หนังสือพิมพ์สากล – ผู้อำนวยการคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปกวางตุ้งรายงานต่อสภาผู้แทนประชาชนจีนชี้หลังพายุหิมะ มณฑลกวางตุ้งกำลังเผชิญวิกฤติขาดไฟฟ้าหนักสุดรอบ 30 ปี แม้ว่าจะพยายามหามาตรการต่างๆแก้ไข ทว่าเมื่อจำเป็นอาจหยุดจ่ายไฟให้กับ 10 ประเภทอุตสาหกรรมสิ้นเปลืองพลังงาน พร้อมร้องให้ทางการเร่งเดินหน้าโครงการผลิตกระแสไฟฟ้าจากนิวเคลียร์และพลังงานหมุนเวียน
หลังจากที่โรงงานอุตสาหกรรมในเขตเศรษฐกิจสามเหลี่ยมปากแม่น้ำจูเจียงต้องประสบปัญหาต้นทุนพุ่งสูงมาเป็นเวลากว่าครึ่งปี จนทำให้โรงงานจำนวนมากต้องปิดตัวลง ในขณะนี้อาจต้องเผชิญกับปัญหาเพิ่มขึ้นเมื่อคุณหลี่ เมี่ยวเจวียนผู้อำนวยการคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปมณฑลกว่างตง (กวางตุ้ง) ได้เปิดเผยต่อสภาผู้แต่ประชาชนจีนว่า ขณะนี้พายุหิมะได้ทำให้ปัญหาการขาดแคลนไฟฟ้าในกวางตุ้งนั้นสาหัสยิ่งขึ้น
หลี่ได้ระบุว่า โรงงานเหล็กขนาดเล็ก อุตสาหกรรมการย้อมและพิมพ์ หรืออุตสาหกรรมต่างๆที่ต้องใช้พลังงานสูงอาจจำเป็นต้องหยุดการผลิต “พายุหิมะและน้ำแข็งเมื่อต้นปีได้ก่อให้เกิดปัญหาด้านซัพพลายไฟฟ้าอย่างหนักในกวางตุ้ง แต่เดิมที่ได้คาดการณ์ว่าปีนี้ในมณฑลจะขาดแคลนไฟฟ้าประมาณ 6.5 ล้านเมกกะวัตต์ ทว่าเมื่อเจอกับปัญหาพายุหิมะ ทำให้จำนวนการขาดแคลนไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเป็น 10 ล้านเมกกะวัตต์ จนทางมณฑลต้องใช้มาตรการหลายอย่างในการรับมือกับสถานการณ์เฉพาะหน้า ทว่าหากถึงคราวจำเป็นจริงๆ ก็อาจจะจำเป็นต้องหยุดให้ไฟกับโรงงานที่สิ้นเปลืองพลังงานสูง 10 ประเภท เพราะการขาดแคลนไฟฟ้าในครั้งนี้ ถือว่าเป็นวิกฤติใหญ่สุดในรอบ 30 ปีทีเดียว”
โดยก่อนหน้านี้ หนึ่งในมาตรการที่ทางมณฑลกวางตุ้งได้ใช้ก็คือการเลื่อนระยะเวลาปิดโรงงานไฟฟ้าขนาดเล็กออกไปก่อน โดยประกาศให้โรงงานไฟฟ้าขนาดเล็กกว่าที่ทางการกำหนด ที่เดิมจะต้องถูกปิดนั้น สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าต่อไปก่อนเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น
นอกจากนั้น ในช่วงที่ผ่านมาก็มีการสลับการจ่ายกระแสไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นแหล่งรวมตัวของอุตสาหกรรมแปรรูปอย่างตงกว่าน เพราะหากหยุดการจ่ายกระแสไฟทั้งหมดจริง ก็อาจจะเป็นการซ้ำเติมสิ่งแวดล้อมที่เป็นมลพิษในบริเวณเขตเศรษฐกิจสามเหลี่ยมปากแม่น้ำจูเจียงหนักขึ้น เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีโรงงานแปรรูปที่ชาวฮ่องกงและไต้หวันมาตั้งไว้หลายหมื่นแห่ง หากขาดกระแสไฟฟ้าจริงๆก็อาจต้องยอมสิ้นเปลืองปั่นกระแสไฟฟ้าจากน้ำมันดีเซล จนสร้างมลพิษทางอากาศเพิ่ม
ในอีก 3 ปีข้างหน้า กวางตุ้งยังจะต้องขาดไฟฟ้าในปริมาณปีละประมาณ 60 ล้านเมกกะวัตต์ หลี่ เมี่ยวเจวียนจึงได้ร้องขอให้ทางการรีบอนุมัติโครงการผลิตกระแสไฟฟ้า โดยเจ้าหน้าที่ในกวางตุ้งมองว่าควรจะเป็นโรงงานไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ และพลังงานหมุนเวียน
ทั้งนี้ นายเส้า ปิ่งเหริน อดีตรองประธานคณะกรรมการไฟฟ้าแห่งชาติจีนได้เปิดเผยว่า “ตั้งแต่ต้นเดือนม.ค. ที่พายุหิมะโหมกระหน่ำใส่ประเทศจีนตอนกลางและตอนใต้อย่างรุนแรงนั้น ได้ทำให้กิจการด้านไฟฟ้าของจีนได้รับความเสียหายทางเศรษฐกิจไปมากถึง 16,000 ล้านหยวน