ชัดเจนเหลือเกินว่า โควิด-19 เป็นวิกฤตระดับโลกอย่างแท้จริง และบางทีมันอาจจะร้ายแรงมากกว่าสงครามด้วยซ้ำ เพราะผู้ได้รับผลกระทบไม่ได้เป็นแค่ประเทศใดประเทศหนึ่ง หรือกลุ่มคนใดกลุ่มคนหนึ่ง ไม่มีแบ่งว่ารวยหรือจน ถ้าคุณพลาดคุณมีสิทธิ์ติดเชื้อไวรัสร้ายนี้ได้เช่นกัน
ในมุมของมหาเศรษฐีชื่อดังทั่วโลก แน่นอนว่าพวกเขาอาจจะช่วยเหลือบริจาคเงินนับล้านเพื่อต่อสู้กับไวรัสที่กำลังระบาด และพวกเขาก็อาจจะรู้จักกักตัวเองไม่ออกไปเสี่ยงให้ต้องติดโควิด-19 แต่สิ่งที่พวกเขาไม่สามารถป้องกันได้เลย นั่นคือ ตัวเลขในบัญชี และความมั่งคั่ง ที่พิษจากโควิด-19 นั้นส่งผลกระทบให้มหาเศรษฐีทุกคนทั่วโลกล้วนมีตัวเลขติดลบกันถ้วนทั่วในรอบ 2 เดือนที่ผ่านมา แน่นอนรายชื่อมหาเศรษฐีทั่วโลกจาก ฟอร์บส เรายังคงเห็นหน้าเดิมๆ ไม่ว่าจะเป็น เจฟฟ์ เบซอส, บิล เกตส์, วอร์เรน บัฟเฟตต์, เบอร์นาร์ด อาร์โนลด์ หรือ มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก แต่ความมั่งคั่งของพวกเขานั้นลดฮวบลงไปเฉลี่ยแล้วไม่ต่ำกว่า 10% ที่หายไปแทบทั้งสิ้น ว่าแต่มหาเศรษฐีคนไหนกันที่วอดวายจากพิษไวรัสร้ายนี้มากที่สุด
เบอร์นาร์ด อาร์โนลด์ เจ้าพ่อกลุ่มธุรกิจ LVMH
มหาเศรษฐีจากแดนน้ำหอม แทบจะต้องกุมขมับ เพราะธุรกิจในเครือนอกจากจะเป็นสินค้าระดับไฮเอนด์ที่จำเป็นต้องปิดร้านสาขา และยังไม่มีใครต้องการซื้อของหรูหราฟุ่มเฟือยในตอนนี้ หนำซ้ำแหล่งรายได้สำคัญอย่างประเทศจีนก็ต้องหยุดชะงัก นั่นทำให้ เบอร์นาร์ด อาร์โนลด์ ต้องยอมรับสภาพที่ตัวแดงของตัวเองที่สูงถึง 30% เลยทีเดียว
มูเกช อัมบานี มหาเศรษฐีอันดับ 1 ของอินเดีย
มูเกช ไล่ตามอาร์โนลด์มาติดๆ มหาเศรษฐีอันดับ 1 ของอินเดีย ต้องช็อกสุดในวันที่ 31 มีนาคม เพราะเพียงวันเดียวเขาต้องสูญเงินในตลาดหุ้นไปถึง 1,500 ล้านบาท และภายในช่วง 2 เดือนนี้มูเกชสูญไปแล้วกว่า 9 พันล้านบาท หรือคิดเป็น 28%
วอร์เรน บัฟเฟตต์ พ่อมดนักลงทุน
สี่เท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง นี่คือเรื่องจริง เพราะมหาเศรษฐีที่ได้ฉายาว่าพ่อมดการลงทุน หรือเป็นกูรูด้านเศรษฐกิจตัวพ่อ ยังต้องกุมขมับ เพราะโควิด-19 ทำให้บัฟเฟตต์สูญเงินไปราว 600 ล้าน หรือคิดเป็น 19% จากมูลค่าสินทรัพย์เดิมของเขา
คาร์ลอส เอสลิม เจ้าพ่อธุรกิจสื่อสารแห่งเม็กซิโก
คาร์ลอส เอสลิม แม้จะได้รับการยกย่องจากชาวเม็กซิกันว่าเป็นมหาเศรษฐีผู้ใจบุญ เพราะเขามักบริจาคและ ทำการกุศลผ่านหน่วยงานธุรกิจของตัวเองอยู่เป็นประจำ แต่ดูเหมือนแต้มบุญที่ทำมาจะไม่อาจต้านทานโควิด-19 เอาไว้ได้ ทำให้มหาเศรษฐีแดนจังโก้ต้องดูตัวเลขความมั่งคั่งของตัวเองหดหายไปถึง 17%
อามันซิโอ ออร์เตกา ผู้ก่อตั้ง ZARA
ขนาดแฟชั่นสุดหรูอย่างกลุ่ม LVMH ยังไม่รอด แล้วธุรกิจฟาสต์แฟชั่นอย่าง ZARA ก็ย่อมต้องลงเอยในสภาพเช่นเดียวกัน สาขาที่ต้องถูกปิดลงนับร้อยสาขา การซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นที่หยุดชะงัก ทำให้นักธุรกิจวัย 64 จากสเปนผู้นี้ปาดเหงื่อ เพราะสูญมูลค่าสินทรัพย์ไปรวม 17% ในระยะเวลา 2 เดือนที่ผ่านมา