ในยุคที่ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ไม่เว้นกระทั่งโลกของแฟชั่น ที่หลายปีที่ผ่านมาเราเห็นการเปลี่ยนแปลงมากมาย ทั้งในแง่รูปแบบหรือตัวดีไซเนอร์ ที่มีการหมุนเวียนสับเปลี่ยน ผู้กุมบังเหียนแบรนด์ชื่อดังมากมายนั้น ก็เพื่อเฟ้นหาว่าใครจะสามารถสร้างคอลเลกชันได้ตรงใจลูกค้า ที่นับวันยิ่งหลากหลายความต้องการไม่ซ้ำกันมากขึ้น ในขณะที่ แบรนด์ระดับท็อปกำลังอยู่กับการสับเปลี่ยนแม่ทัพเป็นว่าเล่น ก็มีแบรนด์เล็กๆ หลายแบรนด์ ที่ทำได้ดีและโดดเด่นจนกลายเป็นที่ยอมรับ และจับตาจากกูรูแฟชั่นทั่วโลกว่า เหล่าดีไซเนอร์ดาวรุ่งเหล่านี้ แม้แบรนด์ของตัวเองจะเพิ่งเกิดขึ้นได้ไม่กี่ปี แต่ผลงานของพวกเขากลับโดดเด้ง ปังจนเตะตาเสียเหลือเกิน
“ริชาร์ด ควิน” ดีไซเนอร์เลือดอังกฤษ ที่ควีนเอลิซาเบธ และแอนนา วินทัวร์ ยังต้องมานั่งฟรอนต์โรว์
เมื่อนักข่าวยื่นคำถามว่า “คุณอยากไปทำงานเป็นดีไซเนอร์ให้กับแบรนด์หรูชื่อดังมั้ย?” แต่คำตอบที่กลับมาคือ “ไม่มีทางเสียหรอก ผมขอดูแลแบรนด์ของตัวเองดีกว่า” นี่คือคำตอบของ “ริชาร์ด ควิน” ดีไซเนอร์วัย 28 ปีชาวอังกฤษ อีกหนึ่งผลผลิตจากสถาบันชื่อก้อง เซนต์ มาร์ติน
เพียงไม่กี่ปีหลังจากปลุกปั้นแบรนด์ของตัวเอง ริชาร์ด ควิน ก็สร้างลายเซ็นของตัวเองได้อย่างรวดเร็ว นั่นคือลายพิมพ์ดอกไม้สไตล์ย้อนยุค ชุดลายพิมพ์ดอกไม้ของเขากลายเป็นที่นิยมอย่างรวดเร็ว ไม่เพียงเฉพาะห้าง หรือเว็บไซต์แฟชั่นในอังกฤษ ที่สร้างปรากฏการณ์ขายหมดสต็อกอยู่หลายคอลเลกชัน ไม่เว้นแม้กระทั่ง เซเลบดัง อย่าง อามาล คลูนีย์ ภรรยาคนสวยของ จอร์จ คลูนีย์
ควินบอกว่าเขาตกหลุมรักลายพิมพ์ดอกไม้มาตั้งแต่อายุ 17-18 ปี และก็พยายามพัฒนาให้ลายพิมพ์ดอกไม้เหล่านั้น เป็นลายเซ็นของตัวเองให้ชัดเจน ไม่ซ้ำลายดอกไม้แบบเดิมๆ ฝีมือของควินกลายเป็นที่ยอมรับในหมู่นักจัดซื้อสินค้าของห้างดังๆ ในลอนดอน จนเขาได้รับการเสนอชื่อให้รับรางวัลจากสมาคมแฟชั่นอังกฤษ นั่นคือเหตุผลว่าทำไมในลอนดอน แฟชั่น วีก ขณะที่ แฟชั่นบล็อกเกอร์ และพวกจัดซื้อหลายคนมุ่งหน้าไปมิลาน เพื่อรอ มิลาน แฟชั่น วีก แต่ แอนนา วินทัวร์ กับ ควีน เอลิซาเบธ กลับเลือกที่จะมานั่งฟรอนต์โรว์วันสุดท้ายเพื่อดูโชว์ของ ริชาร์ด ควิน นั่นคือเหตุผลว่าทำไม ดีไซเนอร์อังกฤษคนนี้จึงถูกวางให้เป็นหนึ่งในดีไซเนอร์ที่น่าจับตามองที่สุดของปี 2019
“แม็กกี มาริลิน” สาวนิวซีแลนด์ผู้เขย่าโลกแฟชั่น
จากเกาะอังกฤษเราบินข้ามซีกโลกมาที่ดินแดนดาวน์อันเดอร์ นิวซีแลนด์ เพื่อรู้จักกับดีไซเนอร์สาว “แม็กกี มาริลิน” เจ้าของแบรนด์ “แม็กกี ฮิววิต”
ภายในระยะเวลาเพียงแค่ปีเดียวหลังจากแม็กกีเรียนจบ เธอก็มุ่งมั่นปั้นแบรนด์ แม็กกี ฮิววิต ของตัวเองทันที และมันก็ได้รับการตอบรับที่ดีอย่างน่าเหลือเชื่อ ไม่ใช่เพียงแค่ยอดขายพุ่งกระฉูดในนิวซีแลนด์ แต่แฟชั่นของแม็กกียังไปเตะตาเว็บไซต์จำหน่ายเครื่องแต่งกายชื่อดังที่สุดของโลก อย่าง เน็ต อะ ปอร์เต (Net-a-Porter) ถึงแม้แม็กกีจะบอกว่ามันเป็นโชคดีของเธอมากกว่า ที่ได้รับการแนะนำให้รู้จักกับเว็บไซต์ชื่อดัง แต่ยอดขายและความนิยมของ แม็กกี ฮิววิต คือเครื่องรับประกันชั้นดีว่า มันไม่ใช่โชคเลยที่ทำให้สาวจากนิวซีแลนด์ กลายเป็นที่ยอมรับระดับโลกอย่างรวดเร็ว เพียงแค่ปีเดียวเท่านั้นนับจากเริ่มต้น เท่านั้นยังไม่พอ แม็กกียังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลดีไซเนอร์ยอดเยี่ยมของ LVMH อีกด้วย
“สโนว์ เกา” ดีไซเนอร์ชาวจีน ที่ “ริฮานนา” ยังยกนิ้วให้
ในอดีตหากเราถามว่า ในนิวยอร์กมีอะไรที่เป็นของคนจีนที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คำตอบที่ได้คงไปในทิศทางเดียว นั่นก็คือร้านอาหารจีนในแมนฮัตตัน แต่ถ้าเป็นวันนี้ คำตอบคงต้องเปลี่ยนไป เมื่อนิวยอร์กได้รู้จักกับ “สโนว์ เกา” เจ้าของแบรนด์ Snow Xue Gao
สาวปักกิ่งที่เปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์ ในช่วงที่เธอยังศึกษาปริญญาตรีด้านเทคโนโลยีและแฟชั่นที่ปักกิ่ง เธอไม่เคยหยุดที่จะสร้างสรรค์ผลงานอันโดดเด่น โปรเจกต์ของเธอคว้ารางวัลมากมาย ตั้แต่ที่ยังเรียนไม่จบ เมื่อคว้าปริญญาตรีได้แล้ว เธอรู้ดีว่าถ้าเธอจะเปล่งประกายในโลกแฟชั่น ต้องไม่อยู่แค่ในปักกิ่งเท่านั้น นิวยอร์กจึงคือจุดหมายปลายทางครั้งใหม่ที่เธอเลือก
เกาเข้าศึกษาด้านแฟชั่นในระดับปริญญาโท ที่ สถาบันออกแบบพาร์สัน ที่นั่นช่วยเหลาพรสวรรค์ของเธอให้คมกริบ เธอค่อยๆ เริ่มปลุกปั้นแบรนด์ของตนเองไปเรื่อยๆ จนปี 2017 เธอคว้ารางวัลดีไซเนอร์หน้าใหม่ที่จัดขึ้นโดย ชวารอฟสกี้ และ นิตยสารโว้ก ไม่เพียงเท่านั้น เธอยังได้รับเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลดีไซเนอร์หน้าใหม่ของ LVMH อีกด้วย ลายเซ็นที่โดดเด่นของเธอคือ เบลเซอร์ตัวโคร่ง สไตล์ยอดฮิตจากยุค 80’s แต่เธอนำเอาวิถีของชาวเอเชีย อย่าง ชุดกิโมโน หรือชุดของสตรีชาวจีนยุคโบราณมาผสมผสาน
จะว่าไปแล้วแบรนด์ Snow Xue Gao ดังเป็นพลุแตกจริงๆ ตั้งแต่ปี 2016 เมื่อนักร้องสาวสุดฮอต ริฮานนา สวมชุดและเบลเซอร์ของเกา ขึ้นแสดงในงาน Global citizen festival และก็ทำให้มีแต่คนถามว่า ชุดที่ ริฮานนาใส่นั้น มันเป็นของแบรนด์อะไรกัน และนั่นก็ทำให้ในปีถัดมา เกาได้รับเลือกให้เข้าร่วมโชว์ใน นิวยอร์ก แฟชั่น วีก และสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ ตั๋วเข้าชมแฟชั่นโชว์ของเกา ขายหมดอย่างรวดเร็ว และฟรอนต์โรว์ก็เต็มไปด้วย เซเลบชื่อดัง ที่สำคัญ โชว์ของเธอก็เลือกจัดในภัตคารจีนใจกลางกรุงนิวยอร์กนั่นเอง
“ริชาร์ด ควิน” ดีไซเนอร์เลือดอังกฤษ ที่ควีนเอลิซาเบธ และแอนนา วินทัวร์ ยังต้องมานั่งฟรอนต์โรว์
เมื่อนักข่าวยื่นคำถามว่า “คุณอยากไปทำงานเป็นดีไซเนอร์ให้กับแบรนด์หรูชื่อดังมั้ย?” แต่คำตอบที่กลับมาคือ “ไม่มีทางเสียหรอก ผมขอดูแลแบรนด์ของตัวเองดีกว่า” นี่คือคำตอบของ “ริชาร์ด ควิน” ดีไซเนอร์วัย 28 ปีชาวอังกฤษ อีกหนึ่งผลผลิตจากสถาบันชื่อก้อง เซนต์ มาร์ติน
เพียงไม่กี่ปีหลังจากปลุกปั้นแบรนด์ของตัวเอง ริชาร์ด ควิน ก็สร้างลายเซ็นของตัวเองได้อย่างรวดเร็ว นั่นคือลายพิมพ์ดอกไม้สไตล์ย้อนยุค ชุดลายพิมพ์ดอกไม้ของเขากลายเป็นที่นิยมอย่างรวดเร็ว ไม่เพียงเฉพาะห้าง หรือเว็บไซต์แฟชั่นในอังกฤษ ที่สร้างปรากฏการณ์ขายหมดสต็อกอยู่หลายคอลเลกชัน ไม่เว้นแม้กระทั่ง เซเลบดัง อย่าง อามาล คลูนีย์ ภรรยาคนสวยของ จอร์จ คลูนีย์
ควินบอกว่าเขาตกหลุมรักลายพิมพ์ดอกไม้มาตั้งแต่อายุ 17-18 ปี และก็พยายามพัฒนาให้ลายพิมพ์ดอกไม้เหล่านั้น เป็นลายเซ็นของตัวเองให้ชัดเจน ไม่ซ้ำลายดอกไม้แบบเดิมๆ ฝีมือของควินกลายเป็นที่ยอมรับในหมู่นักจัดซื้อสินค้าของห้างดังๆ ในลอนดอน จนเขาได้รับการเสนอชื่อให้รับรางวัลจากสมาคมแฟชั่นอังกฤษ นั่นคือเหตุผลว่าทำไมในลอนดอน แฟชั่น วีก ขณะที่ แฟชั่นบล็อกเกอร์ และพวกจัดซื้อหลายคนมุ่งหน้าไปมิลาน เพื่อรอ มิลาน แฟชั่น วีก แต่ แอนนา วินทัวร์ กับ ควีน เอลิซาเบธ กลับเลือกที่จะมานั่งฟรอนต์โรว์วันสุดท้ายเพื่อดูโชว์ของ ริชาร์ด ควิน นั่นคือเหตุผลว่าทำไม ดีไซเนอร์อังกฤษคนนี้จึงถูกวางให้เป็นหนึ่งในดีไซเนอร์ที่น่าจับตามองที่สุดของปี 2019
“แม็กกี มาริลิน” สาวนิวซีแลนด์ผู้เขย่าโลกแฟชั่น
จากเกาะอังกฤษเราบินข้ามซีกโลกมาที่ดินแดนดาวน์อันเดอร์ นิวซีแลนด์ เพื่อรู้จักกับดีไซเนอร์สาว “แม็กกี มาริลิน” เจ้าของแบรนด์ “แม็กกี ฮิววิต”
ภายในระยะเวลาเพียงแค่ปีเดียวหลังจากแม็กกีเรียนจบ เธอก็มุ่งมั่นปั้นแบรนด์ แม็กกี ฮิววิต ของตัวเองทันที และมันก็ได้รับการตอบรับที่ดีอย่างน่าเหลือเชื่อ ไม่ใช่เพียงแค่ยอดขายพุ่งกระฉูดในนิวซีแลนด์ แต่แฟชั่นของแม็กกียังไปเตะตาเว็บไซต์จำหน่ายเครื่องแต่งกายชื่อดังที่สุดของโลก อย่าง เน็ต อะ ปอร์เต (Net-a-Porter) ถึงแม้แม็กกีจะบอกว่ามันเป็นโชคดีของเธอมากกว่า ที่ได้รับการแนะนำให้รู้จักกับเว็บไซต์ชื่อดัง แต่ยอดขายและความนิยมของ แม็กกี ฮิววิต คือเครื่องรับประกันชั้นดีว่า มันไม่ใช่โชคเลยที่ทำให้สาวจากนิวซีแลนด์ กลายเป็นที่ยอมรับระดับโลกอย่างรวดเร็ว เพียงแค่ปีเดียวเท่านั้นนับจากเริ่มต้น เท่านั้นยังไม่พอ แม็กกียังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลดีไซเนอร์ยอดเยี่ยมของ LVMH อีกด้วย
“สโนว์ เกา” ดีไซเนอร์ชาวจีน ที่ “ริฮานนา” ยังยกนิ้วให้
ในอดีตหากเราถามว่า ในนิวยอร์กมีอะไรที่เป็นของคนจีนที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คำตอบที่ได้คงไปในทิศทางเดียว นั่นก็คือร้านอาหารจีนในแมนฮัตตัน แต่ถ้าเป็นวันนี้ คำตอบคงต้องเปลี่ยนไป เมื่อนิวยอร์กได้รู้จักกับ “สโนว์ เกา” เจ้าของแบรนด์ Snow Xue Gao
สาวปักกิ่งที่เปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์ ในช่วงที่เธอยังศึกษาปริญญาตรีด้านเทคโนโลยีและแฟชั่นที่ปักกิ่ง เธอไม่เคยหยุดที่จะสร้างสรรค์ผลงานอันโดดเด่น โปรเจกต์ของเธอคว้ารางวัลมากมาย ตั้แต่ที่ยังเรียนไม่จบ เมื่อคว้าปริญญาตรีได้แล้ว เธอรู้ดีว่าถ้าเธอจะเปล่งประกายในโลกแฟชั่น ต้องไม่อยู่แค่ในปักกิ่งเท่านั้น นิวยอร์กจึงคือจุดหมายปลายทางครั้งใหม่ที่เธอเลือก
เกาเข้าศึกษาด้านแฟชั่นในระดับปริญญาโท ที่ สถาบันออกแบบพาร์สัน ที่นั่นช่วยเหลาพรสวรรค์ของเธอให้คมกริบ เธอค่อยๆ เริ่มปลุกปั้นแบรนด์ของตนเองไปเรื่อยๆ จนปี 2017 เธอคว้ารางวัลดีไซเนอร์หน้าใหม่ที่จัดขึ้นโดย ชวารอฟสกี้ และ นิตยสารโว้ก ไม่เพียงเท่านั้น เธอยังได้รับเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลดีไซเนอร์หน้าใหม่ของ LVMH อีกด้วย ลายเซ็นที่โดดเด่นของเธอคือ เบลเซอร์ตัวโคร่ง สไตล์ยอดฮิตจากยุค 80’s แต่เธอนำเอาวิถีของชาวเอเชีย อย่าง ชุดกิโมโน หรือชุดของสตรีชาวจีนยุคโบราณมาผสมผสาน
จะว่าไปแล้วแบรนด์ Snow Xue Gao ดังเป็นพลุแตกจริงๆ ตั้งแต่ปี 2016 เมื่อนักร้องสาวสุดฮอต ริฮานนา สวมชุดและเบลเซอร์ของเกา ขึ้นแสดงในงาน Global citizen festival และก็ทำให้มีแต่คนถามว่า ชุดที่ ริฮานนาใส่นั้น มันเป็นของแบรนด์อะไรกัน และนั่นก็ทำให้ในปีถัดมา เกาได้รับเลือกให้เข้าร่วมโชว์ใน นิวยอร์ก แฟชั่น วีก และสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ ตั๋วเข้าชมแฟชั่นโชว์ของเกา ขายหมดอย่างรวดเร็ว และฟรอนต์โรว์ก็เต็มไปด้วย เซเลบชื่อดัง ที่สำคัญ โชว์ของเธอก็เลือกจัดในภัตคารจีนใจกลางกรุงนิวยอร์กนั่นเอง