>>หลายโอกาสที่พสกนิกรชาวไทยได้ชื่นชมพระบารมี พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ เสด็จพระราชดำเนินทรงงาน และได้เห็นถึงสุนัขทรงเลี้ยงตามเสด็จด้วย สร้างความเอ็นดูแก่ผู้เฝ้าฯ รับเสด็จในพระเมตตาที่ทรงมีต่อสุนัขทรงเลี้ยง
โอกาสนี้ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ จึงทรงพระนิพนธ์หนังสือ “The Princess' Dog diary : บันทึกคุณน้ำหอม สุนัขทรงเลี้ยงของเจ้าหญิง” ขึ้น พร้อมเสด็จเป็นประธานในพิธีเปิดตัวหนังสือ โดยมีคุณน้ำหอม สุนัขทรงเลี้ยงและครอบครัวตามเสด็จ การนี้ นายวิธิต อุตสาหจิต ประธานกรรมการบริษัท บันลือ พับลิเคชั่นส์ จำกัด ในเครือบันลือกรุ๊ป พร้อมคณะผู้บริหารและแขกผู้มีเกียรติ เฝ้าฯ รับเสด็จ ที่อาคารบันลือกรุ๊ป กรุงเทพฯ
พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ประทานเล่าถึงแรงบันดาลพระทัยในการทำหนังสือแก่คณะผู้เข้าเฝ้าฯ ว่า ได้เห็นคุณน้ำหอมและคาแรกเตอร์ที่พิเศษของเขา มีความเปิ่น มีความน่ารักมีความสูงศักดิ์ มีอะไรทุกๆ อย่าง รวมไปถึงพระองค์หญิงชอบมีจินตนาการในการคุยกับเขา เรามักจะเข้าใจกัน มองตากันก็จะเข้าใจกัน เขาทำให้เรามีความสุขทุกวัน บางทีก็มีความน่าหมั่นไส้ มีความน่าริษยา ทุกอารมณ์
“ท่านหญิงเป็นคนที่ชอบสัตว์มาก ตั้งแต่สุนัข ม้า ยกเว้นแมวกับยุง เห็นยุงไม่ได้ก็จะตบยุงก่อน และก็ชอบปลา จริงๆ ชอบกระต่ายด้วย แต่เลี้ยงไม่ไหว มันอึทุกรอบ ถ้าถามว่าชอบสัตว์ไหม ก็ชอบ จะมีความเข้าใจเขามาก และจะคุยกับเขารู้เรื่อง แล้วเราก็จะมีจินตนาการ อย่างหอมมี่ (คุณน้ำหอม) ก็จะเป็นเรื่องราวและจินตนาการของเราว่าเขาอาจจะคิดอย่างนี้อยู่นะ อาจจะมองแบบนี้อยู่นะ เขาก็มีความเข้าใจเราและเขาก็มองเรา พูดกันรู้เรื่อง”
พระองค์หญิง รับสั่งถึงจุดเริ่มต้นของหนังสือด้วยว่า มาจากที่พระองค์ทำเพจไพรเวตในเฟซบุ๊กชื่อว่า เพอร์ฟูม นำเสนอเรื่องราวของคุณเพอร์ฟูม หรือคุณน้ำหอมทั้งหมด เมื่อมีเรื่องราวเพิ่มมากขึ้น จึงคิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องทำการ์ตูนสักเรื่องหนึ่งให้ทุกคนได้อ่าน ให้รู้จักคุณน้ำหอมได้ใกล้ชิดกับความน่ารักและสดใส
ในด้านพระนิพนธ์ พระองค์หญิงรับสั่งว่า เคยเขียนคอลัมน์ลงในนิตยสารบ้าง แต่เป็นพวกแฟชั่นในนิตยสาร แต่ถ้าเป็นหนังสือเล่มนี้เป็นเล่มแรก ความยากคือข้อมูลเยอะเกินไป เวลามีจำกัด โดยพยายามดึงคาแรกเตอร์ ดึงสี อยากที่จะให้ทุกคนที่ได้อ่านได้รู้ว่า นี่คือคุณน้ำหอมในหนึ่งสตอรี่
โอกาสนี้ รับสั่งถึงความยากง่ายในการทำงานว่า "อย่างแรกคือเรื่องของเวลา เพราะเวลาต้องแบ่งให้ได้ว่าเราต้องทำอะไร แต่โชคดีที่ทีมงาน เพื่อนๆ ก็ทำงานกันดีมาก บางทีหลังเลิกงานที่ทำเรื่องของเสื้อผ้าก็จะมานั่งคุยกันตอนเย็น หรือเลิกงานประมาณ 5 โมง 6 โมง ก็จะนั่งคุยกัน ถึงเวลาตอนไหนที่ว่างก็คุย ดึกแค่ไหนก็คุย ส่งข้ามอินสตาแกรมก็คุย อย่างไรก็ต้องทำให้ได้ ทั้งนี้ รายได้จะนำไปช่วยเหลือสัตว์ที่โรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จริงๆ แล้วอยากช่วยโรงพยาบาลสัตว์ทุกที่ แต่เริ่มจากอะไรที่ใกล้ตัวก่อน คือสุนัขทรงเลี้ยงส่วนใหญ่อยู่ที่โรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ตั้งแต่คุณทองแดงเป็นต้นมา และท่านๆ เหล่านี้ก็เป็นสมาชิกของโรงพยาบาล"
พระองค์หญิงรับสั่งด้วยว่า เวลาไปก็จะเจอสุนัขที่มาหาหมอ อดไม่ได้ที่จะเข้าไปคุยกับเจ้าของ พระองค์หญิงแต่งตัวธรรมดา ตั้งใจจะไปหาสุนัขของพระองค์ที่ไม่สบาย บางทีก็ไปนั่งเฝ้าคุณน้ำหอมตอนคลอดลูก และไปดูแผนกต่างๆ จะชอบอ่านโปสเตอร์ที่เขาประกาศ เช่นว่า มีบริจาคเลือดให้สุนัข ก็จะนำสุนัขใหญ่ของพระองค์ไปบริจาคเลือด
“เวลาน้ำท่วมก็จะเป็นคนแรกๆ ที่ระดมทุน เมื่อเราช่วยคนแล้วก็ต้องช่วยเจ้าที่ไม่มีเสียงพวกนี้ด้วย บางทีเราไปเราก็หวังดี เอาอาหารหมาเม็ดไปแจกหมาข้างนอกตามท้องถนนซึ่งกินกันไม่เป็น และกลายเป็นบทเรียนของเราว่าที่ต้องเปลี่ยนมาเป็นข้าวคลุกอะไรก็ว่าไป อย่างไรก็แล้วแต่ ก็ต้องผสมอาหารเม็ดและฉีดยาผสมวิตามินให้เขาด้วย ทำเหมือนค่ายเล็กๆ ไม่ได้ออกข่าวพระราชสำนัก เพราะว่าพระองค์หญิงชอบทำอะไรแนวนี้มากกว่า เหมือนจุดประกาย ทำอะไรมาเรื่อยๆ รักหมามาเรื่อยๆ ท่านหญิงมีโครงการอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ทะเลอยู่แล้ว อันนี้เป็นอีกโครงการที่ดูแลเรื่องสัตว์ทะเล และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมและทำหนังสือด้วย ก็จะกลายเป็นเจ้าหญิงรักษ์โลก” พระองค์หญิงรับสั่ง
โอกาสนี้ พระองค์หญิงประทานสัมภาษณ์ถึงจุดเริ่มต้นในการเลี้ยงคุณน้ำหอมว่า “เกิดจากสมัยประถมเลี้ยงสายพันธุ์ชิสุห์ เป็นสุนัขพันธุ์เล็ก เมื่อเสียชีวิตจึงหันมาเลี้ยงสุนัขพันธุ์ใหญ่ พันธุ์ลาบราดอร์, โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ และไซบีเรียน ฮัสกี้ จากนั้นมีพระสหายนำสุนัขพันธุ์ยอร์กเชียร์ เทอร์เรียร์ สุนัขพันธุ์เล็กมาถวาย ตอนแรกไม่ชอบ เพราะชินกับสุนัขพันธุ์ใหญ่ แต่เมื่อได้สัมผัสพบว่ามีความน่ารัก มีคาแรกเตอร์เป็นของตัวเอง พระสหายทูลเกล้าฯ ถวายพร้อมแนะนำฟาร์มที่เลี้ยงสุนัข และมีคุณน้ำหอมมาเติมเต็มความรัก เป็นเพื่อนที่ดี ถือว่าเป็นเพื่อนแสบๆ คนหนึ่ง ทั้งยังเป็นเด็กที่น่ารัก เปิ่นๆ ทำเรื่องปวดหัวให้ทุกเวลา รวมถึงมีความฉลาดและทำให้เราหัวเราะได้ทั้งวัน"
“เขามีจินตนาการเพราะอยู่กับคนจำนวนมาก ทุกคนให้ความรักและยังเป็นนางแบบด้วย เพราะเขาคิดว่าเขาสวยจริงๆ บางทีก็ไปประกวดสุนัข เขารู้ตัวว่าไม่ได้สวยที่สุดในงานแต่เขาน่ารัก ตาเป็นประกาย เป็นสุนัขมีชีวิตชีวา ท่านหญิงอยากให้เขาเป็นธรรมชาติ แล้วยังมีวีรกรรม มีสุนัขหนุ่มเดินตาม ไปร้านไหนมีคนรักและคนจำได้ สามารถสื่อสารภาษาทั้งไทย อังกฤษ และฝรั่งเศสได้ ถือเป็นเสน่ห์ของเขา ตัวอื่นก็กำลังสอนอยู่ การเลี้ยงสุนัขทำให้เพลิดเพลิน สุข สนุกสนาน และรำคาญบ้างแต่มีความสุขดี รวมทั้งได้ข้อสังเกตว่าเขาสุขสบายดีหรือไม่ ปัจจุบันมีสุนัขทรงเลี้ยง 8 สุนัข”
ในฐานะที่เป็นองค์ดีไซเนอร์ พระองค์หญิงรับสั่งถึงชุดของสุนัขทรงเลี้ยงว่า “ท่านหญิงตัดเย็บชุดให้สุนัขทรงเลี้ยงบ้าง รวมทั้งส่งเศษผ้าไหมให้พี่ๆ ดีไซเนอร์ตัดเย็บ เช่น ฟลายนาว ธีรพันธ์”
สำหรับต้นแบบในการทรงรักสุนัข พระองค์หญิงทรงเผยว่า “การรักสุนัขเป็นพื้นฐานของมนุษย์ตั้งแต่สมัยโบราณ สุนัขคือเพื่อนที่ติดตาม ซื่อสัตย์ที่สุดกับเจ้าของ และเป็นเพื่อนที่ทำงานด้วยกัน ร่วมทุกข์ร่วมสุข และอยู่ได้กับทุกเพศทุกวัย ซึ่งทุกสายพันธุ์เป็นอย่างนี้ เมื่อเขาดูแลทางด้านจิตใจแล้ว เราก็ต้องดูแลเขาให้ดี”
โอกาสนี้พระองค์หญิงฉายพระรูปร่วมกับสุนัขทรงเลี้ยงและหนังสือ ด้วยพระอิริยาบถความรักความเมตตาต่อสุนัขทรงเลี้ยง พร้อมประทานพระอักษรพระนามบนหนังสือแก่ผู้ร่วมงานทุกคน สร้างความปลื้มปีติแก่ผู้ร่วมงานอย่างมาก
หนังสือ “The Princess' Dog Diary : บันทึกคุณน้ำหอม สุนัขทรงเลี้ยงของเจ้าหญิง” เป็นเรื่องราวของคุณน้ำหอม สุนัขทรงเลี้ยงและครอบครัว รวมถึงความน่ารักของนานาสัตว์ในรั้ววัง พระจริยาวัตรและความมุ่งมั่นในการทรงงานในทุกพระกรณียกิจของพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ถ่ายทอดผ่านภาพประกอบสวยงามตลอดเล่ม ในรูปแบบการเล่าเรื่องสนุกสนานสไตล์ comic essay โดยพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ทรงเป็นประธานคณะทำงานในการจัดทำหนังสือเล่มนี้อย่างใกล้ชิดและประทานคำแนะนำทั้งเรื่อง ภาพ ตลอดจนงานศิลปะต่างๆ
“คุณน้ำหอม” เป็นสุนัขสายพันธ์ยอร์กเชียร์ เทอร์เรียร์ หรือยอร์กกี้ เข้าถวายตัวเมื่ออายุ 3 เดือน (พระองค์หญิงทรงเลือกด้วยพระองค์เอง) ได้ชื่อคุณน้ำหอมเพราะเป็นสุนัขที่ตัวหอม นิ่ม สะอาด และเป็นสุนัขที่ชอบกลิ่นหอม มีหลายชื่อเรียก เช่น หอมมี่ ยัยหอม ยัยหวึ่ง ยัยอวบ เป็นต้น มีฉายาว่า “น้ำหอมจอมซ่า” เพราะมีความกล้าหาญ สู้กับสัตว์ตัวใหญ่โดยไม่กลัว แต่ก็ไม่รังแกตัวอื่น รักอิสระ รักสวย รักงาม
พิมพ์พิชา อุตสาหจิต รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทเครือบันลือกรุ๊ป กล่าวว่า หนังสือเล่มนี้เป็นพระนิพนธ์เล่มแรกในรูปแบบการ์ตูน ในขั้นตอนการทำงานนั้น พระองค์ทรงพระเมตตาเป็นประธานคณะทำงาน ประทานพระดำริและถ่ายทอดเรื่องราวมากมายให้ทีมงานและนักวาด รวมถึงประทานคำแนะนำและดูแลรายละเอียดอย่างใกล้ชิด ทั้งในด้านเทคนิคการเล่าเรื่องและงานดีไซน์ ซึ่งเป็นพระปรีชาสามารถพิเศษของพระองค์ แม้จะทรงมีพระกรณียกิจมากมาย ก็ทรงแบ่งเวลาจัดทำให้หนังสือสำเร็จสมบูรณ์ออกมาเป็นผลงานที่สนุก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อารมณ์ขันในแบบเฉพาะพระองค์ เรื่องราวในหนังสือยังเป็นแรงบันดาลใจให้พวกเราในด้านความมุ่งมั่นตั้งใจทำงาน ความรับผิดชอบหน้าที่ของตัวเองอย่างสุดความสามารถ อุปนิสัยรักการอ่าน การจดบันทึก ความช่างสังเกตและมุมมองความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ รวมถึงความมีเมตตาต่อสัตว์
หนังสือ “The Princess' Dog Diary : บันทึกคุณน้ำหอม สุนัขทรงเลี้ยงของเจ้าหญิง” พิมพ์บนกระดาษถนอมสายตาด้วยเทคนิคการพิมพ์ 4 สี จำนวน 160 หน้า จำหน่ายราคา 210 บาท หาซื้อได้ตามร้านหนังสือชั้นนำทั่วไป รวมถึงงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 46 และงานสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 16 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ วันที่ 29 มีนาคม - 8 เมษายน 2561 ที่บูทบันลือบุ๊คส์ X08 หรือทางเว็บไซต์ที่ store.minimore.com