บุรีรัมย์ - แม่ผวาวอนช่วยลูกสาว ป.6 ถูกครูพละข่มขืนกระทำชำเราและขู่ฆ่าห้ามบอกใคร พาลูกโร่แจ้งจับครูหื่นรับทำจริง แต่ส่งเพื่อนครูมาเคลียร์ถึงบ้านเชิงข่มขู่ให้จบเรื่อง แม่ยันเอาเรื่องถึงที่สุดแต่หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรมและไม่ปลอดภัยหลังครูหื่นได้รับประกันตัว ต้องย้ายที่อยู่และให้ลูกออกจาก ร.ร.หนีตาย ด้านอดีตภารโรงแฉซ้ำเคยย่ำยีเด็ก ป.5 มาแล้วถูกแจ้งจับแต่รอด
วันนี้ (20 ก.ค.) ความคืบหน้ากรณี น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 32 ปี ผู้ปกครองนักเรียนแห่งหนึ่งใน อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ว่า ด.ญ.บี (นามสมมติ) อายุ 12 ปี บุตรสาว เรียนชั้น ป.6 ถูกครูสอนพละในโรงเรียนล่อลวงลูกสาวไปกระทำชำเราภายในโรงเรียน โดย น.ส.เอ ผู้เป็นแม่ ให้ข้อมูลว่า เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมาสังเกตเห็นลูกสาวมีอาการผิดปกติ ปวดท้องน้อย ไม่กินข้าว ไม่พูดกับใคร จึงหายาให้กิน ระหว่างที่ลูกนอนซมอยู่นั้นตนไปดูโทรศัพท์ของลูกถึงกับตกใจ เพราะมีข้อความของครูคนหนึ่ง อายุ 33 ปี ซึ่งเป็นครูสอนพละและสุขศึกษาที่โรงเรียนแชตคุยกับลูกสาวว่า “อย่าลืมกินยาคุมฉุกเฉินที่ซื้อไปให้ และอย่าเอาเรื่องนี้ไปบอกใครเด็ดขาด เพราะครูจะต้องโดนไล่ออก ถ้าไปบอกใครครูจะฆ่า” นอกจากนี้ยังมีอีกหลายข้อความที่ตนรับไม่ได้ที่ครูแชตคุยกับลูกสาว
หลังทราบเรื่อง วันที่ 26 มิ.ย.จึงได้พาลูกสาวไปแจ้งความที่ สภ.นางรอง จากนั้นพนักงานสอบสวนได้เรียกคู่กรณีทั้งสองฝ่ายไปพบเพื่อสอบสวนเบื้องต้น ซึ่งตอนนั้นครูยอมรับสารภาพว่าได้กระทำชำเราลูกสาวจริง และได้มากราบขอโทษตนเอง ทางพนักงานสอบสวนจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาครู “กระทำชำเราบุคคลอายุไม่เกิน 13 ปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม และเด็กนั้นเป็นลูกศิษย์ซึ่งอยู่ในความดูแล” แล้วทำเรื่องส่งฝากขังศาลจังหวัดนางรองตามขั้นตอน แต่จากข้อมูลทราบว่าหลังถูกส่งตัวเข้าเรือนจำได้ประมาณ 3 วันเท่านั้น
หลังจากแม่เข้าแจ้งความ ได้มีครูในโรงเรียน 2-3 คนมาพูดคุยที่บ้านเพื่อขอเจรจาคล้ายเหมือนข่มขู่ ขอให้ยุติเรื่องราวทั้งหมดอ้างจะเสื่อมเสียชื่อเสียงโรงเรียน แต่แม่ไม่ยอมยืนยันจะเอาเรื่องถึงที่สุด จากกรณีดังกล่าวแม่เกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรมหลังจากที่ทราบว่าครูคนดังกล่าวได้รับการประกันตัวออกมา ครอบครัวรู้สึกไม่ปลอดภัยกลัวว่าคดีจะไม่คืบหน้า เพราะครูเคยก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้วแต่ก็รอดพ้นมาได้จึงตัดสินใจย้ายลูกสาวออกจากโรงเรียน และย้ายครอบครัวมาอยู่กับญาติจนกว่าเรื่องทั้งหมดจะคลี่คลาย จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือด้วย
ส่วนกรณีที่ขอย้ายลูกสาวออกจากโรงเรียนไปเรียนที่อื่นเพราะห่วงเรื่องความปลอดภัยและสภาพจิตใจของลูกสาว
ทางด้าน นายสุ (นามสมมติ) อดีตนักการภารโรงของโรงเรียนที่เกิดเหตุ ออกมาเปิดเผยว่า ครูที่ก่อเหตุดังกล่าวเป็นคนลึกลับ เหมือนมีความลับตลอดเวลา ตนทำงานเป็นภารโรงมานานกว่า 10 ปีไม่เคยมีปัญหา ในช่วงหลังรู้เรื่องราวหลายเรื่องที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะครูคนดังกล่าว ที่เคยก่อเหตุในลักษณะเดียวกันกับเด็กชั้น ป.5 มาแล้ว มีการแจ้งความต่อตำรวจ สภ.นางรอง แต่ไม่ได้รับโทษใดๆ กระทั่งมาก่อเหตุกับเด็ก ป.6 อีก และเนื่องจากตนรู้เรื่องราวเหล่านี้มากเกินไปจึงถูกเลิกจ้างโดยผู้อำนวยการโรงเรียนอ้างว่าไม่มีงบประมาณจ้าง
ขณะที่ครูผู้ก่อเหตุดังกล่าวล่าสุดได้โพสต์เฟซบุ๊กของตัวเอง ระบุว่า “ขอบคุณท่าน ผอ.มากนะครับที่ช่วยเหลือผมมาโดยตลอด และก็ขอบคุณคณะครูบางส่วนที่แนะนำช่วยเหลือหลายๆ เรื่อง ผมจะไม่ลืมพระคุณนี้เลย ผมจะจดจำคำว่า เรารัก...ตลอดไป”