เก็งเซี่ยงไฮ้มาแรงแซงสิงคโปร์ ขึ้นแท่นท่าเรือคึกสุดในโลกปีนี้

ไชน่าเดลี่ - ประธานกลุ่มบริษัทปฏิบัติการท่าเรือเซี่ยงไฮ้เชื่อ ท่าเรือเซี่ยงไฮ้จะเบียดแชมป์เก่าสิงคโปร์ ขึ้นแท่นท่าเรือที่คึกคักที่สุดของโลกในปีนี้ สืบเนื่องจากโครงการขยายท่าเรือหยางซานมูลค่านับพันล้านที่จะเริ่มเดินเครื่องในปีนี้ โดยการคาดการณ์ดังกล่าวสวนกระแสตัวเลขเกินดุลเดือนกุมภาพันธ์จีน ที่ขยายตัวลดลงเพราะกำลังซื้อผู้บริโภคสหรัฐฯ หดตัว

เฉินซู่หยวน ประธานบริษัท เซี่ยงไฮ้ อินเตอร์เนชั่นแนล พอร์ต กรุ๊ป (SIPG) กลุ่มบริษัทปฏิบัติการท่าเรือเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นท่าเรือคอนเทนเนอร์ที่คึกคักที่สุดของจีนคาด ปริมาณการขนถ่ายตู้สินค้าปี 2008 จะพุ่งทะลุ 30 ล้าน TEUs (1 TEU= ตู้สินค้าขนาดกว้าง 20 ฟุต) สืบเนื่องจากเซี่ยงไฮ้มีโครงการจะขยายท่าเรือหยางซานเฟส 3 ในปีนี้ ซึ่งจะเพิ่มศักยภาพของท่าเรือเซี่ยงไฮ้ให้สามารถรองรับปริมาณตู้สินค้าได้จำนวนมากขึ้น

โดยเมื่อปีที่แล้วเป็นครั้งแรกที่ท่าเรือเซี่ยงไฮ้สามารถแซงหน้าท่าเรือฮ่องกงขึ้นเป็นท่าเรือคอนเทนเนอร์ที่ใหญ่อันดับ 2 ของโลก ด้วยจำนวนการขนถ่ายตู้สินค้ามากถึง 26.15 ล้าน TEUs เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้ากว่า 20% เป็นรองแค่เพียงสิงคโปร์ ซึ่งปีที่แล้วครองอันดับ 1 ด้วยปริมาณขนถ่ายตู้สินค้า 27.9 ล้าน TEUs เพิ่มขึ้น 12.7%

SIPG ยังวางแผนที่จะลงทุนประมาณ 4,500 ล้านหยวนในการขยายท่าเรือในปีนี้ นี่ยังไม่รวมตัวเลขเงินลงทุนในโครงการท่าเรือหยางซัน ซึ่งเฉพาะส่วนนี้น่าจะปาเข้าไปกว่า 2,000 ล้านหยวนเลยทีเดียว นอกจากนี้ SIPG ยังกำลังพิจารณาโกอินเตอร์ไปจดทะเบียนในตลาดต่างประเทศ แต่แผนดังกล่าวยังไม่เห็นเป็นรูปธรรม

“การที่ท่าเรือเซี่ยงไฮ้แซงหน้าฮ่องกงนั้นไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไรเลย เมื่อมองจากขนาดความใหญ่โตของตลาดแผ่นดินใหญ่” เฉิน ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกสภาผู้แทนประชาชนกล่าว อย่างไรก็ตาม เฉินยังมองว่า “ท่าเรือในฮ่องกงและสิงคโปร์นั้นมีจุดแข็งในด้านแหล่งทรัพยากรธรรมชาติ และนโยบายที่ดีกว่า ดังนั้นเรายังจำเป็นต้องเรียนรู้การพัฒนาเทคโนโลยี รวมทั้งความเชี่ยวชาญในด้านการบริหารจัดการ และการบริการจากฮ่องกงและสิงคโปร์”

ถึงแม้เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะส่อเค้าหดตัว และตัวเลขการส่งออกเดือนกุมภาพันธ์จะชะลอตัวลง แต่เฉินเชื่อว่าปีนี้ปริมาณการขนส่งสินค้าที่ท่าเรือเซี่ยงไฮ้จะขยายตัว โดยเขาคาดว่าการค้าระหว่างประเทศในเขตเศรษฐกิจสามเหลี่ยมปากแม่น้ำจูเจียง จะเติบโต 20% สูงกว่าตัวเลขเฉลี่ยทั่วทั้งจีนซึ่งน่าจะอยู่ที่ 15%

นอกจากนี้เฉินยังกล่าวว่า ทางกลุ่มบริษัทปฏิบัติการท่าเรือเซี่ยงไฮ้จะพยายามดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ และหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ ให้เข้ามาช่วยพัฒนาธุรกิจคอนเทนเนอร์ของเซี่ยงไฮ้ และพัฒนาการบริหารจัดการ รวมทั้งเทคโนโลยีต่างๆ ในระหว่างการพัฒนาท่าเรือหยางซานเฟส 3 ด้วย