ไชน่านิวส์ / ซีน่าเน็ต – เป่ยจิง โส่วกัง กรุ๊ป หนึ่งในผู้นำด้านการผลิตเหล็กของจีนได้ปิดเตาถลุงเหล็กหมายเลข 4 ของโรงงานหลอมเหล็กโส่วกังที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกของปักกิ่งลง อีกทั้งนับจากนี้ไป โส่วกังกรุ๊ปจะทำการทยอยปิดเครื่องจักรในการผลิตเหล็กกึ่งหนึ่งในเขตปักกิ่งลงภายในปีนี้ ซึ่งจะทำให้การปล่อยมลพิษประเภทต่างๆลดลงไปครึ่งหนึ่งเพื่อสนองนโยบายโอลิมปิกสีเขียว
โดยเมื่อวันเสาร์ (5 ม.ค.) ทางโส่วกังได้ประกาศว่าการปิดเตาถลุงหมายเลข 4 ครั้งนี้ ถือเป็นการเปิดฉากกระบวนการลดกำลังการผลิตครั้งใหญ่ที่สุดจำนวน 4 ล้านตัน และเป็นปิดเครื่องจักรมากที่สุดของโส่วกังอีกด้วย โดยเตาถลุงเหล็กหมายเลข 4 ตั้งอยู่ในพื้นที่ 2,100 ตารางเมตร และเดินเครื่องเผาไหม้มาตลอดระยะ 35 ปี 2 เดือนนี้ ได้ผลิตน้ำเหล็กสะสมทั้งสิ้น 42.95 ล้านตัน ในปี 2007 ได้ทำลายสถิติด้วยการผลิตมากถึง 1.84 ล้านตัน
นอกจากเตาถลุงหมายเลข 4 ยังมีการปิดเตาย่างแร่ 2 เตา และเตาออกซิเจนที่ใช้ผลิตเหล็กกล้า 2 เตา และในช่วงเดือนมี.ค. โส่วกังยังเตรียมจะปิดเตาถลุงหมายเลข 2 กับเตาย่างแร่และเตาออกซิเจนอีกอย่างละ 2 เตา ปลายเดือนมิ.ย. ค่อยหยุดเตาถลุงหมายเลข 3 กับเตาย่างแร่อีก2 เตาชั่วคราว ซึ่งจะทำให้ในเดือนก.ค.-ก.ย. โส่วกังจะมีการผลิตในแต่ละเดือนเพียง 200,000 ตัน หรือน้อยกว่า 30%ของการผลิตในช่วงเวลาปกติ ลดการปล่อยเขม่าเหลือ 31 ตัน และลดการปล่อยซัลเฟอร์ ไดออกไซด์ลงเหลือ 55 ตัน
นายจูจี้หมิน ประธานบริหารของโส่วกังได้เปิดเผยว่า “การหยุดการผลิตจำนวน 4 ล้านตัน เท่ากับลดการผลิตของโส่งกังในปักกิ่งถึงครึ่งหนึ่ง และจะยังผลให้ปี 2008 โส่วกังจะต้องสูญเสียผลกำไรไปถึง 2,600 ล้านหยวน การดำเนินการดังกล่าวเป็นการเสียสละเพื่อเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมในเมืองหลวง และการสนับสนุนการจัดมหกรรมกีฬาโอลิมปิก” ซึ่งคาดว่าหลังจากมีการลดการผลิตของโส่วกังในครั้งนี้แล้ว ต่อไปกระบวนการลดการผลิตและการย้ายฐานการผลิตของโส่วกังก็จะเร่งฝีก้าวเร็วยิ่งขึ้น
ประธานของโส่วกังยังได้เปิดเผยว่า “การลดกำลังการผลิตในช่วงเวลาที่ดำเนินการย้ายฐานการผลิต ปรับปรุงโครงสร้างนั้น ถือเป็นสัญญาที่โส่วกังได้ให้ไว้กับสังคม ทว่าทุกๆครั้งที่มีการหยุดเครื่องจักรขนาดใหญ่ ย่อมหมายความว่าจะมีคนงานจำนวนหนึ่งที่ต้องไปจากสถานที่ทำงานที่ตนคุ้นเคย แล้วต้องไปทำการเรียนรู้เพื่อเข้าทำงานในแผนกอื่นๆ โดยในปี 2005-2010 จะมีพนักงานทั้งสิ้น 64,700คนของโส่วกังที่ต้องไปจากสถานที่ทำงานเดิม
จากการประเมินในขั้นต้น เพื่อที่จะต้อนรับ “โอลิมปิกสีเขียว” หลังจากที่ลดกำลังการผลิตแล้ว เมื่อเทียบกับปี 2007 ปีนี้โส่วกังได้ตั้งเป้าลดปริมาณการปล่อยมลพิษประเภทต่างๆอย่างซัลเฟอร์ ไดออกไซด์ เขม่า และฝุ่นลง 49.18% , 50.32% และ 49.22%ตามลำดับ
“การลดการผลิตเป็นเพียงขั้นแรกเท่านั้น ในระหว่างที่มีการย้ายฐานการผลิตและปรับโครงสร้าง โส่วกังยังจะเดินหน้าในการลงทุนเพื่อบำบัดสิ่งแวดล้อมสำคัญในปักกิ่งเพิ่ม เพื่อช่วยให้มีการแก้ไขสิ่งแวดล้อมให้ปรับสภาพดีขึ้นอย่างยั่งยืน” เมี่ยวหงเฉียง หัวหน้าวิศวกรฝ่ายรักษาสิ่งแวดล้อมของโส่วกังระบุ
. ทั้งนี้ เมื่อเดือนก.พ. 2005 คณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีนได้อนุมัติโครงการย้ายฐานการผลิตการผลิตของโส่วกัง โดยอนุญาตให้โส่วกังสามารถลดการผลิต ย้ายโรงงาน ปรับโครงสร้างและบำบัดสิ่งแวดล้อม โดยจะมีการก่อสร้างโส่วกังใหม่ขึ้นที่เมืองถังซัน มณฑลเหอเป่ย และสร้างโรงผลิตเหล็กรีดเย็นขึ้นที่ซุ่นอี้ ซึ่งจะแล้วเสร็จโครงการเคลื่อนย้ายฐานการผลิตในปี 2010
ก่อนหน้านี้ในวันที่ 30 มิ.ย. 2005 โส่วกังได้เริ่มต้นการหยุดการผลิตของเตาถลุงขนาดใหญ่ครั้งแรก โดยเป็นเตาที่มีกำลังผลิตราว 900,000 ตันต่อปี และในเดือนพ.ค. 2006 ก็ได้ปิดเตาถ่านโค้กหมายเลข 2 ซึ่งเป็นเตาถ่านโค้กที่เก่าแก่ที่สุดในโลกลง