การแพร่ระบาดของโรคปอดอักเสบจากไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ ที่แพร่ระบาดจากเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์ ในประเทศจีน ประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอันดับ2 ของโลกเมื่อปลายเดือนมกราคม ที่ผ่านมา นอกจากจะส่งผลให้มีจำนวนผู้เสียชีวิตในจีนสูงถึง 362 คน และมีผู้ติดเชื้อมากถึง 17,300 ราย (ข้อมูลวันที่ 3 ก.พ.2563) แล้วยังลามภาวะเศรษฐกิจที่ต่างหยุดชะงักไปชั่วคราว เพราะประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ได้ทำการปิดประเทศชั่วคราว จึงส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจในวงกว้าง ไม่เว้นแม้แต่ประเทศไทยที่มีการตรวจพบผู้ติดเชื้อหลายราย จนทำให้นักท่องเที่ยวหรือนักลงทุนได้ชะลอการเดินทางมาประเทศไทย
ท่ามกลางวิกฤิตพิษร้ายของไวรัสโคโรน่า ที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้ แน่นอนว่าผู้ประกอบการหลายรายที่ต้องดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการส่งออกสินค้า หรือบริษัทที่ทำธุรกิจต้องได้รับผลกระทบนี้เเป็นลูกโซ่ซี่งไม่มากก็น้อย วันนี้ Celeb Online ขออาสาไปฟังวิธีการรับมือกับธุรกิจที่ต้องเจอพิษร้ายไวรัสโคโรน่า ของบรรดาเซเลบฯนักธุรกิจรุ่นใหม่ว่าเขามีวิธีประคองธุรกิจให้ดำเนินต่อไปอย่างไร และปรับกลยุทธ์ไม้เด็ดวิธีไหนออกมาสู้กับความร้ายกาจของไวรัสร้ายชนิดนี้ เพื่อให้ธุรกิจที่ลงทุนปลุกปั้นมากับมือดำเนินต่อไปอย่างไม่มีสะดุด
เริ่มที่ เซเลบฯสาวเก่งใจบุญแห่งแบรนด์ผลไม้แปรรูป “คันนา”(Kunna) โบว์-ณชา จึงกานต์กุล ที่ทำธุรกิจส่งออกผลไม้แปรรูปอบแห้ง ไปขายยังประเทศจีน กล่าวว่า ธุรกิจส่งออกของเธอเองก็ได้รับผลกระทบจากการส่งออกสินค้าไปขายที่ประเทศจีนเช่นเดียวกันกับผู้ประกอบการรายอื่น แต่เพื่อให้ธุรกิจมีการดำเนินไปอย่างต้อเนื่อง เธอจึงได้ปรับเปลี่ยนยุทธวิธีในการทำงานใหม่ ที่ถึงแม้จะต้องใช้ต้นทุนสูงขึ้นแต่ก็คุ้มค่ากับการลงทุนเพื่อให้ลูกค้าได้รับความพึงพอใจสูงสุด
“แต่เดิมบริษัทของเราส่งออกสินค้าไปที่กวางโจวประเทศจีน ด้วยการขนส่งทางเรือ แต่ด้วยตอนนี้ประเทศจีนกำลังประสบกับปัญหาเชื้อไวรัสโคโรน่า จึงทำให้มีการขนส่งทางเรือมีความล่าช้าถึง 2 สัปดาห์ ดังนั้นเราจึงเปลี่ยนวิธีการส่งสินค้าใหม่โดยส่งสินค้าผ่านทางเครื่องบิน ซึ่งต้องใช้ต้นทุนเพิ่มขึ้นจากเดิม แต่เมื่อเราประเมินแล้วว่าความต้องการสินค้าของผู้บริโภคในประเทศจีนมีจำนวนมากพอกับค่าใช้จ่ายในการขนส่งวิธีนี้ เราจึงเลือกใช้เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับสินค้าอย่างรวดเร็วและพึงพอใจ ส่วนในประเทศไทยสำหรับลูกค้าที่กังวลเรื่องการติดเชื้อไวรัสโคโรน่า ทำให้ไม่อยากเดินทางไปในที่แออัด เราก็เปลี่ยนวิธีขายสินค้าใหม่ด้วยวิธีเน้นเดลิเวอรี่ สั่งสินค้าผ่านออนไลน์แล้วมีบริการจัดส่งถึงหน้าบ้าน” ผู้บริหารคนเก่ง เล่าถึงวิธีการรับมือในธุรกิจอย่างชาญฉลาด
นอกจากนี้ ผู้บริหารหญิงเก่งในฐานะคนไทยคนหนึ่ง และในฐานะผู้ประกอบการส่งออกยังได้ฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนว่า อยากให้ทุกภาคส่วนโดยเฉพาะรัฐบาลมีมาตรการที่ชัดเจน และเด็ดขาด และในการจัดการเชื้อไวรัสโคโรน่า อย่างรวดเร็วเพื่อเรียกความเชื่อมั่นทั้งจากนักลงทุน และประชาชนชาวไทยกลับคืนมาให้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข
“ตอนนี้โบว์อยากเรียกร้องให้รัฐบาลมีมาตรการที่เด็ดขาด ชัดเจนตรงไปตรงมาในการจัดการปัญหาเชื้อไวรัสตัวนี้ เพราะในส่วนของประชาชนทุกคนล้วนต่างมีวิธีในการดูแลตัวเองในเบื้องต้นอยู่แล้ว แต่ในมหภาคภาพรวมทั้งประเทศ รัฐบาลควรมีความชัดเจน และมีความรวดเร็วมากกว่านี้ในการจัดการเพื่อเรียกความเชื่อมั่นจากนั่งลงทุนทั่วโลก เพื่อป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจชะงักหรือชะลอตัว” โบว์-ณชา เผยความในใจในฐานะผู้ประกอบการส่งออก
ขณะที่ จ๋า-อลิสา พันธุศักดิ์ เจ้าแม่ ”ทิฟฟานี โชว์ พัทยา” หนึ่งในผู้นำด้านเอ็นเตอร์เทนเมนต์ของเมืองไทย ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ มาเที่ยวชมเป็นจำนวนมากในแต่ละปี ยอมรับว่า หลังจากที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า ถึงแม้ว่ารอบโชว์ในทิฟฟานีทั้ง 3 รอบในแต่ละวันจะไม่ได้ถูกลดลงแต่อย่างใด หากแต่จำนวนนักท่องเที่ยวในแต่ละรอบก็ดูลดน้อยไปเช่นกัน
“ส่วนใหญ่แล้วกิจการของเรายังไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากเชื้อไวรัสโคโรน่า เท่าไรนัก เพราะยังคงมีนักท่องเทียวที่เป็นทั้งชาวต่างชาติ หรือชาวจีน ยังคงมาชมการแสดงของเราอยู่ แต่บางรอบก็จะมีนักท่องเที่ยวลดน้อยลงไปบ้าง แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นร้ายแรง เพราะรอบการแสดงของเราก็ยังคงมี3 รอบเหมือนเดิม”
เจ้าแม่ทิฟฟานี โชว์ เล่าถึงวิธีการป้องกันดูแล เพื่อไม่ให้เกิดการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า ภายในโรงละครของเธอว่า ก่อนและหลังทำการแสดง เธอจะให้เจ้าหน้าที่ทำความสะอาดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อในจุดเสี่ยงก่อนเสมอ อีกทั้งวางแอลกอฮอล์ล้างมือไว้ทุกจุด เพื่อความปลอดภัยของทั้งลูกค้าและเจ้าหน้าที่ของเราทุกคน
“เรามีมาตรการในการดูแลรักษาความสะอาดพื้นที่ภายในโรงละครและบริเวณรอบๆอยู่เสมอทั้งก่อนและหลังการแสดง โดยเฉพาะบริเวณจุดเสี่ยงอย่างประตูห้องน้ำ ฝากดชักโครก เราจะให้แม่บ้านทำความสะอาดทุก1ชั่วโมง ส่วนลิฟต์โดยสารนั้นเราจะไม่ให้ลูกค้ากดเราจะให้เจ้าหน้าที่เป็นผู้อำนวยความสะดวกในการกดลิฟต์โดยสารให้ลูกค้าทุกครั้ง” จ๋า-อลิสา เล่าถึงวิธีการรับมือและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส
เอ๋-ภูวดี คุนผลิน เจ้าแม่เรือสำราญเจ้าพระยาครุยส์ ที่ให้บริการกรุ๊ปนักท่องเที่ยวในการล่องเรือชมความงดงามของแม่น้ำเจ้าพระยาในยามค่ำคืน ยอมรับว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของไรวัสโคโรน่า อยู่ในขณะนี้ทุกกิจการย่อมได้รับผลกระทบแทบทั้งหมด โดยเฉพาะกิจการเกี่ยวกับทัวร์ แต่ทุกคนต้องมีสติและปรับกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจให้ไวที่สุดเพื่อประคองตัวเองให้ผ่านช่วงวิกฤตินี้ไปให้ได้
“ต้ังแต่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ยอมรับว่ากิจการเรือสำราญของเราได้รับผลกระทบค่อนข้างหนัก ไม่ใช่เฉพาะแค่กรุ๊ปทัวร์ของประเทศจีนที่ยกเลิกการจองไปโดยปริยายเพราะประเทศจีนปิดประเทศเท่าน้ัน กรุ๊ปทัวร์ประเทศอื่นก็ยกเลิกด้วยเช่นกันเพราะเกรงกลัวการแพร่ระบาดของเชื้อโรค หรือบางรายก็ขอเลื่อนการจองไปเป็นช่วงเดือนเมษายนเลย ซึ่งเหตุการณ์นี้ถือเป็นเรื่องสุดวิสัยที่เกิดขึ้นเราเองก็ไม่สามารถยึดเงินประกันจากลูกค้าได้ เราก็ต้องคืนเงินมัดจำให้ลูกค้าทัวร์จีนที่ขอยกเลิกการจองด้วย”
แต่ถึงแม้จะต้องพบกับวิกฤติของการแพร่ระบาดไวรัสโคโรน่าอย่างเต็มเปา หากแต่เจ้าแม่เรือสำราญเองก็มีวิธีการตั้งรับรวมถึงมาตรการการดูแลรักษาความสะอาด รวมไปถึงความปลอดภัยทุกขั้นตอนภายในเรือสำราญ เพื่อให้พนักงานทุกคนบนเรือ รวมไปถึงลูกค้ามีความเชื่อมั่นถึงความปลอดภัยจากการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสร้ายอย่างแน่นอน
“สิ่งแรกที่ทำต้องรีบดำเนินการอย่างรวดเร็วคือการรักษาสุขลักษณะบนเรือให้มีความสะอาด ด้วยการทำความสะอาดเรืออย่างขนานใหญ่ เพื่อความปลอดภัยของพนักงาน และลูกค้าทุกคน และมีเจลล้างมือวางไว้ทุกจุดบนเรือ จากนั้นก็เรื่องของอาหารเราต้องเน้นย้ำให้แม่ครัวทุกคนใส่หมวกขณะปรุงอาหาร อาหารทุกอย่างต้องสดใหม่และร้อนอยู่เสมอ ที่สำคัญเราต้องให้พนักงานคอยให้ความรู้กับลูกค้าเกี่ยวกับอุปกรณ์การตักอาหาร เพราะอาหารบางอย่างลูกค้ามักใช้มือหยิบจับ เป็นต้น”
นอกจากเน้นสุขลักษณะที่สะอาดและปลอดภัยภายในเรือแล้ว อีกสิ่งที่ผู้บริหารคนเก่งต้องปรับกลยุทธ์ในการบริหารใหม่เพื่อธุรกิจดำเนินต่อไปอย่างไม่มีสะดุดว่า ต้องเน้นการทำการตลาดด้วยวิธีโปรโมชั่นต่างๆ เพราะทุกธุรกิจตอนนี้ต่างย่ำแย่พอๆกันแต่เมื่อเรามีปัญหาแล้วต้องรีบใช้สติปัญญาแก้วิกฤตินี้ให้ผ่านพ้นไปโดยเร็วที่สุดเพื่อปากท้องของพนักงานอีกหลายร้อยชีวิตที่เราต้องดูแล
“ตอนนี้เรากำลังทำโปรโมชั่นอยู่เพื่อดึงดูดให้กลุ่มลูกค้าคนไทย ได้หันมาใช้บริการเรือสำราญของเราเพิ่มขึ้นอัน เป็นการช่วยประคองให้สถานการณ์ต่างๆเริ่มคลี่คลาย เพราะตอนนี้เราไม่สามารถทำอะไรไปได้มากกว่านี้ แต่ก็ยังดีกว่าการที่เรารอให้สถานการณ์เลวร้ายนี้ผ่านไป ซึ่งก็ไม่ทราบว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหน สุดท้ายเราเป็นผู้ประกอบการก็ต้องหาวิธีช่วยธุรกิจของเราให้ดำเนินต่อไปให้ได้” เอ๋-ภูวดี เล่าด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
ปิดท้ายที่ บูบี-วารีนิธิ กันท์ไพบูลย์ ดีไซเนอร์และผู้ก่อตั้งแบรนด์เสื้อผ้า ‘VARITHORN BOUTIQUE’ ที่นอกจากจะมีชอปขายที่เมืองไทยแล้ว ยังมีการส่งออกไปจำหน่ายอีกหลายประเทศทั้งในเอเชีย และยุโรป โดยเฉพาะลูกค้าที่ประเทศจีน นับเป็นลูกค้ารายใหญ่ของแบรนด์เธอเลยก็ว่าได้ เล่าให้ฟังว่า นับตั้งแต่ประเทศจีนประสบกับปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า ไม่ได้มีเพียงประเทศไทยเท่านั้นที่นักท่องเที่ยวจีนน้อยลงเศรษฐกิจของประเทศเขาก็แย่ตามไปด้วย เสื้อผ้าที่มีการส่งไปถึงที่ประเทศจีนแล้ว ก็ยังติดค้างอยู่ที่ปลายทางเพราะลูกค้าไม่สามารถเดินทางมารับสินค้าไปจำหน่ายให้ลูกค้ารายย่อยต่อได้เนื่องจากมีการปิดประเทศ
“พอเกิดเหตุการณ์นี้ธุรกิจส่วออกเสื้อผ้าของบีได้รับผลกระทบเต็มๆเลยค่ะ เพราะถึงแม้ว่าเราจะสามารถส่งสินค้าไปให้ลูกค้าที่ประเทศจีนได้แต่ลูกค้าก็ไม่สามารถเดินทางมารับสินค้าได้ จึงทำให้มีการชะลอการสั่งซื้อสินค้าออกไปก่อน จนกว่าจะรอให้สถานการณ์ต่างๆคลี่คลาย”
เมื่อส่งสินค้าไปที่ประเทศจีนแล้วลูกค้าไม่สามารถเดินทางมารับสินค้าได้เซเลบฯสาวคนเก่งจึงใช้วิธีส่งเสื้อผ้าให้กับมือลูกค้าที่เดินทางมาเที่ยวประเทศไทยแทน
“ประเทศไทยไม่ได้ปิดประเทศ ดังนั้นลูกค้าของเราที่เป็นชาวจีนเขาก็เดินทางมาเที่ยวบ้านเราแทน ที่สำคัญลูกค้าชาจีนแทบทุกคนเป็นเหมือนเพื่อนกับบีหมด ดังนั้นเมื่อเรารู้ว่าเขามาเที่ยวประเทศไทย เราก็จะนัดเขาเพื่อให้แมสเซนเจอร์นำเสื้อผ้าที่สั่ง และหน้ากากอนามัยไปฝากให้เขาเป็นของที่ระลึก ซึ่งก็เป็นวิธีการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในช่วงนี้ไปก่อนค่ะ” เซเลบฯสาวหน้าใสอธิบายด้วยน้ำเสียงสดใส