง เพื่อหาวิธีการรับมือ โดยมองว่าจะนำเข้าข้าวจากจีนแผ่นดินใหญ่มากขึ้น

คนในวงการข้าวของฮ่องกงได้เปิดเผยว่า แม้ว่าจะไม่มีการจำกัดข้าวที่นำเข้าจากแผ่นดินใหญ่ ทว่าขณะนี้ขั้นตอนการนำเข้าอาจจะยุ่งยากซับซ้อนอยู่บ้าง ดังนั้นจึงอยากให้ทางการของฮ่องกงเข้ามาช่วยเหลือ ในการแก้ปัญหาด้วยการลดขั้นตอนการนำเข้าข้าวจากแผ่นดินใหญ่

คุณหวง หนึ่งในนักธุรกิจข้าวของฮ่องกงได้อธิบายว่า ที่ผ่านมานั้น แม้จะไม่มีการจำกัดโควต้านำเข้าข้าวจากแผ่นดินใหญ่ แต่เป็นเพราะปกติชาวฮ่องกงนิยมกินข้าวของไทยมากกว่า บวกกับขั้นตอนและค่าใช้จ่ายจากนำเข้าข้าวจากจีนที่สูง ซึ่งขั้นตอนนี้เริ่มจากผู้นำเข้าฮ่องกง จะต้องไปหาบริษัทนำเข้าส่งออกในแผ่นดินใหญ่ จากนั้นก็ให้เจ้าหน้าที่ทางการที่เกี่ยวข้องมาร่วมเซ็นสัญญาในการซื้อข้าว จากนั้นก็ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมตามสัดส่วนการซื้อ แล้วค่อยนำเข้าข้าวจากแผ่นดินใหญ่มาฮ่องกง ซึ่งในอดีตเมื่อรวมๆแล้ว ราคาข้าวของจีนที่ถูกกว่าเมื่อมาถึงฮ่องกงก็มีต้นทุนใกล้เคียงกับข้าวไทย ผู้คนส่วนใหญ่จึงเลือกกินข้าวจากไทย ทว่าขณะนี้ข้าวไทยขึ้นไปเป็นตันละ 800 -1,000 เหรียญสหรัฐฯแล้ว ในขณะที่ข้าวจากแผ่นดินใหญ่ยังอยู่ในราคาเพียง 750 เหรียญสหรัฐฯ

นอกจากนั้นยังมีการปล่อยข่าวจากทางประเทศไทยว่า ในเดือนพ.ค.-มิ.ย.ข้าวไทยจะขาดแคลนอย่างหนัก และอาจจะทำให้ราคาข้าวพุ่งขึ้นไปถึง 2,000 เหรียญสหรัฐฯ ดังนั้นจึงต้องมีการร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการนำเข้าข้าวกับทางการฮ่องกงเพื่อหาทางนำข้าวเข้าจากแผ่นดินใหญ่มาทดแทน เพื่อป้องกันการขาดแคลนข้าว

ทั้งนี้ นายหลี่ ก่วงผู้จัดการใหญ่บริษัทนำเข้าข้าวจากไทยได้เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมาเนื่องจากการเก็บเกี่ยวข้าวของไทยกับเวียดนามไม่ได้ผลเท่าที่ควร ทำให้มีอุปทานลดลง มีการส่งออกเพิ่มขึ้นเพียง 30% อีกทั้งสินค้าที่ส่งออกก็มีราคาแพงขึ้น ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ข้าวของฮ่องกงมีราคาสูงขึ้นราว 20% หรือเฉลี่ยราคาขายปลีกอยู่ที่ 8-10 ดอลลาร์ฮ่องกง ยิ่งภายหลังเกิดกระแสการแย่งซื้อข้าวแล้ว ยิ่งทำให้ข้าวขายหมดเร็วขึ้นถึง 1 เท่าตัว
ในหลายที่ข้าวถูกซื้อจนหมดจากชั้นวางจำหน่าย
พัฒนาภาคเกษตรรับมือวิกฤติอาหารโลก

พร้อมกันนั้น ในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีเวิน เจียเป่าได้เปิดเผยว่าขณะนี้จีนมีปริมาณข้าวและอาหารสำรองอย่างเพียงพอ และในขณะนี้ชาวจีนมีศักยภาพในการผลิตอาหารเลี้ยงดูตนเองได้ และการที่ประเทศซึ่งมีประชากรกว่า 1.3 พันล้านคนสามารถหาข้าวให้ตัวเองกินได้นั้น ถือว่าเป็นประโยชน์ต่อชาวโลกเป็นอย่างยิ่ง

เวิน เจียเป่าได้เน้นย้ำว่า จะต้องมีการเร่งพัฒนาการเกษตรในจีนเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังจะต้องช่วยประกันตลาด ลดเงินเฟ้อ เพื่อรับมือกับปัญหาความมั่นคงทางอาหารของตลาดโลก พร้อมระบุว่า การมองปัญหาสินค้าเกษตรนั้น ไม่เพียงแต่จะต้องดูภายในประเทศ แต่จะต้องมองรวมไปถึงทั่วโลกด้วย และการมองนั้นไม่เพียงแต่มองในปีนี้ แต่จะต้องเป็นการมองระยะยาวเนื่องจากความเปลี่ยนแปลงในปัจจุบันค่อนข้างซับซ้อน

โดยเวินได้เปิดเผยว่า ขณะนี้จีนมีปริมาณอาหารสำรองถึง 150-200 ตัน ซึ่งเป็นการสำรองที่สูงกว่าระดับมาตรฐานเฉลี่ยของโลกถึง 1 เท่าตัว นอกจากนั้นรัฐบาลเองก็ให้ความสำคัญกับการผลิตอาหาร และออกมาตรการชุดมาเพื่อสนับสนุนการเกษตร โดยก่อนหน้านี้ก็ได้มีการจัดเงินทุน 562,500 ล้านหยวนเพื่อสนับสนุนภาคการเกษตร มากกว่าในปีที่ผ่านมาถึง 130,700 ล้านหยวน

ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมาจีนและเวียดนามได้ประกาศลดการส่งออกข้าวเป็นจำนวนมาก โดยเวียดนามได้ประกาศเมื่อวันที่ 28 มี.ค.ว่าจะลดการส่งออกข้าวลง 22% ส่วนทางอินเดียก็ประกาศปรับขึ้นราคาข้าวส่งออกจากตันละ 650 เหรียญสหรัฐฯ เป็น 1,000 เหรียญสหรัฐฯเพื่อแก้ปัญหาเงินเฟ้อภายในประเทศ ด้านประเทศกัมพูชาและอียิปต์ก็ประกาศงดการส่งออกข้าว บวกกับการที่ผู้รับผิดชอบของไทยได้ส่งสัญญาณราคาข้าวที่จะพุ่งไปถึง 30,000 บาทต่อตัน อีกทั้งไม่มีการกำหนดเพดานราคาภายในประเทศจนทำให้มีการกักตุนข้าวอย่างหนัก และส่งผลให้ราคาข้าวทั้งในไทยและต่างประเทศมีราคาสูงขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้คุณเหมย ซินอี้ว์ นักวิเคราะห์จากฮ่องกงได้ฟันธงไว้ว่า การที่ข้าวมีราคาสูงขึ้นนั้น ผู้ที่ได้ประโยชน์จริงเป็นพ่อค้าคนกลาง ไม่ใช่เกษตรกร

กำลังโหลดความคิดเห็น