xs
xsm
sm
md
lg

“ไฮโซหญิง” จ่อชี้แจง ป.หลังถูกเสี่ยอสังหาฯ ร้องหลอกแต่งงานพ่อลวงโอนทรัพย์สินกว่า 50 ล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



MGR Online -ไฮโซหญิง” เตรียมชี้แจงกองปราบ หลังถูกเสี่ยอสังหาฯ กล่าวหาหลอกแต่งงานกับพ่อ ก่อนลวงให้โอนทรัพย์สินกว่า 50 ล้านบาท

วันนี้ (23 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี นายศุภโชค ศุภบัณฑิต นักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ พร้อมครอบครัวและทนายความเข้าร้องทุกข์พนักงานสอบสวนกองปราบปราม ให้สืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริง ภายหลังที่ เสี่ย ส. (นามสมมติ) คุณพ่อวัย 75 ปี ซึ่งมีอาชีพเป็นทนายความและนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ถูก ไฮโซลินดา (นามสมมติ) เมียอดีตตำรวจเข้ามาหลอกลวงจดทะเบียนสมรส ทำให้สูญเสียทรัพย์สินไปแล้วประมาณ 50 ล้านบาท ว่า ภายหลังตกเป็นข่าว ไฮโซลินดา พร้อมทนายความได้รวบรวมพยานหลักฐานเป็นภาพถ่ายทะเบียนสมรส ภาพวันหมั้น รวมทั้งคลิปเสียงบางส่วนที่เสี่ย ส. พูดคุยกันหลังจดทะเบียนสมรสแล้ว เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ป.เพื่อชี้แจงกรณีที่ถูกพาดพิงทั้งหมดในวันอังคารที่ 25 ตุลาคมนี้ เวลา 09.00 น.

โดยก่อนหน้านี้ ไฮโซลินดา ไม่ประสงค์ที่จะออกมาตอบโต้ เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องระหว่างคนในครอบครัว น่าจะมาพูดคุยกันได้ แต่กลับมีการไปออกข่าวให้เสียหาย จึงตัดสินใจเปิดเผยเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยเธอระบุว่า หลักฐานต่างๆ เหล่านี้ เสี่ย ส. มีสติสัมปชัญญะ ทำไว้ด้วยตัวเอง และสั่งให้ลินดาเรื่องเก็บข้อมูลต่างๆ ในฐานะนักกฎหมาย สอนให้เก็บเพื่อป้องกันไม่ให้ถูกฝ่ายตรงข้ามรังแก ซึ่งมีหลักฐานที่ยังไม่ได้เปิดเผยอีกจำนวนมากทั้งที่เป็นเอกสารและคลิปภาพและเสียง ภาพถ่าย ซึ่งภายหน้าหากมีความจำเป็นจะได้มีหลักฐานใช้แสดงให้ผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดรับรู้ข้อเท็จจริงของทั้งสองคน

ส่วนลำดับความสัมพันธ์ ลินดา กับ เสี่ย ส.นั้น เริ่มจากเมื่อเดือนเมษายน 65 ลินดา รู้จัก เสี่ย ส. ผ่านนายหน้าค้าที่ดินรายหนึ่งแนะนำ ทำให้ทั้งสองติดต่อทำธุรกิจที่ดินด้วยกัน ก่อนเสี่ยส. จะขอกู้ลินดา 300 ล้านบาท ต่อมาเสี่ยส. ไปมาหาสู่ลินดาเรื่อยมา ด้วยความเข้าใจกันและกัน ทั้งคู่จึงตัดสินใจจดทะเบียนสมรสเพื่อความสะดวกในการทำธุรกิจที่ดิน-อสังหาริมทรัพย์ร่วมกัน

วันที่ 2 มิ.ย.65 เสี่ย ส. พาลินดา ไปไหว้ขอพรจากสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (ธงชัย ธมฺมธโช) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตร ทำพิธีหมั้น โดยเสี่ย ส. ได้สวมแหวนเพชร 3 กะรัต และมอบเช็คจำนวน 100 ล้านบาทให้ลินดาเป็นของหมั้น มีแขกร่วมงานเพียง 10 คน เสี่ย ส.ให้เหตุผลในการหมั้นว่าลินดาเป็นคนดี ซึ่งตัวลินดาเองก็รู้สึกว่าตัวเองอายุมากแล้วปีนี้ก็ 65 ปี ส่วนเสี่ย ส.ก็อายุ 75 ปี ต่างฝ่ายต่างเป็นม่าย จึงอยากใช้ชีวิตบั้นปลายด้วยกัน ไม่อยากเสียเวลาที่เหลือไปเปล่าๆ หลังจากนั้นเสี่ย ส. ก็ย้ายมาอยู่ด้วยกันกับลินดา

วันที่ 26 ก.ค. 65 เสี่ย ส. ขายหุ้นปูนซิเมนต์ให้บุตรชายของลินดา ที่เสี่ย ส.รักและเอ็นดูเหมือนลูกในราคาหุ้นละ 5 บาท แลกกับที่เสี่ย ส. ยืมเงินของลินดากับลูกชายไปลงทุน นอกจากนั้น ลินดายังได้รับซื้อคอนโดมิเนียมไว้ กับที่ดินขนาด 100 ตารางวา ที่ดินหวังเอาไว้สร้างเรือนหอ รวมมูลค่าทรัพย์ที่ได้รับแล้วไม่ถึง 5 ล้านบาท

วันที่ 27 ก.ค. 65 ทั้งคู่ไปทำธุรกิจด้วยกันที่เชียงใหม่ เสี่ย ส. รบเร้าขอลินดาแต่งงาน เพื่อความสะดวกในการทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บอกว่า ไม่อยากรอ เนื่องจากติดวันหยุดยาว และกลัวว่าลินดาจะเปลี่ยนใจไม่จดทะเบียนสมรสด้วย ลินดาจึงตัดสินใจยอมจดทะเบียนสมรสด้วย แต่ติดที่ลินดายังไม่ได้หย่าขาดจากสามีเก่าที่แยกกันอยู่มานานกว่า 10 ปี ที่อาศัยอยู่ จ.กำแพงเพชร เสี่ย ส.จึงขอให้ลินดา นัดสามีเก่ามาจดทะเบียนหย่า พร้อมกับทั้งคู่ก็จดทะเบียนสมรสเลย ลินดาจึงนัดหมายสามีเก่ามาที่ว่าการอำเภอพรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร และจดทะเบียนสมรสใหม่กับเสี่ย ส.ในวันเดียวกัน

วันที่ 2 ต.ค. 65 เวลา 09.40 น. ลินดา ได้รับแจ้งจากคนที่บ้านว่า เสี่ย ส. ถูก ลูกชาย มาพาตัวขึ้นรถตู้สีขาวออกไปจากบ้านพักย่านวังหิน เขตลาดพร้าว กทม.บอกว่า “จะเอาพ่อออกไปกินกาแฟ เดี๋ยวจะพากลับมา” แต่ติดต่อไม่ได้ รอจนวันที่ 8 ต.ค.65 ก็ยังไม่กลับมา จึงไปแจ้งความ ตำรวจ สน.โชคชัย พร้อมภาพวงจรปิดไปมอบไว้หากมีอันตรายเกิดขึ้นกับเสี่ย ส.

ด้าน นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ให้ความเห็นถึงกรณีดังกล่าวว่า เช็ค 100 ล้านบาทที่ เสี่ย ส.ให้กับนางลินดาถือเป็นทรัพย์สินส่วนตัวของเสี่ย ส. ซึ่งเข้าข่ายสินสมรส ดังนั้นทางครอบครัวของเสี่ย ส. ไม่สามารถเรียกคืนได้ นอกจากนี้ เสี่ย ส.ยังมีสิทธิ์ในทรัพย์สินส่วนตัวของตัวเอง ซึ่งสามารถมอบให้นางลินดาได้ตามที่ต้องการ

ทั้งนี้ มีข้อยกเว้นในบางกรณี หากบุตรของ เสี่ย ส.จะเข้าไปดูแลทรัพย์สินของพ่อ โดยทรัพย์สินดังกล่าวจะต้องเป็นกรรมสิทธิ์ของแม่แท้ๆ ของบุตรของ เสี่ย ส. อย่างไรก็ตาม การจดทะเบียนหย่าต้องเกิดจากความต้องการของสามีภรรยา บุคคลอื่นไม่สามารถฟ้องหย่าได้ ซึ่งในกรณีที่เกิดขึ้นตนคิดว่าคงไม่มีการหย่าเกิดขึ้น




กำลังโหลดความคิดเห็น