21 เซ็นจูรี่ – แหล่งข่าวเผยบริษัทผิงอัน อินชัวรันซ์อาจะเตรียมนำเงินกว่า 100,000 ล้านหยวนที่ได้จากการระดมทุนรอบสองในตลาดหลักทรัพย์จีนเข้าซื้อหุ้นราว 50% ของพรูเดนเชียล กรุ๊ป บริษัทประกันภัยอันดับหนึ่งในอังกฤษ
เมื่อเร็วๆนี้ บริษัทผิงอัน อินชัวรันซ์ ยักษ์ประกันภัยจีนได้ประกาศว่าเตรียมจะระดมทุนรอบสองในตลาดหุ้นกระดานเอราว 117,800 ล้านหยวน และออกหุ้นกู้แปลงสภาพอีกไม่เกิน 41,200 ล้านหยวนกล่าวคือในการระดมทุนครั้งใหม่นี้ ตั้งเป้าว่าจะรวบรวมเงินราว 160,000 ล้านหยวนซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดในการระดมทุนรอบสองของตลาดหลักทรัพย์มังกร เพื่อที่จะรองรับการพัฒนาศักยภาพของบริษัทและภาคประกันภัยนั้น
ล่าสุดสำนักข่าว 21 เซ็นจูรี่ของจีนได้อ้างคำของแหล่งข่าวที่ระบุว่า “การระดมทุนกว่า 160,000 ล้านหยวนของผิงอัน อินชัวรันซ์นั้น ได้มีการตั้งเป้าไว้แต่แรกว่าจะมีการนำมาเพื่อซื้อหุ้นของต่างชาติ โดยผู้บริหารของผิงอันได้เล็งไปที่การซื้อหุ้นของพรูเดนเชียล กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทประกันภัยที่ใหญ่ที่สุดในอังกฤษ
โดยแหล่งข่าวได้เปิดเผยว่า ผิงอัน อินชัวรันซ์ได้เตรียมนำเงินราว 100,000 ล้านหยวนที่ได้จากการระดมทุนในตลาดกระดานเอแดนมังกรไปซื้อกรรมสิทธิ์ในหุ้นของบริษัทพรูเดนเชียล กรุ๊ปของอังกฤษ ซึ่งหลังจากที่เกิดวิกฤติซับไพรม์ของสหรัฐฯขึ้น มูลค่าหุ้นของพรูเดนเชียล กรุ๊ปนั้นตกลงมาจนถึงเกือบต่ำสุดในรอบ 17 เดือน โดยจากตัวเลขเมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่มูลค่าหุ้นทั่วโลกดิ่งเหว ได้ทำให้หุ้นของพรูเดนเชียล กรุ๊ปตกลงถึง 5.84% มาปิดที่ 5.965 ปอนด์ต่อหุ้น ซึ่งต่ำกว่าราคาในช่วงเดือนพ.ค. 2007 ถึง 26.81%
หากคำนวณตามมูลค่าตลาดแล้ว มูลค่าตลาดรวม (market cap.) ของพรูเดนเชียล กรุ๊ปอยู่ที่ราว 14,030 ล้านปอนด์ หรือราว 197,400 ล้านหยวน หากผิงอัน อินชัวรันซ์คิดจะทุ่มเงินถึงกว่า 100,000 ล้านหยวนเข้าซื้อจริง ก็เท่ากับว่าผิงอัน อินชัวรันซ์จากจีนอาจจะกลายเป็นผู้ที่ถือหุ้นในบริษัทชื่อดังนี้มากกว่า 50%
โดยประเด็นที่น่าสนใจอยู่ที่นายเหลียงเจียจวี้ ประธานและซีอีโอของผิงอัน อินชัวรันซ์ผู้ซึ่งช่วยให้บริษัทสามารถประสบความสำเร็จในธุรกิจประกันภัยในจีนอย่างมากนี้ ในอดีตเคยดำรงตำแหน่งประธานประจำภูมิภาคจีนของพรูเดนเชียล กรุ๊ปมาก่อน อีกทั้งเป็นผู้ที่นำพรูเดนเชียล กรุ๊ปเข้าสู่ตลาดของไต้หวัน และชักนำให้จับมือกับซิติก กรุ๊ปของจีนจนเกิดเป็นซิติก พรูเดนเชียล ไลฟ์อินชัวรันซ์มาแล้ว ดังนั้นจากการที่ตลาดประกันภัยในภูมิภาคจีนเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว เหลียงจึงต้องการที่ดึงให้พรูเดนเชียลได้กลายเป็นอันดับสองในตลาดเอเชียรองจากบริษัทในเครือของเอไอจี
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมาก็มีบริษัทไม่น้อยทั้งจากอังกฤษและสหรัฐฯ ที่ได้แสดงเจตจำนงในการที่จะเข้าควบรวมกิจการกับพรูเดนเชียล แต่ถูกปฏิเสธไปเสียก่อน ดังนั้นจึงถูกมองว่าการที่ผิงอันจะเข้าไปถือกรรมสิทธิ์เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่นั้นอาจจะเป็นไปได้อย่าง การเข้าไปในอนาคตน่าจะเป็นการไปถือหุ้นเพียงส่วนหนึ่งมากกว่า
