หนังสือพิมพ์สากล / เอเอฟพี – หลังจากหุ้นกระดานเอของจีนพุ่งขึ้นมา 5.3% ให้ได้เฮกัน จากกระแสข่าวที่ว่าทางการจีนจะเข้ามาหนุนตลาด แต่แล้วเพียงวันเดียวชาวจีนก็ต้องเจอกับฝันร้ายอีกครั้งเมื่อหุ้นในวันถัดมาดิ่งเหวลงไปถึง 6.53% โดยมูลค่าตลาดในรอบ 8 เดือนที่ผ่านมาได้ละลายไปแล้วเกือบ 14 ล้านล้านหยวน ด้านผู้เชี่ยวชาญได้ออกมาแสดงความห่วงใยว่า หากสถานการณ์ยังเลวร้ายเช่นนี้ต่อไป หลายกองทุนอาจไม่สามารถทนอยู่ถึงสิ้นปีและต้องปิดตัวลง
ในวันพฤหัสบดี (19 มิ.ย.) ดัชนีตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้รวมกระดานเอกับกระดานบีได้ปิดร่วงลง 192.24 จุด มาอยู่ที่ 2,748.87 จุด มียอดซื้อขายทั้งสิ้น 59,600 ล้านหยวน โดยตัวของดัชนีกระดานเอของเซี่ยงไฮ้นั้นตกลงมา 201.55 จุดคิดเป็น 6.53% มีการซื้อขายทั้งสิ้น 59,400 ล้านหยวน ขณะที่ดัชนีตลาดเซินเจิ้นร่วงลง 7.48% มียอดซื้อขาย 30,600 ล้านหยวน
โดยการที่ดัชนีตกฮวบในวันนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่ก่อนหน้าในวันพุธได้ดีดตัวเพิ่มขึ้นมาถึง 5.3% หลังจากที่มีข่าวว่าทางการจีนอาจจะยื่นมือเข้ามาช่วยหนุนตลาด และอาจจะมีการปรับราคาพลังงาน ทว่าการรีบาวด์ดังกล่าวก็สามารถยันอยู่ได้เพียงวันเดียวเท่านั้นก็ตกวูบลงมาหนักกว่าเก่า
ซึ่งถ้านับถึงเมื่อวันอังคาร (17 มิ.ย.) ที่ดัชนีร่วงลงมาต่ำกว่า 2,800 จุดไปอยู่ที่ 2,794.75 จุด หรือร่วงไป 4.03% แล้ว ตลาดหุ้นกระดานเอนับว่าได้ตกต่อเนื่องมาถึง 10 วัน โดยการตกติดต่อกันกว่าสัปดาห์นี้ได้ทำให้หุ้นร่วงลงไปทั้งสิ้น 22% ทำให้หลายฝ่ายเริ่มมองว่าตอนนี้ดัชนีหุ้นของจีนได้ตกจนเกินพอดีแล้ว
ซึ่งหากนับย้อนกลับไปในช่วงที่ดัชนีหุ้นของจีนขึ้นสู่จุดสูงสุดแล้ว ในขณะนั้นตลาดหลักทรัพย์จีนทั้ง 2 ตลาดมีมูลค่าการตลาดอยู่ที่ 32.71 ล้านล้านหยวน แต่จนถึงเมื่อวันอังคารเหลือเพียง 18.74 ล้านล้านหยวน เท่ากับในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา มูลค่าในตลาดของหุ้นกระดานเอทั้งสองตลาดได้ละลายหายไปแล้วถึง 1.397 ล้านล้านหยวน โดยในปี 2007 ประเทศจีนมีผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี)เท่ากับ 24.66 ล้านล้านหยวน มูลค่าที่หายไปในตลาดหลักทรัพย์ช่วง 8 เดือนที่ผ่านมาจึงมีมูลค่าเท่ากับ 56.65% ของจีดีพีทั้งประเทศในปีที่แล้วทีเดียว
ดัชนีตลาดกระดานเอในขณะนี้ต่างจากปีที่ผ่านมาที่สามารถทำกำไรได้ทุกๆด้านอย่างสิ้นเชิง โดยขณะนี้ผู้ลงทุนก็ขาดทุน คนทั่วไปก็ขาดทุน ค่าบริหารของกองทุนทั้งหลายก็หดหาย บริษัทในตลาดหลักทรัพย์ก็ระดมทุนเพิ่มได้ลำบาก
นอกจากนั้นยังมีรายงานว่า การที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ตกฮวบเช่นนี้ ได้ทำให้กองทุนหลายๆแห่งนั้นสูญเสียอย่างรุนแรงที่สุดตั้งแต่เคยมีมา โดยที่ผู้เชี่ยวชาญได้ออกมาแสดงความห่วงใยว่า ในขณะนี้สภาพแวดล้อมของตลาดหลักทรัพย์จัดอยู่ในขั้นเลวร้าย กองทุนหลายแห่งอาจจะไม่สามารถทนอยู่ได้จนถึงสิ้นปีนี้
โดยผู้เชี่ยวชาญท่านนี้ได้ให้เหตุผลว่า สภาพที่หุ้นตกไม่หยุดเช่นนี้ แม้หลายกองทุนจะยังสามารถยืนหยัดบริหารกันต่อไปได้ แต่หลายที่ก็ไม่ได้มีคุณภาพเหมือนเดิม และในที่สุดคงต้องมีหลายแห่งที่ปิดตัวไป