บางทีเกิดเป็นทายาทตระกูลดังชีวิตก็ไม่ได้ง่าย หลายคนต้องพยายามอย่างมากเพื่อเป็นลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น เพราะชื่อเสียงวงศ์ตระกูลค้ำคอเอาไว้ให้ประพฤติอยู่ในกรอบ แต่ก็มีหลายคนที่พลั้งพลาด อาจกลายเป็นการสร้างชื่อเสียให้ครอบครัวได้ เหมือนอย่างกรณีของ “บอส อยู่วิทยา” ที่ทำเอาคนในตระกูลนามสกุลเดียวกันต่างต้องรีบออกมาแจกแจ้งถึงความไม่เกี่ยวข้องกันเป็นการใหญ่
เรียกว่า เป็นทายาทของบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในเกาหลีใต้ก็ว่าได้ แต่ ลีแจยอง กลับนำความเสื่อมเสียมาสู่วงศ์ตระกูลลี เจ้าของบริษัทซัมซุง ด้วยการเข้าไปพัวพันกับคดีคอร์รัปชันของอดีตประธานาธิบดีเกาหลีใต้ โดยถูกกล่าวหาว่าได้มีการติดสินบน ร่วมกันยักยอกทรัพย์ และปกปิดทรัพย์สินในต่างประเทศ โดย ลีแจยอง ได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ทำให้เขาต้องโทษจำคุกถึง 5 ปี
ทายาทของซัมซุงวัย 49 ปี ถูกกล่าวหาว่า เขาได้บริจาคเงิน 4.1 หมื่นล้านวอน ให้กับบริษัทที่ไม่แสวงหาผลกำไร ซึ่งดำเนินการโดยชอยซุนซิล เพื่อนสนิทของอดีตประธานาธิบดีหญิง พัคกึน-ฮเย ที่ว่ากันว่า ทำให้ได้ผลประโยชน์มหาศาลจากรัฐบาลกลับคืนมาสู่บริษัทซัมซุงในเวลาต่อมา รวมทั้งเป็นการกีดกันคู่แข่งทางการค้าบริษัทอื่นๆ ออกไป
ก่อนหน้านั้น ลีแจยอง เคยยอมรับว่า เขาได้สนับสนุนลูกสาวของชอยซุนซิล ทั้งค่าเล่าเรียนและให้ม้าสำหรับอาชีพนักขี่ม้าของเธอด้วย โดยบอกว่า ไม่ได้หวังสิ่งตอบแทนใดๆ
จอห์น อเลอแตร์ ดู ปองต์ ทายาทรุ่นที่ 7 ของครอบครัวดู ปองต์ ตระกูลทรงอิทธิพลระดับโลกในวงการขี่ม้าและม้าแข่ง เป็นเจ้าของฟาร์มม้า และสนามแข่งม้าหลายสิบแห่งในอเมริกา สร้างจุดด่างพร้อยกับวงศ์ตระกูล เมื่อต้องคดีฆ่าคนตาย ถูกตัดสินจำคุกถึง 30 ปี เลยทีเดียว
จอห์น อเลอแตร์ ดู ปองต์ เอาดีทางสายกีฬา ด้วยการเป็นโค้ชมวยปล้ำ โดยได้สร้าง ฟอกซ์แคตเชอร์ ค่ายมวยของตัวเองขึ้นมา ในบรรดาคนสนิทๆ ต่างก็รู้ว่า ลูกเศรษฐีรายนี้มีบุคลิกที่แปลกแยก แต่ความรวยของเขากลบเกลื่อนสิ่งเหล่านี้เอาไว้ได้มาก
ในปี 1997 เขาก็ได้ใช้ปืนยิง เดฟ ชูลต์ซ นักมวยปล้ำโอลิมปิก จนเสียชีวิต หลังจากถูกดำเนินคดีก็พบว่า เขามีจิตที่ไม่ปกติแต่ไม่ถึงกับสติไม่ดี ทำให้ต้องโทษจำคุก 30 ปี จนต้องเสียชีวิตอยู่ในคุกเมื่อ 9 ธันวาคม 2010 ในวัย 72
ทายาทรุ่นเหลนของ แมกซ์ แฟคเตอร์ บริษัทเครื่องสำอางดัง — แอนดรูว์ สจวร์ต ลัสเตอร์ เจอไปทั้งข้อหาข่มขืนกระทำชำเรา และมอมยาผู้หญิงถึง 3 รายด้วยกัน
ในปี 2000 แอนดรูว์ สจวร์ต ลัสเตอร์ ถูกจับหลังจากนักเรียนหญิงไปแจ้งตำรวจว่า เธอถูกข่มขืนที่บ้านของเขา ทำให้ตำรวจที่เข้าไปค้นบ้านได้พบหลักฐานเป็นวิดีโอเทป ที่สามารถเอาผิดเขาในข้อหาข่มขืนกระทำชำเรา และมอมยาผู้หญิงอีก 3 ราย
หลังจากขอประกันตัวออกไปด้วยเงิน 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เขาก็ไม่ยอมมาปรากฏตัวในศาล ณ วันที่ตัดสินคดีในปี 2003 ทำให้ศาลตัดสินจำคุก 124 ปี ก่อนที่เขาจะหนีหมายจับไปเม็กซิโก แต่ทางการเม็กซิโกก็จับเขาส่งคืนมายังสหรัฐ ในที่สุดก็ต้องมารับโทษอยู่ในคุกที่แคลิฟอร์เนีย
การเป็นนักโทษชั้นดี ทำตัวให้มีประโยชน์ต่อชุมชน แน่นอนว่า อาจจะได้รับการอภัยโทษให้ออกมามีอิสระได้ก่อนวันจริง หากสำหรับกฎหมายแคลิฟอร์เนีย หากเป็นโทษที่เกี่ยวข้องกับการทำร้ายผู้อื่น ผู้ต้องขังจะต้องรับโทษให้ครบ 85% จึงจะมีสิทธิ์หลุดจากห้องขัง
เดลเลน มิลลาร์ด ทายาทของเวย์น มิลลาร์ด เจ้าของบริษัทผลิตและซ่อมเครื่องบินที่ใหญ่ที่สุดในแคนาดา จากบุรษหนุ่มมากเสน่ห์ผู้เป็นที่หมายปองที่สุดของสาวๆ กลายเป็นนักฆ่าต่อเนื่องไปซะอย่างนั้น
ภายนอก เดลเลน เป็นคนสนุกสนาน รักการปาร์ตี้ และมีรอยยิ้มบนใบหน้าเสมอ บุคลิกภาพของเขาเริ่มเปลี่ยนไป หลังจากที่พ่อของเขาเสียชีวิตในปี 2012 ซึ่งตำรวจบอกว่า สาเหตุจากการฆ่าตัวตาย
หากหลังจาก เดลเลน ถูกจับในข้อหาฆ่า ทิม บอสมา โดยไตร่ตรองไว้ก่อน หลังจากการสอบสวน ปรากฏว่า เขาไม่เพียงสังหาร ทิม บอสมา แต่ยังมี ลอร่า แบ็บค็อก อดีตแฟนสาวของเขา รวมทั้ง พ่อของเขาเอง เวย์น มิลลาร์ด ด้วย
ทิม บอสมา ต้องการขายรถกระบะให้ เดลเลนและเพื่อนของเขา มาร์ค สมิช มาทดลองขับ แต่ ทิม ไม่ได้กลับบ้านอีกเลย
ตำรวจไปเจอชิ้นส่วนรถของทิมที่บ้านแม่ของ เดลเลน พร้อมรอยกระสุนกับรอยเลือด ขณะที่ร่างของ ทิม ถูกพบในฟาร์มของเดลเลน แถมยังเจอเข้ากับร่างของ ลอร่า แบ็บค็อก ซึ่งหายตัวไปตั้งแต่ปี 2012 อีกด้วย
จากการสืบสวนพบว่า เดลเลนกับมาร์ค พออยู่ด้วยกันก็ชอบชวนกันทำเรื่องโง่ๆ เช่น ขโมยของชาวบ้าน ที่เขาไปรับรถของทิมมาก็วางแผนจะขโมยและฆ่าทิม บอสมา เช่นเดียวกับการวางแผนฆ่า ลอร่า ซึ่งมาร์ค ยังเป็นพยานบุคคลให้เดลเลน คืนที่พ่อของเขาเสียชีวิต ทำให้มีการสืบสวนต่อจนพบว่า เขาเองคือผู้วางแผนฆ่าพ่อด้วยปืนที่ซื้อมาอย่างผิดกฎหมาย
