กระบี่ -ผู้เลี้ยงกุ้งกระบี่ วอนรัฐบาล “มาร์ค” เร่งแก้วิกฤตราคากุ้ง หลังประสบปัญหาราคาตกต่ำ ขายไม่ออก
นายปกครอง เกิดสุข ประธานชมรมผู้เลี้ยงกุ้งจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า จากภาวะเศรษฐกิจของประเทศสหรัฐเมริกา ถดถอย ส่งผลทำให้ส่งผลกระทบต่อผู้เลี้ยงกุ้งในประเทศ รวมทั้งจังหวัดกระบี่ เนื่องจากกุ้งที่ในประเทศไทยประมาณ 40-50 เปอร์เซ็นต์ จะส่งออกไปยังประเทศอเมริกา และเมื่อเมริการประสบปัญหาด้านเศรษฐกิจ ทำให้ต้องลดกำลังซื้อจากประเทศไทยด้วย
สำหรับผลกระทบโดยตรงกับผู้เลี้ยงกุ้ง คือ ราคากุ้งปรับลดลงมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสาเหตุหลักมาจากกุ้งล้นตลาด ส่งออกได้น้อย เพราะตลาดค่อนข้างจำกัด ราคากุ้งจึงลดลงมาดามลำดับ
นายปกครอง กล่าวอีกว่า แนวทางในการแก้ไขของผู้เลี้ยงกุ้งทั่วประเทศในตอนนี้ คือ ลดการผลิต ซึ่งจะทำให้ราคามีเสถียรภาพมากขึ้น เพราะมีการลดการสั่งนำเข้า ก็ต้องลดการผลิต เพื่อให้มีความใกล้เคียงกัน ในส่วนของจังหวัดกระบี่เองมีกำลังการผลิตปีละ 3 หมื่นตัน แต่ในปีที่ผ่านมา ผลิตเพียง 25,000 ตัน ซึ่งเป็นการสนองนโยบายในการลดการผลิต เพื่อให้ภาวะการตลาดมีเสถียรภาพ
สำหรับผู้ประกอบการเลี้ยงกุ้งในจังหวัดกระบี่ ขณะนี้มีอยู่ประมาณ 300-400 ราย ถือว่าไม่มาก แต่บุคคลที่เกี่ยวข้องในธุรกิจการเลี้ยงกุ้ง มีค่อนข้างมาก ใน 1 ฟาร์ม มีเจ้าของเพียงคนเดียว แต่มีพนักงาน ผู้เลี้ยง คนงานรวมแล้วฟาร์มละไม่ต่ำกว่า 10 คน นอกจากนั้น ก็ยังมีพ่อค้าแม่ค้า แพกุ้ง เข้ามาเกี่ยวข้องกับธุรกิจการเลี้ยงกุ้งค่อนข้างมาก ในกระบี่รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 5,000 คน ซึ่งเมื่อมีการลดกำลังการผลิต ก็จะมีผลกระทบในเรื่องของแรงงานตามมา
“อยากให้รัฐบาลชุดใหม่ เข้ามาดูแลในเรื่องของตลาดส่งออกให้มากขึ้น เพราะในส่วนของวิธีการเลี้ยง หรือการบริหารจัดการผู้เลี้ยงก็สามารถปรับตัวได้ แต่ปัญหาที่สำคัญ คือ ตลาดส่งออกของเราค่อนข้างจำกัด เพราะเรามีตลาดหลัก คือ อเมริกา ตลาดอียู และตลาดญี่ปุ่น จึงอยากให้รัฐบาลส่งเสริมตลาดรัสเซีย หรือตลาดตะวันออกกลาง ซึ่งมีกำลังซื้อสูง หากเราสามารถเจาะตลาดใหม่ๆ ได้ เชื่อว่า อนาคตการเลี้ยงกุ้งของไทย จะมีอนาคตมากขึ้น” นายปกครอง กล่าว
นายปกครอง เกิดสุข ประธานชมรมผู้เลี้ยงกุ้งจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า จากภาวะเศรษฐกิจของประเทศสหรัฐเมริกา ถดถอย ส่งผลทำให้ส่งผลกระทบต่อผู้เลี้ยงกุ้งในประเทศ รวมทั้งจังหวัดกระบี่ เนื่องจากกุ้งที่ในประเทศไทยประมาณ 40-50 เปอร์เซ็นต์ จะส่งออกไปยังประเทศอเมริกา และเมื่อเมริการประสบปัญหาด้านเศรษฐกิจ ทำให้ต้องลดกำลังซื้อจากประเทศไทยด้วย
สำหรับผลกระทบโดยตรงกับผู้เลี้ยงกุ้ง คือ ราคากุ้งปรับลดลงมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสาเหตุหลักมาจากกุ้งล้นตลาด ส่งออกได้น้อย เพราะตลาดค่อนข้างจำกัด ราคากุ้งจึงลดลงมาดามลำดับ
นายปกครอง กล่าวอีกว่า แนวทางในการแก้ไขของผู้เลี้ยงกุ้งทั่วประเทศในตอนนี้ คือ ลดการผลิต ซึ่งจะทำให้ราคามีเสถียรภาพมากขึ้น เพราะมีการลดการสั่งนำเข้า ก็ต้องลดการผลิต เพื่อให้มีความใกล้เคียงกัน ในส่วนของจังหวัดกระบี่เองมีกำลังการผลิตปีละ 3 หมื่นตัน แต่ในปีที่ผ่านมา ผลิตเพียง 25,000 ตัน ซึ่งเป็นการสนองนโยบายในการลดการผลิต เพื่อให้ภาวะการตลาดมีเสถียรภาพ
สำหรับผู้ประกอบการเลี้ยงกุ้งในจังหวัดกระบี่ ขณะนี้มีอยู่ประมาณ 300-400 ราย ถือว่าไม่มาก แต่บุคคลที่เกี่ยวข้องในธุรกิจการเลี้ยงกุ้ง มีค่อนข้างมาก ใน 1 ฟาร์ม มีเจ้าของเพียงคนเดียว แต่มีพนักงาน ผู้เลี้ยง คนงานรวมแล้วฟาร์มละไม่ต่ำกว่า 10 คน นอกจากนั้น ก็ยังมีพ่อค้าแม่ค้า แพกุ้ง เข้ามาเกี่ยวข้องกับธุรกิจการเลี้ยงกุ้งค่อนข้างมาก ในกระบี่รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 5,000 คน ซึ่งเมื่อมีการลดกำลังการผลิต ก็จะมีผลกระทบในเรื่องของแรงงานตามมา
“อยากให้รัฐบาลชุดใหม่ เข้ามาดูแลในเรื่องของตลาดส่งออกให้มากขึ้น เพราะในส่วนของวิธีการเลี้ยง หรือการบริหารจัดการผู้เลี้ยงก็สามารถปรับตัวได้ แต่ปัญหาที่สำคัญ คือ ตลาดส่งออกของเราค่อนข้างจำกัด เพราะเรามีตลาดหลัก คือ อเมริกา ตลาดอียู และตลาดญี่ปุ่น จึงอยากให้รัฐบาลส่งเสริมตลาดรัสเซีย หรือตลาดตะวันออกกลาง ซึ่งมีกำลังซื้อสูง หากเราสามารถเจาะตลาดใหม่ๆ ได้ เชื่อว่า อนาคตการเลี้ยงกุ้งของไทย จะมีอนาคตมากขึ้น” นายปกครอง กล่าว