ไชน่านิวส์ – ตลอด 5 วันทำการหุ้นจีนร่วงต่อเนื่องอย่างรุนแรงตลอด 4 วันและรีบาวด์ขึ้นมาบ้างเล็กน้อยในวันสุดท้าย การร่วงกว่า 5.5% นี้ได้ส่งผลให้เงินในตลาดลดลง 1.7 ล้านล้านหยวน อย่างไรก็ตามยังมีหุ้น 40% อาทิหุ้นด้านเวชภัณฑ์ เครื่องใช้ไฟฟ้า โทรคมนาคมที่สามารถรอดตัวมีมูลค่าเป็นบวกในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญชี้ดัชนีฮั่งเส็งที่ร่วงหนักไม่แพ้กันจะทำให้หุ้นจีนฟื้นอย่างรวดเร็ว
ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ตลาดหุ่นทั่วโลกร่วงกราวรูด ตลาดกระดาเอในแดนมังกรนอกจากได้รับผลกระทบดังกล่าวแล้ว ยังถูกซ้ำด้วยการตัดสินใจของธนาคารกลางแห่งประเทศจีน (พีบีโอซี) ที่ประกาศขึ้นอัตราเงินสำรองธนาคารพาณิชย์ขึ้นอีก 0.5% เป็น 15% จนเป็นตัวเลขสูงสุดในรอบ 22 ปี ได้ส่งผลให้ตลาดหุ้นจีนในสัปดาห์ที่ผ่านมาตกอย่างต่อเนื่อง จนมูลค่าตลาดละลายไปถึง 1.7 ล้านล้านหยวน
ทั้งนี้ ในสัปดาห์ที่แล้ว ราคาหุ้นในกระดานเอเฉลี่ยตกลงตัวละ 1 หยวน โดยเฉพาะบรรดาหุ้นตัวใหญ่ๆอย่างปิโตรไชน่า และอีกหลายตัวถึงกับเสียหายมหาศาล และดึงให้ดัชนีหุ้นตลอดสัปดาห์ตกลงถึง 5.5%
โดยเปิดตลาดวันแรกในวันจันทร์ ดัชนีก็เปิดฉากร่วงหลุดจาก 5,500 จุด บวกกับหุ้นจากสหรัฐฯที่ตกหนักต่อเนื่อง จนเกิดเป็นแรงกดดันอย่างรุนแรงมาถึงตลาดกระดานเอ หลังจากนั้นในวันพุธ ดัชนีหุ้นเซี่ยงไฮ้ยังตกหนักเป็นครั้งแรกหลังจากเริ่มต้นปีใหม่มา โดยไม่สามารถรักษา 5,400 จุดที่วันอังคารพยายามประคองไว้เอาไว้ได้ จากนั้นไม่นานยังตกต่อเนื่องจนทะลุ 5,300 จุด และยังต่อเนื่องอย่างหนักในวันอังคารจะแทบจะต้องลุ้นการรักษาดัชนี 5,000 จุดเอาไว้ โดยราคาหุ้นของยักษ์น้ำมันอย่างปิโตร ไชน่าก็ถึงขั้นต่ำสุดตั้งแต่เปิดตัวมา จนหลายฝ่ายต้องส่งสัญญาณระดมความช่วยเหลือฉุกเฉินกระทั่งปิดตัวบวกได้ในวันศุกร์
ข้อมูลจาก ไวด์ อินโฟเมชั่น บริษัทโบรกเกอร์ชั้นนำในจีนได้แสดงสรุปตัวเลขของหุ้น 40 ตัวที่ร่วงหนักสุดอาทิน้ำมันปิโตร ไชน่าที่ตกลงมา 5.43% ตามมาด้วย ธนาคารอุสาหกรรมและพาณิชย์จีน (ไอซีบีซี) 5.3% ไชน่า ปิโตรเลียม แอนด์ เคมิคอล (ซิโนเปค) ร่วง 9.23% ไชน่า ไลฟ์ อินชัวรันซ์ 10.13% และคอสโก กรุ๊ปร่วง 15.05% ซึ่งเพียง 5 บริษัทนี้ ได้ฉุดในดัชนีตลาดตลอดสัปดาห์ตกลงถึง 139.2% หรือเกือบครึ่งของดัชนีเซี่ยงไอ้ที่ร่วงลงตลอดสัปดาห์
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางบรรยากาศอันเลวร้ายตลอดสัปดาห์หุ้นจากตลาดเซี่ยงไฮ้และเซินเจิ้นก็ยังมีถึง 40% ที่สามารถหลบรอดจากวิกฤตดังกล่าว และมีมูลค่าเพิ่มขึ้นได้โดยส่วนใหญ่จะเป็นหุ้นเกี่ยวกับบริษัทการเกษตร เวชภัณฑ์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และโทรคมนาคมเป็นต้น
แม้ว่าสถานการณ์จากทั้งภายในและภายนอกต่างรุมเร้าสร้างความกดดันให้กับตลาดหลักทรัพย์กระดานเอแดนมังกรอยู่ ทว่ามีสถาบันหลักทรัพย์ไม่น้อยที่ชี้ว่า หลังจากที่ดัชนีฮั่งเส็งตกลง 6.2% ในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นการตกลงไปอยู่ในระดับตัวเลขของกลางเดือนก.ย.ของปีที่ผ่านมา ซึ่งสถานการณ์นี้จะช่วยผลักดันให้ตลาดกระดานเอของจีนจะฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว