ภายหลังการเสียชีวิตของ “ดีทริช มาเตชิตซ์” หุ้นส่วน Red Bull ในออสเตรีย สื่อเศรษฐกิจเริ่มจับตามอง “มาร์ก มาเตชิตซ์” ลูกชายคนเดียวของเขา ที่นอกจากจะรับช่วงธุรกิจต่อจากผู้เป็นพ่อแล้ว เขายังถือสิทธิ์ครอบครองมรดกแต่เพียงผู้เดียวอีกด้วย แม้ว่า ดีทริช มาเตชิตซ์ จะเคยมีอิสระเต็มที่กับการบริหาร Red Bull แต่เขาก็มีเสียงข้างน้อยกว่าตระกูล “อยู่วิทยา” หุ้นส่วนใหญ่ในเมืองไทย ซึ่งตอนนี้มีสิทธิ์ในการตัดสินใจว่าจะเลือกใครเป็นผู้สืบทอด และอาจดำเนินการตามแผนของตนเองก็ได้
เรื่องราวส่วนตัวของ มาร์ก มาเตชิตซ์ เป็นที่รู้จักกันน้อยมาก แต่เดิมเขาใช้นามสกุล “แกร์ฮาร์ดเตอร์” ของแม่ และเพิ่งเปลี่ยนมาใช้นามสกุลของพ่อเมื่อไม่กี่ปีมานี้เอง ในวัยเด็กเขาอยู่ในความดูแลของแม่ “อนิตา แกร์ฮาร์ดเตอร์” อดีตแอร์โฮสเตสและครูสอนสกี ซึ่งเคยใช้ชีวิตคู่อยู่กับ ดีทริช มาเตชิตซ์ แต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสและไม่ได้เข้าพิธีแต่งงาน ชีวิตคู่ของทั้งสองสิ้นสุดลงภายในระยะเวลาสองปีเท่านั้น
ดีทริช มาเตชิตซ์ รับผิดชอบค่าเลี้ยงดูลูกชาย ส่งเสียให้เรียน โดยตั้งกองทุนไว้ให้เขาเป็นเงินก้อน เมื่อไหร่ก็ตามที่ลูกชายอายุครบ 24 ปี ก็จะได้รับเงินจากกองทุนนั้น มีข้อแม้เพียงว่าเขาจะต้องไม่ติดยาเสพย์ติด หรือต้องโทษทางกฎหมายเมื่อถึงเวลานั้น แต่ก่อนที่ลูกชายจะอายุครบ 18 ปี ดีทริช มาเตชิตซ์ กลับเปลี่ยนใจ และดึงตัวลูกชายเข้าไปร่วมงานในกิจการของเขาแทน
มาร์กเรียนจบชั้นมัธยมฯ ปลาย จากโรงเรียนเอกชนในเมืองซัลซ์บวร์ก และเลือกเรียนต่อด้านบริหารธุรกิจในมหาวิทยาลัย แต่เขาเรียนจบหรือยังตอนนี้ไม่มีใครรู้ ระหว่างที่เรียนอยู่มาร์กเริ่มเรียนรู้งานในอาณาจักร Red Bull ที่ผู้เป็นพ่อเตรียมพร้อมไว้ เพื่อให้เขาสืบต่อตำแหน่งบริหาร สื่อในเยอรมนีรายงานว่า ขณะนี้เขารับผิดชอบงานที่ ‘Wings of Life’ อยู่ เป็นงานมูลนิธิที่ให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยอัมพาต
ทายาท Red Bull วัย 29 ยังเป็นประธานบริษัท Mark Mateschitz Beteiligungs GmbH ซึ่งมีสำนักงานอยู่ในซัลซ์บวร์ก และเป็นบริษัทลูกของ Red Bull Group และถือหุ้น 34% ในบริษัทอสังหาริมทรัพย์ Deaurea รวมถึงตำแหน่งผู้บริหารในระยะเวลาสั้นๆ ของบริษัท Thalheimer Heilwasser GmbH มาร์ก มาเตชิตซ์เป็นคนสุภาพนอบน้อม เงียบขรึม และค่อนข้างเก็บตัว สื่อในออสเตรียและเยอรมนี เคยเล่นข่าวเกี่ยวกับสัมพันธ์รักและเรื่องส่วนตัวของเขา แต่ทั้งหมดนั้นก็ไม่มีหลักฐานชี้ชัด
มรดกของพ่อซึ่งเป็นหุ้นจำนวน 49% ใน Red Bull Group รวมมูลค่าทรัพย์สิน-ตามรายงานล่าสุด-กว่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์ ที่เขาจะได้รับแต่เพียงผู้เดียวนั้น อาจทำให้เขามีชื่อติดอยู่ในลิสต์ “คนรวยที่อายุต่ำกว่า 30 ปี” ของนิตยสาร Forbes ในเร็ววันนี้แน่นอน
