ปาฏิหารย์ก๊กมินตั๋ง ดันหุ้นไต้หวันกระฉูด

เอเยนซี – ผลการเลือกตั้งไต้หวันเมื่อวันเสาร์ (12 ม.ค.) ดันตลาดหุ้นไต้หวันกระฉูดเปิดตลาดที่ 8,200 จุด นักวิเคราะห์คาด ดัชนีอาจพุ่งถึง 8,400 จุด รับผลกั๋วหมินตั่ง (ก๊กมินตั๋ง) ชนะเลือกตั้ง หลายฝ่ายคาดฟื้นสัมพันธ์ช่องแคบ ดันเศรษฐกิจสดใส

หลังพรรคกั๋วหมินตั่งชนะการเลือกตั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติ (สส.) สมัยที่ 7 ทิ้งพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (ดีพีพี) ขาดลอยที่ 81 : 27 ที่นั่ง นักลงทุนต่างมองอนาคตเศรษฐกิจไต้หวันสดใส เนื่องจาก กั๋วหมินตั่งมีนโยบายที่เป็นมิตรต่อแผ่นดินใหญ่ มากกว่าดีพีพี นอกจากนี้หลายฝ่ายยังคาดว่า ภายใต้การนำของกั๋วหมินตั่ง ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างไต้หวันกับแผ่นดินใหญ่ จะช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจไต้หวัน ที่ชะงักงันภายใต้การบริหารของเฉินดีขึ้น

อู๋เลี่ยวฉวน (ไดอานา อู๋) จากแคปิตอล เซเคียวริตี้ คอร์ป ชี้ว่า ปัจจัยทางด้านจิตวิทยา (Psychological factor) จากชัยชนะของกั๋วหมินตั่ง อาจดันดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไต้หวันในวันจันทร์ (14 ม.ค.) พุ่งถึง 8,400 จุดหรือมากกว่านั้น อย่างไรก็ตามเช้าวันนี้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไต้หวันเปิดตลาดที่ 8,246.43 จุด เพิ่มขึ้น 2.70% ที่ 217.12 จุด ก่อนที่จะปิดตลาดที่ 8,173.64 จุด รวมมูลค่าการซื้อขาย 168,000 ล้านเหรียญไต้หวัน

อีริค หลี่ นักวิเคราะห์จาก ไต้หวัน อินเตอร์เนชั่นแนล ซีเคียวริตี้ ย้ำว่า “การเพิ่มขึ้นของดัชนีเป็นผลสะท้อนจากการเลือกตั้ง นักลงทุนหวังว่า ในเดือนมีนาคมกั๋วหมินตั่งจะชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีอีก”

ทั้งนี้หลายฝ่ายคาดว่า หากหม่าอิงจิ่วแห่งพรรคกั๋วหมินตั่ง ได้ครองตำแหน่งประธานาธิบดี หลังจากสส.ข้างมากในสภาเป็นกลุ่มกั๋วหมินตั่ง กระบวนการกำหนดนโยบายน่าจะเป็นไปอย่างราบรื่น หลังประสบภาวะชะงักงันมานาน ระหว่างที่กั๋วหมินตั่งครองเสียงข้างมากในสภา แต่ครม.เป็นพรรคดีพีพี

นอกจากนี้ อู๋เลี่ยวฉวน ยังชี้ต่อไปว่า ปักกิ่งมีแนวโน้มที่จะยอมเจรจากับกั๋วหมินตั่งมากกว่า โดยเฉพาะประเด็นยุติการห้ามเครื่องบินโดยสารบินตรงระหว่างแผ่นดินใหญ่กับไต้หวัน ซึ่งเป็นมาตรการที่จีนใช้มาตั้งแต่ปี 1949 เมื่อเจี่ยงเจี้ยสือ (เจียงไคเช็ค) อพยพมายังไต้หวัน ขณะเดียวกันแนวโน้มการลงทุนในอุตสาหกรรมการเงินในจีน น่าจะมีความคืบหน้าขึ้นอีกด้าน หากหม่าได้ครองตำแหน่งประธานาธิบดี อู๋กล่าว

สำหรับปฏิกิริยาจากแผ่นดินใหญ่ ยังมิมีการแถลงหรือให้ข่าวถึงชัยชนะของกั๋วหมินตั่งอย่างเป็นทางการเนื่องจาก 2-3 ปีที่ผ่านมา ทางปักกิ่งมีนโยบายไม่แสดงความเห็นโดยตรงเกี่ยวกับการเมืองไต้หวัน ด้วยเกรงว่า อาจส่งผลให้ประชาชน เปลี่ยนใจไปลงคะแนนให้กับฝ่ายตรงข้ามที่มีนโยบายแข็งกร้าวต่อจีน

อย่างไรก็ตามหนังสือพิมพ์พีเพิลเดลี่ กระบอกเสียงของรัฐ ได้ลงข่าวเตือนเมื่อวันจันทร์ (14 ม.ค.) ว่า “พรรคดีพีพีจะไม่หยุด จนกว่าจะมั่นใจว่าสามารถครองเก้าอี้ประธานาธิบดีในการเลือกตั้งเดือนมีนาคมได้ บางทีดีพีพีอาจประกาศกฎอัยการศึก หรือมาตรการฉุกเฉินบางอย่างก็เป็นได้”

ขณะที่หวังเจี้ยนหมิน นักวิชาการจากบัณฑิตยสภาด้านสังคมศาสตร์ ซึ่งเป็นองค์กรที่มีสายสัมพันธ์กับปักกิ่งเผยว่า “ในระยะยาว ชัยชนะของกั๋วหมินตั่งจะส่งผลดีต่อความสัมพันธ์ช่องแคบ”

ส่วนโหวโร่วสือ ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจาก มหาวิทยาลัยเจ้อเจียงกล่าวว่า “ตวามพ่ายแพ้ของเฉินทำให้เราสบายใจมาก เนื่องจากความพ่ายแพ้ครั้งนี้ เป็นการยกระดับความเป็นไปได้ที่หม่าจะได้เก้าอี้ประธานาธิบดี”

แม้แต่ชาวต่างชาติอย่าง เฟรเดอริด นูแมน ยังมองอนาคตไต้หวันภายใต้กั๋วมินตั่งในเชิงบวก นูแมนนักเศรษฐศาตร์ของเอชเอสบีซีสาขาฮ่องกง เผยว่า “เมื่อก่อนผมมองเศรษฐกิจไต้หวันปีนี้ว่า จะเติบโตอย่างช้าๆที่ 4% แต่ถ้าหม่าได้เป็นประธานาธิบดีผมจะปรับตัวเลขเพิ่ม”