ผู้จัดการออนไลน์ - สีจิ้นผิง นักการเมืองที่มีบทบาทสำคัญและกำลังกลายเป็นคนที่ถูกจับตามองมากที่สุดคนหนึ่งของจีน ในฐานะผู้ที่อาจก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำรุ่นต่อไปต่อจากประธานาธิบดีหูจิ่นเทา หลังจากที่เคยผ่านตำแหน่งสำคัญๆอย่างเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์มณฑลเจ้อเจียง ซึ่งเป็นเมืองอุตสาหกรรมใหญ่ใกล้เซี่ยงไฮ้ จากนั้นสร้างผลงานด้วยการสะสางกรณีอื้อฉาวในกองทุนบำนาญ จนก้าวขึ้นมานั่งเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เซี่ยงไฮ้ แทนที่เฉินเหลียงอี่ว์ที่ถูกปลดจากตำแหน่งคดีคอรัปชั่น โดยหลังจากจากการประชุมใหญ่สมัชชาพรรคคอมมิวนิสต์ครั้งที่ 17 ก็ขึ้นมานั่งเก้าอี้คณะกรรมการประจำกรมการเมือง และผู้อำนวยการโรงเรียนพรรคคอมมิวนิสต์จีน
ล่าสุดหนังสือพิมพ์หมิงเป้าของฮ่องกงได้รายงานว่า นักข่าวของตนได้อาศัยช่องทางในการสัมภาษณ์บุคคลวงใน และได้ทราบข่าวว่า นายสีจิ้นผิง ที่ปัจจุบันเป็นคณะกรรมการประจำกรมการเมืองของพรรคฯ อาจจะได้รับการแต่งตั้งเข้าดำรงตำแหน่งรองประธานคณะกรรมธิการทหารแห่งชาติจีน ซึ่งอาจจะมีการประกาศอย่างเป็นทางการอย่างเร็วหลังการประชุมคณะกรรมการกลางชุดใหม่ครั้งที่ 2 ในช่วงครึ่งหลังของเดือนก.พ. และถ้าหากข่าวการแต่งตั้งนี้เป็นจริง ก็เท่ากับเป็นการส่งสัญญาณ สีจิ้นผิงวัย 54 ปี จะเป็นผู้ที่ถูกวางตัวมาเป็นผู้กุมอำนาจรุ่นที่ 5 ต่อจากหูจิ่นเทา
โดยแหล่งข่าวได้ระบุว่า การจัดการดังกล่าวนี้ เป็นการเตรียมการมาตั้งแต่หลังเสร็จสิ้นการประชุมใหญ่สมัชชาพรรคฯครั้งที่ 17 เพื่อให้สีจิ้นผิงได้มีโอกาสทำความคุ้นเคยและมีส่วนร่วมในกิจการกองทัพมากยิ่งขึ้น นอกจากนั้นสิ่งที่หลายฝ่ายกำลังจับตามองก็คือ ในการประชุมสภาผู้แทนประชาชนเดือนมี.ค. เป็นวาระที่นายเจิงชิ่งหงจะก้าวลงจากตำแหน่งรองประธานาธิบดี และสีจิ้นผิงเองก็อาจจะได้รับแต่งตั้งเข้าสู่ตำแหน่งดังกล่าวแทน ฉะนั้นหากสีถูกแต่งตั้งในตำแหน่งทั้ง 2 นี้จริง ก็จะเท่ากับเป็นจุดเริ่มต้นในการส่งไม้ผลัดอำนาจระหว่างรุ่นเก่าและรุ่นใหม่เพื่อก้าวสู่การประชุมสมัชชาใหญ่ของพรรคครั้งที่ 18 ในอนาคต
หากแม้นมองย้อนกลับไปในอดีต สมัยที่หูจิ่นเทา เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์ได้เข้ามาเป็นคณะกรรมการประจำกรมการเมืองในการประชุมใหญ่สมัชชาพรรคครั้งที่ 14 ปี 1992 จากนั้นต้องรออีก 7 ปีให้หลังคือในปี 1999 จึงได้มาดำรงตำแหน่งรองประธานกรรมธิการทหารแห่งชาติ ดังนั้นการเข้ามาสู่ตำแหน่งคณะกรรมธิการทหารของสีจึงเร็วกว่าที่เดิมหลายฝ่ายคาดว่าจะเป็นหลังปี 2010
ทว่าคนวงในได้ระบุว่า ความเปลี่ยนแปลงนี้เป็นเพราะความเป็นไปในปัจจุบันแตกต่างจากที่ผ่านมา หนึ่งคือหากรอให้มารับช่วงทั้งหมดทีเดียวในการประชุมพรรคปี 2012 ก็เกรงว่าจะมีเวลาไม่เพียงพอ นอกจากนั้นบุคลิกการทำงานของหูจิ่นเทาเองก็แตกต่างจากผู้นำในรุ่นก่อน โดยตั้งใจว่าจะส่งมอบอำนาจให้เสร็จสิ้นภายในการประชุมใหญ่สมัชชาพรรคครั้งที่ 18 และหูเองก็ไม่อยากที่จะอยู่ต่อในตำแหน่งประธานกรรมธิการทหารแห่งชาติอีก 2 ปี ดังนั้นเพื่อให้สีจิ้นผิงสามารถเข้าร่วมและเป็นส่วนหนึ่งกับกองทัพได้เร็วขึ้น จึงอาจจะมีการแต่งตั้งแบบก้าวกระโดด เพื่อให้ขึ้นมาอยู่ในรองกรรมธิการทหารอันดับหนึ่ง
อย่างไรก็ตามข่าวอีกกระแสหนึ่งก็ได้เปิดเผยว่า การที่สีจิ้นผิงจะเข้ามารับตำแหน่งกรรมธิการทหารหลังการประชุมคณะกรรมการกลางชุดใหม่ครั้งที่ 2 ในเดือนนี้นั้น ถือว่าเป็นการที่ขึ้นมารับตำแหน่งที่เร็วผิดปกติ และเป็นการแสดงให้เห็นถึงการเข้ามาเป็นผู้รับช่วงต่อเร็วเกินไป ดังนั้นจึงไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า อาจจะมีกระแสคัดค้านเกิดขึ้น จนทำให้เหตุการณ์นี้มีความพลิกผันเป็นอื่นได้
ทั้งนี้ ในระหว่างรอลุ้นตำแหน่งรองประธานกรรมธิการทหารฯนี้ หนังสือพิมพ์ “หนันหัวเจ่าเป้า” ของฮ่องกงได้รายงานว่า ขณะสีจิ้นผิงยังได้รับการมอบหมายจากรัฐบาลกลางจีน ให้มีหน้าที่ในการกำกับดูแลการเตรียมงานโอลิมปิกปักกิ่ง โดยมีหน้าที่ในการวางแผนเรื่องการรักษาความปลอดภัย และผ่อนเพลาปัญหามลพิษในปักกิ่งที่กำลังเป็นที่จับตาจากนานาชาติอยู่ในขณะนี้
สีจิ้นผิง (习近平)
วันเกิด : มิถุนายน ค.ศ. 1953
ภูมิลำเนา : เมืองฝู่ผิง มณฑลส่านซี
การศึกษา : ปริญญาเอกด้านนิติศาสตร์ มหาวิทยาลับชิงหัว
ตำแหน่งปัจจุบัน : คณะกรรมการประจำกรมการเมือง,เลขาสำนักเลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน , ผู้อำนวยการโรงเรียนพรรคคอมมิวนิสต์จีน
บิดา : สีจ้งซวิน (อดีตคณะกรรมการกรมการเมือง,รอประธานคณะกรรมการสภาผู้แทนประชาชน,รองนายกรัฐมนตรี)
ภรรยา : เผิงลี่หยวน (ตำแหน่งพลตรีในกองทัพปลดแอก,นักร้องโซปราโนดัง)
การทำงาน : 1979-1982 เลขาสำนักงานคณะกรรมการทหารพรรคฯ ,เลขาสำนักงานคณะรัฐมนตรี
1982-1985 รองเลขาธิการ,เลขาธิการพรรคฯอำเภอเจิ้งติ้ง มณฑลเหอเป่ย
1985-1988 รองผู้ว่าเมืองเซี่ยเหมิน มณฑลฝูเจี้ยน (ฮกเกี้ยน)
1988-1990 เลขาธิการพรรคฯเมืองหนิงเต๋อ มณฑลฝูเจี้ยน
1990-2002 เลขาธิการพรรคฯเมืองฝูโจว,รองเลขาธิการพรรคฯมณฑลฝูเจี้ยน,ผู้ว่าฯมณฑลฝูเจี้ยน
2002-2007 ผู้ว่ามณฑลเจ้อเจียง,เลขาธิการพรรคฯมณฑลเจ้อเจียง
มี.ค.-ต.ค.2007 เลขาธิการพรรคฯเซี่ยงไฮ้