>>จากนักต่อสู้เพื่อสิทธิของกลุ่ม LGBT ซาราห์ แมคไบรด์ ประสบความสำเร็จในการพาตัวเองเข้ามาสู่การเป็นตัวแทนของพรรคเดโมแครต ในฐานะวุฒิสมาชิกหญิงข้ามเพศคนแรกของสหรัฐฯ
ซาราห์ แมคไบรด์ ได้รับการสนับสนุนอย่างมากจากบรรดาคนดังและนักการเมืองร่วมพรรค ตั้งแต่ครอบครัวของโจ ไบเดน และนักแสดงตลกชื่อดังอย่าง เอมี ชูเมอร์ ฯลฯ ที่ช่วยผลักดันให้นักต่อสู้ด้านสิทธิมนุษยชนสตรีข้ามเพศเข้ามามีบทบาททางการเมือง โดยเธอได้ชัยชนะเหนือ สตีฟ วอชิงตัน ของพรรครีพับลิกัน ได้รับเลือกตั้งเข้ามาเป็นวุฒิสมาชิกของรัฐเดลาแวร์
“เราทำสำเร็จแล้ว” ซาราห์ทวีตข้อความออกมาในค่ำคืนของวันที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เพื่อประกาศชัยชนะของเธอ รวมทั้งขอบคุณผู้สนับสนุนทั้งหลาย “ฉันหวังให้ผลของการเลือกตั้งในคืนนี้เป็นชัยชนะของเด็กๆ LGBTQ ทุกคนด้วยค่ะ”
นอกจากซาราห์จะเป็นวุฒิสมาชิกสตรีข้ามเพศคนแรกในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ แล้ว ยังนับเป็นสตรีข้ามเพศคนแรกที่ได้รับการเลือกตั้งเข้ามาดำรงตำแหน่งทางการเมืองของรัฐเดลาแวร์อีกด้วย
“ฉันไม่ได้อยากจะเป็นวุฒิสมาชิกสตรีข้ามเพศ แต่ฉันคือสตรีข้ามเพศที่ได้รับเลือกตั้งเข้ามาเป็นวุฒิสมาชิกต่างหาก” ซาราห์ให้สัมภาษณ์แก่หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นเดลาแวร์
เส้นทางการเมืองของ ซาราห์ แมคไบรด์ เริ่มต้นขึ้นจากการเป็นเด็กฝึกงานในทำเนียบขาว ตั้งแต่ปี 2012 ซึ่งเธอก็เป็นสตรีข้ามเพศคนแรก (อีกแล้ว) ที่ได้ทำงานในทำเนียบประธานาธิบดี ซึ่งด้วยเพศสภาพของเธอเองทำให้ได้เข้าไปจับงานทางด้านที่เกี่ยวกับ LGBTQ โดยเฉพาะ
ไม่แปลกใจที่ซาราห์จะไม่ปลื้ม โดนัลด์ ทรัมป์ สักเท่าไร แต่เธอก็บอกเอาไว้ในปี 2018 ว่านโยบายหรือมุมมองที่มีต่อกลุ่ม LGBTQ ของทรัมป์ จะไม่ทำให้เธอหมดกำลังใจในการต่อสู้เรียกร้องสิทธิของเพศทางเลือกอย่างแน่นอน
“ถึงแม้ว่า โดนัลด์ ทรัมป์ จะบอกว่าเขาเป็นมิตรกับกลุ่ม LGBTQ แต่เราก็ได้เห็นทัศนคติบางอย่างที่เขาได้แสดงออกต่อคนกลุ่มนี้ ซึ่งตรงข้ามกับสิ่งที่เขาประกาศออกมา เพียงแค่ไม่กี่เดือนที่เขาเข้ามารับตำแหน่งก็ปรากฏว่ามีการเพิกถอนสิทธิด้านการศึกษาของกลุ่มนักเรียนข้ามเพศจำนวนมาก รวมทั้ง พนักงานกลุ่มข้ามเพศก็ถูกละเมิดสิทธิในหลายๆ แห่ง
“หาก โดนัลด์ ทรัมป์ ยังอยู่ในทำเนียบขาว พวกเรายังคงต้องต่อสู้กันอย่างเข้มแข็งขึ้นอีก แต่ฉันก็ไม่ย่อท้อที่จะแสดงให้ทุกคนเปิดใจ เปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับเพศที่สาม และทำให้สังคมของเราเท่าเทียมกันต่อไป”
แม้วัยของซาราห์จะเพิ่งขึ้นเลข 3 ทว่า เธอเคยผ่านประสบการณ์น่าเศร้าเกี่ยวกับความรักมาแล้ว ในปี 2014 เธอแต่งงานกับ แอนดรูว์ เครย์ แฟนหนุ่มนักการเมืองและนักเรียกร้องสิทธิกลุ่ม LGBTQ ที่ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย โดยเขาเสียชีวิตหลังจากงานแต่งงานเพียง 4 วันเท่านั้น
ชีวิตของ ซาราห์ แมคไบรด์ ต้องดำเนินต่อไป -- 4 ปีต่อมาเธอออกหนังสือ Tomorrow Will Be Different: Love, Loss, and the Fight for Trans Equality เล่าเรื่องการต่อสู้เพื่อความเท่าเทียมทางเพศของเธอในเดลาแวร์ และทั่วสหรัฐฯ ในหนังสือยังเล่าเรื่องราวของอดีตสามีที่ล่วงลับด้วย โดยคำนำของเล่มเขียนโดยอดีตรองประธานาธิบดีอย่าง โจ ไบเดน
ซาราห์เป็นขวัญใจของบรรดาเซเลบคนดัง หลังจากเธอทวีตประกาศชัยชนะได้เข้ามาเป็นวุฒิสมาชิกของรัฐเดลาแวร์ ทั้งเซเลบและนักการเมืองต่างก็เข้ามาแสดงความยินดีมากมาย ทั้งเอมี ชูเมอร์ วุฒิสมาชิก คริส คูนส์ ครอบครัวโจ ไบเดน และสมาชิกสภาฯ ลิซา บลันต์ รอชสเตอร์ ที่ยกย่องซาราห์ แมคไบรด์ มาตลอดในฐานะ “สตรีข้ามเพศแถวหน้า”