ในขณะที่บุคลากรทางการแพทย์ทำงานกันอย่างหนัก และเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเหลือคนที่ป่วยจากโรค COVID-19 ท่ามกลางสถานการณ์ของโลกที่มีผู้ติดเชื้อไปแล้วเกือบ 3 ล้านคน ทว่า มีเซเล็บกลุ่มหนึ่งออกมาบ่นโอดโอยมาตรการ “ล็อกดาวน์” ของรัฐบาลตัวเอง
ในมุมมองของชาวบ้านร้านถิ่น เห็นว่าคนดังๆ ต่างมี “ภูมิคุ้มกัน” (ทางการเงิน) แม้ว่าจะติดโรคก็มีโอกาสเข้าถึงการรักษาให้หายขาดได้มากกว่าคนทั่วไป แต่แทนที่พวกเขาจะปฏิบัติตัวให้เป็นแบบอย่าง รณรงค์ให้ความสำคัญเรื่องการ #อยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ กลับออกมาบ่นทนไม่ไหวกับสภาพการถูก “กักตัว” จากที่อยู่สุดหรูราคาหลายสิบล้าน มีสนามหญ้า มีสระว่ายน้ำของพวกเขา
นักร้องเสียงใสขวัญใจตัวแม่ แซม สมิธ ที่ใครๆ ก็หลงรักในน้ำเสียงและการแสดง หลังจาก “กักตัว” อยู่ในแมนชั่นราคา 12 ล้านปอนด์ได้ราวครึ่งเดือนก็เกิดอาการจิตตก ออกมาคร่ำครวญผ่านอินสตาแกรมและทวิตเตอร์ทั้งน้ำตา
โพสต์ของแซมนี้ ต่อเนื่องมาจากการโพสต์อวยพรให้แฟนๆ ปลอดภัยจากเชื้อไวรัส แล้วมีคนเข้ามาคอมเมนต์ว่า “โคตรเบื่อที่ต้องอยู่บ้านเฉยๆ” นักร้องหนุ่มอังกฤษวัย 27 เห็นเข้าก็เกิดจิตตกบ้าง ออกมาถ่ายวิดีโอคร่ำครวญถึงความทรมานของการกักตัวอยู่บ้าน
“สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้ฉันรู้สึกแปลกๆๆๆๆๆ พระเจ้า แปลกมากๆๆๆ ฉันก็กักตัวอยู่บ้านเหมือนทุกวันแหละ แต่มันปวดหัว ครั่นเนื้อครั่นตัวไปหมด ฉันไม่ได้ป่วยหรอก แต่รู้สึกแปลกๆ รู้สึกเป็นช่วงเวลาที่แปลกมากค่ะ ฉันอยากมาส่งความรัก และบอกแค่นี้แหละ หวังว่าทุกคนจะโอเค...
“หวังว่าจิตใจของทุกๆ คนยังดีอยู่ ไม่เริ่มประสาทแตกแบบฉันตอนนี้ ฉันรู้สึกว่าเราต้องดูแลจิตใจกันและกันให้มากๆ ตอนนี้ฉันคิดถึงคุณยาย เป็นห่วงท่านจัง รวมทั้งคนสูงอายุทั้งหลาย อย่าลืมไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบของท่านให้สม่ำเสมอกันด้วยนะ
“แล้วก็... อย่าลืมว่าต้องอดทนและแบ่งปันกัน แบ่งเครื่องใช้ แบ่งอาหาร! สำหรับตัวฉันจิตตกมากค่ะตอนนี้ รู้สึกหงุดหงิดไปหมด แต่ยังร้องเพลงให้ฟังได้นะคะ”
“เอาเป็นว่า ถ้าฉันรู้สึกดีขึ้นในสองสามวันนี้ จะกลับมาเปิดเพลงร้องเพลงให้ฟังก็แล้วกันนะ หวังว่าเราจะได้ร้องเพลงด้วยกันเร็วๆ นี้ค่ะ ดนตรีเป็นสิ่งสวยงามในช่วงเวลาแบบนี้
“รักทุกๆ คนนะ ดูแลตัวเองด้วย ดื่มน้ำเยอะๆ อ่านหนังสือ ฉันไม่อ่านหรอกขี้เกียจ หาอะไรทำกันค่ะ ฉันจะดูทีวี เพราะโคตรเบื่อการอยู่บ้านเฉยๆ มาก”
เซเลบริตี้เชฟ กอร์ดอน แรมเซย์ เป็นคนประเภทที่คุณไม่รักก็ต้องเกลียดเขาแน่ๆ ด้วยพฤติกรรม “ปากเสีย” ของเขาทำให้จำนวนคนชังมีมากกว่าเยอะ ยิ่งในช่วงการระบาดของโคโรนาไวรัส มีข่าวว่าเขาแอบขนครอบครัวเดินทางออกจากบ้านในลอนดอน ไปกักตัวอยู่ที่บ้านพักตากอากาศริมทะเลในคอร์นวอลล์ ทำให้ชาวบ้านแถวนั้นออกมาประท้วงต่อต้านเป็นจำนวนมาก
นอกจาก เชฟดังเชื้อสายสกอตติช จะถูกคนเกลียดเพิ่มชั่วข้ามคืน เพราะเลย์ออฟพนักงานในร้านอาหารไป 500 ชีวิต เพราะต้องปิดให้บริการในช่วงล็อกดาวน์แล้ว เขายังเคยออกมาให้สัมภาษณ์เรื่องการกักตัวอยู่บ้าน (ริมทะเลสุดหรู ราคา 4 ล้าน) ว่า เป็นเหมือนฝันร้าย!!!
“ต้องมากักตัวอยู่บ้านร่วมกับเด็กโหดๆ 5 คนนี่เหมือนฝันร้ายชัดๆ คุณช่วยบอกผมทีว่าเรื่องนี้มันจะจบลงเมื่อไหร่? ทุกๆ วันเป็นภาพซ้ำๆ ผมต้องออกไปซื้อกับข้าว แล้วก็กลับมาทำอาหาร เหนื่อยสายตัวแทบขาด ในช่วง 10 วันมานี้ ผมทำกับข้าวมากกว่าที่เคยทำมาทั้งหมด 10 ปีเสียอีก”
กอร์ดอน ให้สัมภาษษณ์แบบขำๆ กับโรมัน เคมป์จากแคปิตอลเอฟเอ็ม เกี่ยวกับชีวิตการกักตัวอยู่กับบ้าน ที่คนฟังไม่ขำด้วย หากจริงจังกับ “วิธีคิด” ของเขาที่เห็นว่าการต้อง “กักตัว” อยู่บ้านนั้นเหมือนฝันร้าย
เอลเลน ดีเจเนอรีส หนึ่งในพิธีกรรายการทีวีชื่อดังของอเมริกา เจอ “ทัวร์ลง” ไปเรียบร้อย หลังจากออกมาบอกว่า การต้อง “กักตัว” อยู่ในแมนชั่น (มูลค่าหลายล้านดอลลาร์) ของเธอนั้น ไม่ต่างอะไรจากการติดคุก!!
หลังจากที่รายการทอล์กโชว์รายวันชื่อเดียวกับตัวเอง ต้องหยุดการออกอากาศไปเป็นเวลา 3 สัปดาห์ เนื่องจากมาตรการให้ #อยู่บ้าน ของรัฐ เอลเลนก็ปรับตัวด้วยการถ่ายทำมาจากแมนชั่นของตัวเองในแคลิฟอร์เนีย โดยให้ภรรยาดารา อย่าง พอร์เทีย เดอ รอสซี่ เป็นตากล้อง
“สิ่งหนึ่งที่ฉันได้เรียนรู้จากการกักตัวก็คือ เข้าใจแล้วว่าคนที่ติดคุกเขารู้สึกกันอย่างไร” เอลเลน กล่าวออกอากาศจากเก้าอี้สวยในแมนชั่นหรู ที่ฉากหลังเป็นกระจกบานใหญ่มองเห็นสนามหญ้าสีเขียวและวิวภูเขา
“ทำไมรู้มั้ย ก็ฉันต้องใส่เสื้อตัวเดิมซ้ำกันตั้ง 10 วัน แล้วทุกคนที่นี่ก็เป็นเกย์หมดเลย” พูดจบเธอก็ขำเองเออเองกับมุกตลกของตัวเองอยู่คนเดียว
แม้ว่าในรายการจะตามด้วยการพูดให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์อีกชุดใหญ่ แต่ผู้คนกลับไม่ปลื้มด้วยเลย ไม่ว่าจะเป็นแอ็กทิวิสต์ที่รณรงค์ด้านความเท่าเทียมด้านสุขภาพ หรือเครือข่ายสิทธิมนุษยชนคนคุก ที่ถึงกับชวนเธอมาลองสัมผัสการกักตัวในคุกจริงๆ ดูสัก 24 ชั่วโมง
“แน่ละ เรามีที่อาบน้ำและเสื้อผ้าใหม่ๆ ให้เปลี่ยน แต่คุณอาจจะต้องอยู่กับเพื่อนร่วมห้องที่ป่วย และใกล้ตาย มาลองดูมั้ยว่าคุกจริงๆ เป็นยังไง?”
นี่ละน้าาาาาา เป็นคนดังจะพูดจะจาอะไรก็ไตร่ตรองให้ดีสัก 10 ตลบก่อนเถอะ