เห็นเป็นสาวหวานสไตล์คุณหนูแบบนี้ แต่ใครจะรู้ว่า “เบอร์ดี้-ปาวา นาคาศัย” จะเป็นสายลุยกับเขาเหมือนกัน เพราะล่าสุด เจ้าตัวได้ชักชวนเดอะแก๊ง ไปตะลุยเที่ยวดินแดนทวีปอเมริกาใต้เป็นแรมเดือน แต่ละที่ที่ไปก็สุดแสนแอดเวนเจอร์ ทั้งทริปดำน้ำที่กาลาปากอส เที่ยวลาปาซ ทะเลเกลือ สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของโบลิเวีย หรือแม้แต่ขึ้นเขาไปชมความงดงามของภูเขาสายรุ้งที่เปรู และชื่นชมความงดงามของ 1ใน7 สิ่งมหัศจรรย์โลกยุคใหม่ ซึ่งภาพจำแห่งความงดงามเหล่านั้น ยังคงตราตรึงอยู่ในความทรงจำของสาวหวานอยู่เสมอ และพร้อมจะถ่ายทอดให้ฟังได้ทุกครา เมื่อมีคนสะกิดเตือน
เป็นคนชอบเที่ยวสไตล์ไหน : สมัยก่อนก็จะชอบไปเที่ยวแถบยุโรป เพื่อไปชอปปิ้งตามสถานที่ต่างๆ แต่เมื่อเริ่มโตขึ้น เบอร์ดี้กลับรู้สึกว่าอยากอยู่กับธรรมชาติวิวสวยๆ ดังนั้น ช่วงหลังจึงเน้นเที่ยวแต่สถานที่ทางธรรมชาติที่มีวิวสวยๆ ให้ได้ถ่ายรูปเก็บไว้ รวมถึงการได้ไปเที่ยวในสถานที่แอดเวนเจอร์ หรือสถานที่ท่องเที่ยวแปลกใหม่ อย่างเช่นครั้งนี้ ที่เราเลือกไปเที่ยวที่โบลิเวียและเปรู เพราะที่ผ่านมาเราไม่เคยไปเที่ยวประเทศแถบทวีปอเมริกาใต้เลย ซึ่งครั้งนี้เราไปเที่ยวมาถึง 3 แห่งด้วยกันคือ หมู่เกาะกาลาปากอส โบลิเวีย และเปรู
ดำน้ำชมโลกใต้มหาสมุทรหมู่เกาะกาลาปากอส : ครั้งนี้ความจริงแล้วเบอร์ดี้และเพื่อนๆ ตกลงว่าจะไปดำน้ำที่หมู่เกาะกาลาปากอส เป็นหมู่เกาะที่ตั้งอยู่กลางมหาสมุทรแปซิฟิก เป็นส่วนหนึ่งของประเทศเอกวาดอร์ วันที่เราไปเป็นช่วงไฮซีซันส์ของการดำน้ำที่หมู่เกาะแห่งนี้ โดยเราไปกันทั้งหมด10 วัน ซึ่งในมหาสมุทรที่เราดำน้ำลงไปชมความงดงามของใต้ท้องน้ำนั้น เบอร์ดี้ได้พบสัตว์น้ำที่เราไม่เคยเจอมากมาย ไม่ว่าจะเป็นฉลามวาฬที่กำลังตั้งท้องตัวใหญ่กว่าฉลามวาฬทั่วไป พวกมันมากันเป็นฝูงเลย เพราะกาลาปากอสจะเป็นที่คลอดลูกของฉลามวาฬ ไม่ว่ามันจะอยู่หมู่เกาะไหนก็จะมาคลอดลูกที่นี่ แถมเรายังได้เจออีกัวน่าทะเล ซึ่งเป็นสัตว์เลื้อยคลานจำพวกเดียวกับกิ้งก่า ซึ่งเป็นสัตว์ทะเลที่หายากมาก และสามารถพบได้แค่ไม่กี่ที่ในทะเลในโลกนี้
เที่ยวต่อโบลิเวีย : พอดำน้ำจากกาลาปากอสเสร็จ วันถัดมาพวกเราก็เดินทางมาเที่ยวต่อที่เปรู อีก 10 วัน ตลอดระยะเวลา10 วันที่อยู่ที่นั่นพวกเราสนุกสนานกันมาก เราไปเที่ยวกันที่ลาปาซ เพราะเมืองนี้มีภูมิศาสตร์ที่หลากหลาย ทุกซอกมุมของเมืองนี้เต็มไปด้วยอารยธรรม วัฒนธรรม ที่ชวนให้หลงใหล รวมถึงเราได้ไปเที่ยวทะเลเกลืออูยูนิ ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งเคยเป็นทะเลสาบในยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่ถูกทิ้งร้างให้แห้งระเหย ซึ่งในฤดูฝนสถานที่แห่งนี้จะสะท้อนแสงกระทบกับดวงอาทิตย์ จะมีความงดงามมาก แต่ถึงแม้ช่วงที่พวกเราไปจะไม่ใช่ฤดูฝน แต่ไกด์ก็เก่งมากสามารถพาเราไปชมทะเลเกลือในจุดที่น้ำยังพอขังอยู่ จึงทำให้พวกเราทุกคนได้เห็นทะเลเกลือที่สะท้อนกับดวงอาทิตย์ได้อย่างสวยงาม
เยือน 1 ใน7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ : อีกหนึ่งสถานที่ที่เบอร์ดี้และเพื่อนๆ ได้ไปชมความงดงามในทริปนี้คือที่ มาชู ปิกชู ซึ่งเป็นเมืองโบราณที่ตั้งอยู่บนยอดเขาสูงตามเทือกเขาแอนดิส เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ แถมขณะที่ท่องเที่ยวเรายังเห็นตัวอัลปากาและลามะมาเดินเล่นรอต้อนรับพวกเราอีกด้วย นอกจากนี้ ยังไปภูเขาสายรุ้ง อันเป็นสถานที่เที่ยวที่หากไปเปรูแล้วต้องแวะไปให้ได้ เพราะภูเขาสายรุ้งนั้นเกิดขึ้นตามธรรมชาติ จากแร่ธาตุและทรายแดงที่สะสม ทำให้เกิดเป็นภูเขาที่มีหลากสีสันไล่เรียงเฉดกันไป เหมือนสายรุ้งนั่นเอง แต่การเดินทางไปค่อนข้างลำบากสักหน่อย เพราะภูเขาสายรุ้งตั้งอยู่ที่ความสูงกว่า 5,000 เมตรจากน้ำทะเล อากาศจึงบางเบา อาจทำให้เหนื่อยง่ายและหายใจลำบาก ซึ่งทริปนั้นพอดีว่าเราเพิ่งไปดำน้ำมา จึงทำให้ร่างกายเราเหนื่อยง่ายและหายใจไม่ทัน แต่พอได้เห็นความงามของภูเขาสายรุ้งเท่านั้น ความเหนื่อยก็หายไปเป็นปลิดทิ้ง
ตลอดทริปประทับใจที่ไหน : ตลอดระยะเวลา30 วันของการท่องเที่ยวในทวีปอเมริกาใต้ เราก็ประทับใจทุกที่ แต่ที่ชอบและประทับใจที่สุดคือ ทริปดำน้ำที่กาลาปากอส เพราะวินาทีที่เราลงไปใต้มหาสมุทร เหมือนเรากำลังดำดิ่งอยู่ในจูลาสสิกพาร์ค ใต้ท้องน้ำเต็มไปด้วยโขดหินสวยงาม ฝูงปลาน้อยใหญ่ต่างแหวกว่ายมาให้เราชื่นชม มันเป็นสิ่งที่ประทับใจมาก สมดังที่เราคาดหวังไว้ทุกประการ และจะหาโอกาสกลับไปเที่ยวใหม่อีกครั้งให้ได้
ภาพจาก ig birdieparva