รอยเตอร์/หนังสือพิมพ์สากล- ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้วันจันทร์(4 ก.พ.) ปิดตลาดทำสถิติเพิ่มสุทธิ 8.1% เป็นการปรับตัวรายวันสูงสุดในรอบ 2 ปีครึ่ง หลังจากที่หูจิ่นเทาเรียกประชุมโปลิตบูโรเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเพื่อหามาตรการรับมือภัยธรรมชาติจากพายุหิมะหนักสุดในรอบ 50 ปี และผู้คุมกฎไฟเขียวกองทุนรวม 2 แห่งเข้าระดมทุนในตลาดรวมมูลค่ากว่า 14,000 ล้านหยวน หลังจากที่แช่แข็งคำร้องมาหลายเดือน ส่งสัญญาณทางการจีนจะส่งเสริมการลงทุนในตลาดหุ้น
โดยดัชนีฯปิดตัวเพิ่มขึ้น 8.1% หรือ 351.40 จุด ปิดตลาดที่ 4,672.17 จุด
นอกจากนี้ข่าวการผ่อนคลายด้านสินเชื่อ ยังช่วยให้ดัชนีเพิ่มสูงขึ้น โดยมูลค่าหุ้นภาคธนาคารจีนอาทิ หุ้นธนาคารอุตสาหกรรมและการพาณิชย์แห่งประเทศจีน (ไอซีบีซี) เพิ่มมูลค่า 2.82 % เป็น 6.92 หยวน และจำนวนหุ้นทำกำไรในตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้มีปริมาณมากกว่าหุ้นขาดทุนมากราว 865 ต่อ 2 ขณะที่หุ้นถึง 300 ตัวปิดตัวทะลุเพดานประจำวันซึ่งกำหนดไว้ที่ 10%
และเมื่อวันเสาร์(2 ม.ค.) คณะกรรมการตรวจสอบและบริหารทรัพย์สินรัฐ(เอสเอเอสเอซี)ได้ออกมาเรียกร้องความเชื่อมั่นจากนักลงทุนว่า พายุหิมะครั้งใหญ่นี้ จะไม่ส่งผลกระทบร้ายแรงต่อสถานการณ์การลงทุนของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
ด้านเจ้าหน้าที่ตลาดหลักทรัพย์กล่าวว่า การปรับตัวขึ้นของดัชนีตัวหลักยังเกิดจากแผนทำไอพีโอครั้งใหญ่ของผิง อัน อินซัวร์แรนซ์ ยักษ์ประกันภัยจีนซึ่งเตรียมระดมทุนรอบสองในตลาดหุ้นกระดานเอ คาดจะได้เม็ดเงินทั้งสิ้นราว 160,000 ล้านหยวน นับเป็นตัวเลขสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของการระดมทุนรอบสองในตลาดหลักทรัพย์แดนมังกร
เฉินเก๋อ ผู้จัดการกองทุน ฟูลโกลด์ ฟันด์ แมเนจเมนท์ คอมปานีกล่าวว่า ปรากฏการณ์ดังกล่าวเป็นผลจากข่าวดีจากรัฐบาลที่มีมาหลายครั้ง ดังนั้น นักลงทุนหลายรายจึงเริ่มมีความมั่นใจมากขึ้น หลังจากที่แห่เทขายหุ้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี ปริมาณการซื้อขายหุ้นเมื่อวันจันทร์บนกระดานเอยังคงอยู่ในระดับปานกลางที่ 108,600 ล้านหยวน เทียบกับปริมาณการซื้อขายเมื่อวันศุกร์(1 ก.พ.)ที่ 96,000 ล้านหยวน ซึ่งเป็นตัวชี้ว่า นักลงทุนยังมีความระมัดระวังอยู่ เฉินกล่าวว่า ที่เป็นเช่นนี้เนื่องจากสถานการณ์ข้างหน้ายังคงมีความผันผวนมาก ปัจจัยจาก ความเป็นไปได้ที่ผลประกอบการของบริษัทจะลงลงในไตรมาสแรกของปีนี้,ภาวะถดถอยของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และเงินเฟ้อที่พุ่งสูงมากของจีน.