นิตยสาร Wallpaper* ฉบับกันยายน 2559 พบกับ
*THIS ISSUE CRAFT CULTURE + HOTEL W*
CRAFTS MOVEMENT
คุณค่าของกระแสงานอาร์ตแอนด์คราฟต์ ตระหนักถึงความสุขจากการลงมือทำงานด้วยใจรัก รู้สึกปรีดากับวิถีชีวิตอันเรียบง่าย และพึงพอใจที่ได้สัมผัสประสบการณ์ทำสิ่งเล็กๆ น้อยๆ นั้นด้วยตัวเอง
ย้อนประวัติศาสตร์โลกไปในช่วงยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม เมื่อการผลิตสินค้าต่างๆ เน้นเพิ่มผมผลิตคราวละจำนวนมาก โดยใช้เครื่องจักร และเทคโนโลยีเข้ามามีส่วนช่วยในการลดต้นทุน และย่นระยะเวลา ทำให้สินค้าหน้าตาเหมือนกันทุกอย่าง เริ่มกระจายตัวออกสู่ตลาดอย่างรวดเร็ว สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ซื้อหาในวงกว้าง กระนั้นความหยาบกร้านของงาน เครื่องจักรไม่อาจตอบสนองความสุนทรียะในกมลสันดานของมนุษย์ได้
NEW KIDS IN TOWN
เผยโฉมอาคาร Retail สะดุดตาหลากหลายสเกล ที่ผิวอาคารภายนอกออกแบบแรงบันดาลใจที่แตกต่าง
ในยุคที่ RETAIL ไม่ว่าจะเป็นอาหาร คาเฟ่ ร้านค้า รวมไปถึงอาคารพาณิชย์ มีตัวเลือกให้กับผู้บริโภคเป็นจำนวนมาก การแข่งขันกันเพื่อให้เป็นที่นิยมนั้น การขายสินค้าและบริการที่มีคุณภาพดีนั้นไม่เพียงพอต่อความต้องการของคนยุคนี้อีกต่อไป การเสริมเติมด้วยบรรยากาศ และความรู้สึกที่ห้างร้านหยิบยื่นให้กับลูกค้ากลายเป็นอีกหนึ่งสิ่งมัดใจที่ทำให้เป็นที่จดจำ รูปลักษณ์ของอาคารอันเป็นที่ตั้งจึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ดึงดูดเราให้อยากเข้าไปสัมผัสพื้นที่ภายในของสถานที่นั้นๆ Wallpaper* ออกสำรวจ Stand-alone Retail ในกรุงเทพฯ ที่เพิ่งเกิดขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมา
Fairway to heaven
สนามมินิกอล์ฟ 'One Point' โดย Studio JinSik Kim, Cuellar, Bolon และ Anan
ดีไซเนอร์จากกรุงโซล JinSik mKim เป็นศษย์เก่าของมหาวิทยาลัย École และ Design Academy Eindhoven เขามีความสามารถพิเศษด้านการจัดวางงานเชิงประติมากรรมได้อย่างละเมียดละไมจนมีโอกาสได้ร่วมงานกับแบรนด์ระดับ Christofle และ Hermès ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจที่ผลงานสนามมินิกอล์ฟ 'One Point' ที่เขาทำให้ Hotel Wallpaper* จะมีด่านต่างๆ ที่ไม่ต่างจากงานศิลปะพอๆ กับที่มันเป็นเครื่องเล่นสร้างความบันเทิงเริงใจ
พื้นที่ของสนามมินิกอล์ฟทั้งห้าด่าน ไม่ว่าจะเป็นด่านที่ประกอบด้วยวงกลมซ้อนกัน หรือที่เป็นทางสี่เหลี่ยมลาดตรง ต่างได้รับการขึ้นรูปมาอย่างยากลำบาก จากแผงโลหะรังผึ้งน้ำหนักเบา ด้านบนบุด้วยพรมเรียบจากแบรนด์พรมสัญชาติสวีดิชอย่าง Bolon สนามแต่ละด่านจะมีการถ่วงน้ำหนักด้วยฐานหินอ่อนจาก Cuellar เพื่อช่วยให้สนามนั้นดูราวกับกำลังลอยตัวอยู่
นิตยสาร HELLO! ฉบับพฤหัสบดีที่ 15 กันยายน 2559 พบกับ
ทุกก้าวที่แกร่งของม่ายสาวสวย สตรองและโสด อทิตา สุธาดารัตน์ 'จะมัวดราม่ากับชีวิตไม่ได้ อะไรที่ทำร้ายใจเราก็ต้องตัดออก'
รั้วบ้านร่มครึ้มที่เมื่อดูจากด้านหน้าจะดูกว้างขวางตามปกติ ทว่าด้านยาวนั้นลึกเข้าไปจนปลูกบ้าน 3 หลังใหญ่ๆ ได้สบาย อาณาเขตภายในรั้วบ้านยังเก๋ด้วยโรงรถที่บังคับให้จอดเรียงหัวชนท้ายต่อกันไปยาวตลอดกำแพง และความเก๋ขั้นสุดคือบ้านหลังแรกที่ออกแบบเป็นทรงกลมไปทุกตารางนิ้ว ทั้งตัวบ้าน ประตู บันได ห้องนั่งเล่น และแม้แต่ห้องนอน ตามความปรารถนาของเจ้าของบ้านสาวสวย เจ้าของรูปร่างเพรียวระหงเสมอแม้วัย 40 กะรัต คุณจ้อ-อทิตา สุธาดารัตน์ ผู้ได้รับฉายาต่างๆ มากมาย ตั้งแต่ขนมไทยโมเดิร์นอาร์ต ขนมไทยลักชูรีดิลิเวอรี่ ม่ายสาวสุดสวยสุดตรองไปจนถึงคุณแม่ใจสปอร์ต วันนี้เธอละวางมือจากพิมพ์ขนมสีพาสเทลหวานที่กำลังขายดี แล้วยอมสละเวลาทั้งวัน เพื่อถามตอบถึงที่มาของทุกสมญานามในชีวิตอย่างเต็มๆ เป็นครั้งแรกกับ HELLO!
ชีวิตที่มีสีสันของ จิอันลูกา วัคกี ดาวเด่นจากคลิป 'เต้นรำ' ที่สะเทือนอินเทอร์เน็ต เขาเผยโฉมบรรดาบ้านอันแสนงดงามรวมทั้งไลฟ์สไตล์ที่หรูหราไม่เหมือนใคร
“การเต้นรำได้รับความนิยมรวดเร็วเพราะเป็นเรื่องไม่ยาก ใครๆ ก็สามารถทำได้อยู่ที่จะดีมากหรือดีน้อย และเป็นสิ่งที่สนุกสนานล้อเลียนความเป็นจริง และติดต่อกันได้ง่าย นั่นคือพลังของเว็บไซต์” จิอันลูกา วัคกี ซึ่งเป็นเจ้าพ่อแห่งโลกโซเชียลมีเดีย และเป็นต้นแบบของความมีสไตล์ อธิบายให้เราฟังถึงสาเหตุที่คลิปวิดีโอเต้นรำของเขากับแฟนสาวคนสวยได้สร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในโลกอินเทอร์เน็ต “มันเกิดขึ้นโดยความบังเอิญ และเป็นเพราะผมกับจอร์เจียก็เต้นกันเป็นประจำอยู่แล้วด้วย ทุกอย่างเป็นการกดด้นสด ไม่ได้มีการคิดไว้ล่วงหน้า” ในโลกของจิอันลูกาที่เราได้ค้นพบทาง HEOOL! ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา เราได้รู้จักไลฟ์สไตล์ และบ้านหลังงามของเขาทั้งในโบโลญญา มิลาน ชาร์เดนญา และคอร์ตินา “ทำงาน 4 ชั่วโมงต่อวัน ก็มากพอแล้ว” เขากล่าว “ผมเป็นผู้ถือหุ้นหลักของบริษัทของครอบครัวที่ผมซื้อมาตั้งแต่อายุ 25 ปี เพราะญาติๆ ไม่มีใครสนใจ” บริษัทเกือบ 40 แห่งของเขามีการจ้างพนักงาน 7,000 คน และครอบคลุมตั้งแต่โรงงานผลิตพลาสติก ไฟรถยนต์ และกระจกที่ประตูเครื่องซักผ้า ไปจนกระทั่งสายไฟฟ้าแรงสูง ผ้าคลุมกันน้ำ และบรรจุภัณฑ์
นักการเงินเทรนดี้แห่งตระกูลร้อยปี ณัฐชยา ไกรฤกษ์ 'เป็นคนยิ้มแย้ม ไม่แสดงออกว่าคิดมาก เพราะไม่อยากทำให้คนรอบข้างเครียด'
ทายาทสาวจากตระกูลพระยาเก่าแก่ของไทยอีกคนหนึ่งที่หลงใหลในแฟชั่น คุณเอิน-ณัฐชยาไกรฤกษ์ ผู้สืบเชื้อสายจากพระยาไกรโกษา ซึ่งถวายงานสนองพระเดชพระคุณพระมหากษัตริย์ไทยมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา จวบจนถึงเจ้าจอมมารดาชุ่มในรัชกาลที่ 5 ซึ่งเป็นเจ้าจอมที่โปรดมากด้วยคำพูดภาษาอังกฤษที่คล่องแคล่ว และพระยาบุรุษรัตนราช พัลลภ (นพ ไกรฤกษ์) มหาดเล็ดประจำห้องพระบรรทมในรัชกาลที่ 5 แม้ภายนอกจะดูว่าเธออ่อนหวานเรียบร้อยดังผ้าพับไว้ แต่สายตระกูลไกรฤกษ์ผู้นี้ก็กล้าลุกขึ้นมาทำตามฝัน สร้างแบรนด์แฟชั่นควบคู่กับงานหลักด้านการเงิน
และต่อให้งานยุ่งแค่ไหนก็ยังเจอรอยยิ้มพิมพ์ใจจากปากไปถึงตาของเธอได้เช่นเคย
ทายาทนายพลคนดังแห่งประวัติศาสตร์ไทย จอมภพ คราประยูร 'ผมไม่โอเคกับการเป็นที่สองหรือที่สาม ถ้าคนอื่นทำได้ผมก็ต้องทำได้'
อาจเป็นไปได้ว่าชีวิตของเขาถูกลิขิตให้ย่ำไปในเส้นทางสายคนในเครื่องแบบ ด้วยมีนายทหารระดับยศนายพลถึง 2 ท่าน ทั้งคุณปู่ พลเอกสุจินดา คราประยูร ผู้เคยดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก และนายกรัฐมนตรีของไทย จนมาถึงบิดา พลโทเจิดวุธ คราประยูร ผู้บัญชาการวิทยาลัยเสนาธิการทหาร หากเมื่อถึงคราประยูรรุ่นหลานกลับขีดเส้นทางเดินทางตัวเองในสายธุรกิจร้านอาหาร แม้ดูเหมือนแตกต่างสุดขั้ว แต่เมื่อได้รู้จักตัวตนของเขาแล้ว เจเจ คราประยูร มีทั้งความเด็ดขาด และวิสัยทัศน์ไกล ไม่ผิดความหมายไปจาก 'จอมภพ' ชื่อจริงของเขาที่คุณปู่เป็นผู้ตั้งให้แม้แต่น้อย
ผู้สืบสายเลือดจากพระยา อดีตนายกฯ และอธิบดีกรมตำรวจ ปรินท์ สารสิน 'ชื่อของผมหมายถึงผู้ยิ่งใหญ่จากที่อื่น ผมเลยต้องย้ายตัวเองไปเรื่อยๆ เพื่อจะเติบโต'
ชายหนุ่มไฟแรงวัย 28 ผู้นี้เป็นอีกคนที่สืบสายเลือดนักการเมืองและข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ด้วยเป็นทายาทรุ่นที่ 5 แห่งตระกูลสารสิน ซึ่งล้วนมีแต่ผู้มีชื่อเสียงระดับประเทศ เช่น พระยาสารสินสวามิภักดิ์ แพทย์หลวงประจำราชสำนักในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว คุณพจน์ สารสิน อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 9 ของไทย พล.ต.อ.เภา สารสิน อดีตอธิบดีกรมตำตรวจ คุณกลินท์ สารสิน ผู้เป็นบิดาสวมหมวกถึง 12 ตำแหน่ง เช่น รองประธานกรรมการหอการค้าไทย และประธานกรรมการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ส่วนตัวเขานั้นเล่า ก็มีความมุ่งหวังจะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้แก่แผ่นดินเกิด เช่นเดียวกับบรรพบุรุษทั้ง 4 รุ่นก่อนหน้านี้ แต่ด้วยวิธีการเฉพาะ 'ปรินท์ สารสิน' เท่านั้น
