เอเอฟพี – รายงานการวิจัยของศูนย์ลาตินอเมริกาศึกษาแห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย แสดงให้เห็นว่าการเติบโตอย่างฉับพลันของภาคอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงของจีน ได้สร้างความเสี่ยงครั้งใหญ่ให้แก่กลุ่มประเทศลาตินอเมริกาที่ไม่สามารถแข่งขันได้
ผลการศึกษาของเควิน แกลเลอเกอร์จากมหาวิทยาลัยบอสตัน และโรเบอร์โต พอร์เซแคนสกีจากมหาวิทยาลัยทัฟส์ ระบุว่า ประเทศลาตินอเมริกาที่ไม่มีความสามารถทางการแข่งขันด้านเทคโนโลยีขั้นสูงกำลังเงื่องหงอยหรืออับเฉาลงอย่างรวดเร็ว เพราะความพ่ายแพ้ด้านผลิตภัณฑ์ไฮเทค โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับผลงานที่น่าประทับใจของจีน
งานวิจัยชี้ว่า ความพยายามพัฒนาความสามารถทางด้านเทคโนโลยีและความสามารถทางการแข่งขันของจีน ประสบความสำเร็จและทิ้งห่างจากกลุ่มประเทศลาตินอเมริกาอยู่หลายช่วงตัว เห็นได้จากสถิติของประเทศผู้ส่งออกเทคโนโลยี เมื่อปี 1980 จีนอยู่ในลำดับที่ 99 แต่เมื่อถึงปี 2005 จีนไล่กวดสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นอันดับหนึ่งด้วยส่วนแบ่งการส่งออกของทั่วโลกถึง 12%
ทั้งนี้ ผู้ผลิตสินค้าไฮเทคเริ่มย้ายฐานการผลิตจากประเทศที่พัฒนาแล้วไปยังประเทศที่กำลังพัฒนาตั้งแต่ช่วงปี 1980 และจีนเป็นผู้รับผลประโยชน์รายใหญ่ของการเคลื่อนย้ายครั้งนั้น
นอกจากนี้ รายงานระบุด้วยว่า 95% ของการส่งออกเทคโนโลยีจากประเทศลาตินอเมริกา หรือคิดเป็น 12% ของการส่งออกทั้งหมดจากกลุ่มประเทศลาตินอเมริกา กำลังอยู่ภายใต้การคุกคามจากจีนซึ่งส่วนใหญ่เป็นการคุกคามโดยตรง โดยเฉพาะเม็กซิโกและคอสตาริกา ที่มากกว่า 87%ของการส่งออกสินค้าไฮเทคถูกคุกคามโดยจีน ซึ่งคิดเป็น 24% ของการส่งออกทั้งหมดของทั้ง 2 ประเทศ
ขณะเดียวกัน นักวิจัยพบว่ารัฐบาลจีนมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการกระตุ้นการพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูงในประเทศและมากกว่าเมื่อเทียบกับเม็กซิโก โดยอุตสาหกรรมที่เติบโตอย่างรวดเร็วในจีนบางส่วนเป็นบริษัทของรัฐและบางส่วนเป็นความร่วมมือกับต่างชาติ
ทั้งนี้ แม้ว่ารัฐบาลเม็กซิโกจะมีนโยบายสนับสนุนอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงเช่นเดียวกับรัฐบาลจีน แต่ติดขัดสัญญาการค้าภายใต้ข้อตกลงนาฟตา (ข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ) จึงทำให้เม็กซิโกไม่สามารถดำเนินตามนโยบายได้ ขณะที่จีนเพียงต้องดำเนินการตามข้อตกลงกับองค์การการค้าโลกเท่านั้น
ผลการศึกษาของเควิน แกลเลอเกอร์จากมหาวิทยาลัยบอสตัน และโรเบอร์โต พอร์เซแคนสกีจากมหาวิทยาลัยทัฟส์ ระบุว่า ประเทศลาตินอเมริกาที่ไม่มีความสามารถทางการแข่งขันด้านเทคโนโลยีขั้นสูงกำลังเงื่องหงอยหรืออับเฉาลงอย่างรวดเร็ว เพราะความพ่ายแพ้ด้านผลิตภัณฑ์ไฮเทค โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับผลงานที่น่าประทับใจของจีน
งานวิจัยชี้ว่า ความพยายามพัฒนาความสามารถทางด้านเทคโนโลยีและความสามารถทางการแข่งขันของจีน ประสบความสำเร็จและทิ้งห่างจากกลุ่มประเทศลาตินอเมริกาอยู่หลายช่วงตัว เห็นได้จากสถิติของประเทศผู้ส่งออกเทคโนโลยี เมื่อปี 1980 จีนอยู่ในลำดับที่ 99 แต่เมื่อถึงปี 2005 จีนไล่กวดสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นอันดับหนึ่งด้วยส่วนแบ่งการส่งออกของทั่วโลกถึง 12%
ทั้งนี้ ผู้ผลิตสินค้าไฮเทคเริ่มย้ายฐานการผลิตจากประเทศที่พัฒนาแล้วไปยังประเทศที่กำลังพัฒนาตั้งแต่ช่วงปี 1980 และจีนเป็นผู้รับผลประโยชน์รายใหญ่ของการเคลื่อนย้ายครั้งนั้น
นอกจากนี้ รายงานระบุด้วยว่า 95% ของการส่งออกเทคโนโลยีจากประเทศลาตินอเมริกา หรือคิดเป็น 12% ของการส่งออกทั้งหมดจากกลุ่มประเทศลาตินอเมริกา กำลังอยู่ภายใต้การคุกคามจากจีนซึ่งส่วนใหญ่เป็นการคุกคามโดยตรง โดยเฉพาะเม็กซิโกและคอสตาริกา ที่มากกว่า 87%ของการส่งออกสินค้าไฮเทคถูกคุกคามโดยจีน ซึ่งคิดเป็น 24% ของการส่งออกทั้งหมดของทั้ง 2 ประเทศ
ขณะเดียวกัน นักวิจัยพบว่ารัฐบาลจีนมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการกระตุ้นการพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูงในประเทศและมากกว่าเมื่อเทียบกับเม็กซิโก โดยอุตสาหกรรมที่เติบโตอย่างรวดเร็วในจีนบางส่วนเป็นบริษัทของรัฐและบางส่วนเป็นความร่วมมือกับต่างชาติ
ทั้งนี้ แม้ว่ารัฐบาลเม็กซิโกจะมีนโยบายสนับสนุนอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงเช่นเดียวกับรัฐบาลจีน แต่ติดขัดสัญญาการค้าภายใต้ข้อตกลงนาฟตา (ข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ) จึงทำให้เม็กซิโกไม่สามารถดำเนินตามนโยบายได้ ขณะที่จีนเพียงต้องดำเนินการตามข้อตกลงกับองค์การการค้าโลกเท่านั้น
