มูลนิธิประเมินค่าทรัพย์สินฯ เผย ราคาอสังหาฯใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ลดลง สาเหตุมาจากมั่นคงและปัญหาการเมือง หากประเทศไทยสูญเสียจังหวัดชายแดนภาคใต้ไป ทำให้รัฐสูญเสีญรายได้มหาศาล!
นายโสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการมูลนิธิประเมินค่าทรัพย์สินแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าภัยความมั่นคงภาคใต้ทำให้มูลค่าอสังหาริมทรัพย์ลดลง 52,178 ล้านบาท ขณะที่สถานการณ์ก็ยังไม่มีแนวโน้มที่จะดีขึ้น อีกทั้ง " มีรายงานผลการสำรวจเบื้องต้นเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงมูลค่าอสังหาฯประเทศไทยและภัยความมั่นคงต่อมูลค่าอสังหาฯ " ซึ่งได้ดำเนินการประมาณการมูลค่าทรัพย์สินทั่วประเทศ เมื่อ กลางปี 50 ที่ผ่านมา
จากการศึกษามูลค่าอสังหาฯโดยรวมของประเทศไทย ซึ่งหมายเฉพาะถึงที่อยู่อาศัยทุกประเภทและที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม (ไม่รวมที่ดินป่าเขา อสังหาฯเพื่อการพาณิชย์ เพื่อการอุตสาหกรรมหรือเพื่อการพักผ่อนและอื่น ๆ) พบว่า อสังหาฯที่ศึกษามีมูลค่ารวมกัน 47 ล้านล้านบาท ซึ่งหากเทียบกับผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ (GDP) ณ ราคาตลาด ปี พ.ศ. 2548 (ล่าสุด) ที่ 7ล้านล้านบาท ก็จะเท่ากับ 7 เท่าของ GDP แต่หากเทียบกับงบประมาณแผ่นดินของไทย ณ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 ที่ 1.5 ล้านล้านบาท ก็จะพบว่ามูลค่าอสังหาฯที่ประมาณการไว้ในการศึกษานี้ เป็นถึง 30 เท่าของงบประมาณแผ่นดิน
ทั้งนี้ ภูมิภาคกรุงเทพฯและและปริมลฑล มีอสังหาฯรวมกันเป็นมูลค่าสูงสุดถึง 12,798,695.6 ล้านบาท แยกเป็น ที่อยู่อาศัย 10,539,566.3 ล้านบาท และที่ดินเพื่อการเกษตรกรรมเพียง 2,259,129.3 ล้านบาท ส่วนอันดับสองรองลงมา ที่มีมูลค่าสูงสุดก็คือ ภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมีมูลค่ารวม 11,650,105.3 ล้านบาท แยกเป็น ที่อยู่อาศัย 5,610,212.5 ล้านบาท และที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม 6,039,892.9 ล้านบาท
นายโสภณ ชี้ว่า สำหรับภัยความมั่นคงกับการลดลงของมูลค่าอสังหาฯ มาจากความมั่นคงและปัญหาการเมือง หากไม่มีปัญหาความมั่นคง ราคาอสังหาฯใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ก็อาจมีการเพิ่มขึ้นในอัตราเฉลี่ยเช่นเดียวกับทั่วประเทศ โดยประมาณการเป็นเงิน 544,444 ล้านบาทในปี 50 แต่เนื่องจากมูลค่า ณ ปี 50 (492,266 ล้านบาท) ลดต่ำลงกว่าการคาดหมาย (544,444 ล้านบาท) แสดงว่า มูลค่าทรัพย์สินได้หายไป อันเนื่องมาจากปัญหาความไม่มั่นคงถึง 52,178 ล้านบาท ทั้งนี้ ยังไม่นับรวมชีวิตและทรัพย์สินที่สูญเสียไปอีก
หากประเทศไทยสูญเสียจังหวัดชายแดนภาคใต้ไปในปี 50 ก็หมายถึงมูลค่าอสังหาฯที่สูงถึง 492,266 ล้านบาทได้สูญเสียไปด้วย ซึ่งนับเป็นประมาณหนึ่งในสาม หรือคิดเป็น 31%ของงบประมาณแผ่นดินปี 50 (1,566,200 ล้านบาท) ทั้งนี้ ยังไม่นับรวมทรัพย์สินอื่น ทั้งอสังหาฯในเชิงพาณิชย์ อุตสาหกรรมและการพักผ่อน ตลอดจนสาธารณูปโภคและสินแร่ ป่าไม้ต่าง ๆ
นายโสภณกล่าวว่า มูลค่าอสังหาฯของประเทศไทยยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง (ยกเว้น 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้) ทั้งนี้ มูลค่าอสังหาฯจะเพิ่มหรือลด ก็ขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจของประเทศเป็นสำคัญ ความสูญเสียมูลค่าทรัพย์สินประมาณ 52,178 ล้านบาทนี้ นับว่ามหาศาล แต่หากนับรวมความสูญเสียชีวิต ทรัพย์สิน การบาดเจ็บจนพิการหรือรักษากันเป็นเงินมากมาย ก็นับเป็นความสูญเสียที่ไม่น่าเกิดขึ้นในประเทศที่เคยสงบร่มเย็นเช่นประเทศไทย
นายโสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการมูลนิธิประเมินค่าทรัพย์สินแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าภัยความมั่นคงภาคใต้ทำให้มูลค่าอสังหาริมทรัพย์ลดลง 52,178 ล้านบาท ขณะที่สถานการณ์ก็ยังไม่มีแนวโน้มที่จะดีขึ้น อีกทั้ง " มีรายงานผลการสำรวจเบื้องต้นเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงมูลค่าอสังหาฯประเทศไทยและภัยความมั่นคงต่อมูลค่าอสังหาฯ " ซึ่งได้ดำเนินการประมาณการมูลค่าทรัพย์สินทั่วประเทศ เมื่อ กลางปี 50 ที่ผ่านมา
จากการศึกษามูลค่าอสังหาฯโดยรวมของประเทศไทย ซึ่งหมายเฉพาะถึงที่อยู่อาศัยทุกประเภทและที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม (ไม่รวมที่ดินป่าเขา อสังหาฯเพื่อการพาณิชย์ เพื่อการอุตสาหกรรมหรือเพื่อการพักผ่อนและอื่น ๆ) พบว่า อสังหาฯที่ศึกษามีมูลค่ารวมกัน 47 ล้านล้านบาท ซึ่งหากเทียบกับผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ (GDP) ณ ราคาตลาด ปี พ.ศ. 2548 (ล่าสุด) ที่ 7ล้านล้านบาท ก็จะเท่ากับ 7 เท่าของ GDP แต่หากเทียบกับงบประมาณแผ่นดินของไทย ณ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 ที่ 1.5 ล้านล้านบาท ก็จะพบว่ามูลค่าอสังหาฯที่ประมาณการไว้ในการศึกษานี้ เป็นถึง 30 เท่าของงบประมาณแผ่นดิน
ทั้งนี้ ภูมิภาคกรุงเทพฯและและปริมลฑล มีอสังหาฯรวมกันเป็นมูลค่าสูงสุดถึง 12,798,695.6 ล้านบาท แยกเป็น ที่อยู่อาศัย 10,539,566.3 ล้านบาท และที่ดินเพื่อการเกษตรกรรมเพียง 2,259,129.3 ล้านบาท ส่วนอันดับสองรองลงมา ที่มีมูลค่าสูงสุดก็คือ ภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมีมูลค่ารวม 11,650,105.3 ล้านบาท แยกเป็น ที่อยู่อาศัย 5,610,212.5 ล้านบาท และที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม 6,039,892.9 ล้านบาท
นายโสภณ ชี้ว่า สำหรับภัยความมั่นคงกับการลดลงของมูลค่าอสังหาฯ มาจากความมั่นคงและปัญหาการเมือง หากไม่มีปัญหาความมั่นคง ราคาอสังหาฯใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ก็อาจมีการเพิ่มขึ้นในอัตราเฉลี่ยเช่นเดียวกับทั่วประเทศ โดยประมาณการเป็นเงิน 544,444 ล้านบาทในปี 50 แต่เนื่องจากมูลค่า ณ ปี 50 (492,266 ล้านบาท) ลดต่ำลงกว่าการคาดหมาย (544,444 ล้านบาท) แสดงว่า มูลค่าทรัพย์สินได้หายไป อันเนื่องมาจากปัญหาความไม่มั่นคงถึง 52,178 ล้านบาท ทั้งนี้ ยังไม่นับรวมชีวิตและทรัพย์สินที่สูญเสียไปอีก
หากประเทศไทยสูญเสียจังหวัดชายแดนภาคใต้ไปในปี 50 ก็หมายถึงมูลค่าอสังหาฯที่สูงถึง 492,266 ล้านบาทได้สูญเสียไปด้วย ซึ่งนับเป็นประมาณหนึ่งในสาม หรือคิดเป็น 31%ของงบประมาณแผ่นดินปี 50 (1,566,200 ล้านบาท) ทั้งนี้ ยังไม่นับรวมทรัพย์สินอื่น ทั้งอสังหาฯในเชิงพาณิชย์ อุตสาหกรรมและการพักผ่อน ตลอดจนสาธารณูปโภคและสินแร่ ป่าไม้ต่าง ๆ
นายโสภณกล่าวว่า มูลค่าอสังหาฯของประเทศไทยยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง (ยกเว้น 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้) ทั้งนี้ มูลค่าอสังหาฯจะเพิ่มหรือลด ก็ขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจของประเทศเป็นสำคัญ ความสูญเสียมูลค่าทรัพย์สินประมาณ 52,178 ล้านบาทนี้ นับว่ามหาศาล แต่หากนับรวมความสูญเสียชีวิต ทรัพย์สิน การบาดเจ็บจนพิการหรือรักษากันเป็นเงินมากมาย ก็นับเป็นความสูญเสียที่ไม่น่าเกิดขึ้นในประเทศที่เคยสงบร่มเย็นเช่นประเทศไทย