เคยออกมาบ่นไว้เมื่อเกือบสิบปีที่แล้วว่า “เงินซื้อความรักไม่ได้” ทุกวันนี้ ซ่งฟู่หลี่ หรือ เคลลี่ ซ่ง ก็ยังครองความเป็นสาวสวยรวยทรัพย์ที่โสดสนิทอยู่เหมือนเดิม
ทายาทสาวคนเดียวของมหาเศรษฐีอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม ซ่งชิงกู่ ซีอีโอของวาฮาฮ่า แบรนด์เครื่องดื่มที่ดังที่สุดในจีน ซึ่งเพิ่งเข้ามานั่งเป็นผู้บริหารอาณาจักรมูลค่า 7,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐอย่างเต็มตัว เมื่อปีที่ผ่านมานี่เอง
ในปี 2015 ตระกูลซ่ง ได้รับการจัดอยู่ที่อันดับ 3 ของตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในเอเชีย ด้วยทรัพย์สินมูลค่า 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ล่าสุดบุตรสาวที่เข้ามาเป็นนักธุรกิจเต็มตัวก็ได้เข้ามาอยู่ในลิสต์นักธุรกิจหญิงแถวหน้าของจีนและเอเชีย
ซ่งฟู่หลี่ ได้การยอมรับอย่างมากจากพนักงานในบริษัทของพ่อ เธอไม่เพียงร่ำรวยเงินทองเท่านั้น แต่ยังเป็นสาวนักธุรกิจที่มีวิสัยทัศน์อีกด้วย
ฟู่หลี่ ผ่านการใช้ชีวิตคนเดียวในต่างประเทศตั้งแต่เป็นวัยรุ่น โดยพ่อส่งเธอไปเรียนที่อเมริกาตั้งแต่อายุ 14 ที่ซานมารีโนไฮสกูล ตามด้วยเอกบริหารธุรกิจ ณ มหาวิทยาลัยเพพเพอร์ไดน์ ในมาลีบู
สาวน้อยจบการศึกษาตอนอายุ 22 และเข้ามาช่วยพ่อทำงานที่บริษัท วาฮาฮ่า ในปีถัดมา (ปี 2005) ซึ่งไม่ใช่ฐานะผู้บริหารระดับสูง ทว่า เริ่มต้นด้วยตำแหน่งผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายบริหารในบริษัทที่เซี่ยวชาน เมืองหางโจว ก่อนที่จะได้เลื่อนขั้นมาเป็นรองผู้อำนวยการ ก่อนที่ ฟู่หลี่ จะย้ายไปเป็นผู้จัดการทั่วไปของแบรนด์เสื้อผ้าเด็กของวาฮาฮ่าแทน
ในปี 2007 ซ่งฟู่หลี่ ตั้งบริษัท ฮงเช็ง เบเวอเรจ กรุ๊ป นับเป็นการยกระดับบริษัทของพ่อให้มีรากฐานมั่นคงยิ่งขึ้น เธอได้การยอมรับนับถือจากพนักงานมาก พวกเขาบอกว่าเธอทุ่มเททำงานหนัก เป็นเจ้านายที่มาก่อนและกลับทีหลังพนักงานทุกวัน ฮงเช็ง เบเวอเรจ กรุ๊ป จริงจังมุ่งมั่นทางด้านอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม
ซ่งฟู่หลี่ ใส่ใจทุกรายละเอียด เธอตัดสินใจเปลี่ยนแบรนด์แอมบาสเดอร์ หวังลีฮอม นักร้องชาวไต้หวันที่ครองตำแหน่งมาตั้งแต่ปี 1998 เป็นคนรุ่นใหม่ อย่าง เกร็ก ชู ซึ่งกลายเป็นข่าวหยุดโลกโซเชียลมีเดียของจีนเลยทีเดียว เพราะหวังลีฮอมนั้นเป็นขวัญใจมหาชน ทั้งยังสร้างชื่อให้เครื่องดื่มวาฮาฮ่ามานานแสนนาน
นักบริหารหญิงยังเป็นสาวใจบุญ ว่ากันว่าเธอไม่ได้สืบทอดแต่ความสามารถในการบริหารงานมาจากบิดาเท่านั้น แต่ยังมีความใจบุญสุนทานเหมือนกับพ่ออีกด้วย ในบริษัทเธอมักจะต่อสู้เพื่อสิ่งที่ดีที่สุดให้พนักงาน ขณะที่ไม่ลืมตอบแทนสู่สังคม
ในปี 2007 เธอบริจาคเงิน 990,000 ดอลลาร์ให้มูลนิธิสนับสนุนการศึกษาของมหาวิทยาลัยเจ้อเจียง รวมทั้งก่อตั้งมูลนิธิอาหารฟู่หลี่ขึ้นมาเพื่อคนยากคนจน นอกจากนี้ ในปี 2014 เธอยังบริจาคเงิน 14 ล้านดอลลาร์ ให้มหาวิทยาลัยเซียนเจียวตง และก่อตั้งโรงเรียนด้านวิทยาศาสตร์การอาหาร เพื่อที่จะผลิตบุคลากรคุณภาพเข้าสู่อุตสาหกรรมอาหารของจีน
ที่หลายคนสงสัยคือ ซ่งฟู่หลี่ ยังคงโหยหาความรักดังเช่นเมื่อเกือบสิบปีที่เคยออกมาตัดพ้อหรือไม่? โดยในปี 2013 สาวสวยรวยมากได้ออกมาสร้างข่าวขึ้นหน้าหนึ่งว่า เธอไม่เคยมีแฟนมาก่อนเลยในชีวิต พ่อของเธอถึงกับบอกว่าจะให้รางวัลอย่างงามสำหรับชายหนุ่มที่สามารถพิชิตใจลูกสาวคนเดียวของเขาได้ ซึ่งฟู่หลี่บอกว่า ยิ่งพ่อพูดแบบนั้นก็มีแต่ผู้ชายที่หวังทรัพย์สมบัติของเธอเข้ามาพัวพัน
รายงานข่าวว่า หวังสีซ่ง ลูกชายของมหาเศรษฐี หวังเจียนหลิน เคยผ่านการดูตัว และออกเดตกับซ่งฟู่หลี่อยู่พักหนึ่ง แต่จนบัดนี้เธอก็ยังบอกว่าโสดสนิทค่า
