เริ่มเข้าสู่เทศกาลเข้าพรรษาที่เหล่าพุทธศาสนิกชนทั้งหลายหันมาทำบุญรักษาศีล ชำระจิตใจให้ใสสะอาด ฟังเทศน์ฟังธรรมทำบุญในวัดสำคัญๆ ต่างๆ รวมทั้งเหล่ายังก์เซเลบราชสกุลรุ่นใหม่ ที่พากันไปทำบุญตามวัดประจำตระกูลเป็นประจำ ซึ่งนอกจากจะได้ทำบุญตามหลักพุทธศาสนาแล้ว ยังได้ไปเคารพสักการะบรรพบุรุษเพื่อเสริมสิริมงคลอีกด้วย
** “หญิงแม้น” ทำบุญให้บรรพบุรุษที่วัดราชบพิตร**
ราชนิกูลสาวสุดเปรี้ยว หญิงแม้น-แม้นนฤมาศ ยุคล ถึงจะมีภาพเป็นสาวสังคมจ๋า แต่พอถึงเวลาทำบุญ ก็จะติดตามครอบครัวไปทำบุญที่วัดราชบพิตรเป็นประจำ
“ท่านพ่อ (หม่อมเจ้าจุลเจิม ยุคล) พาครอบครัวไปทำบุญที่วัดราชบพิตรตั้งแต่จำความได้ โดยจะทำบุญกันเป็นประจำไม่ว่าจะเป็นวันเกิด วันสงกรานต์ หรือวันพระใหญ่ต่างๆ นอกจากนั้น คุณแม่ (หม่อมอัญชลี ยุคล) ยังได้ไปปฏิบัติธรรมด้วย
โดยวัดราชบพิตรมีความสำคัญสำหรับราชกุลยุคล โดยภายในพระปรางสามยอดที่จำลองจากลพบุรีมานั้นก่อสร้างแบบศิลปะของลพบุรี บรรจุพระอัฐิของปู่เล็ก (พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าอนุสรมงคลการ หรือพระองค์ชายเล็ก)ซึ่งเป็นเสด็จของหญิง ปู่กลาง (พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมพลฑิฆัมพร หรือพระองค์ชายกลาง) และปู่ใหญ่ (พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธ์ยุคล หรือพระองค์ชายใหญ่ ซึ่งทั้ง 3 พระองค์เป็นพระโอรสในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ายุคลฑิฆัมพร กรมหลวงลพบุรีราเมศร์) ”
และหนึ่งในเจดีย์ 34 องค์ ในสุสานหลวงแห่งนี้ มีอนุสาวรีย์พระปรางสามยอดแบบลพบุรี ที่บรรจุพระสรีรางคารของพระวิมาดาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ กรมพระสุทธาสินีนาฎ ปิยมหาราชปดิวรัดา พระอัครชายาและสมเด็จเจ้าฟ้ากรมหลวงลพบุรีราเมศร์ ต้นราชนิกุลยุคล, พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าหญิงเฉลิมเกียรติมงคล และประยูรญาติแห่งราชสกุลยุคล
** “จุ๋ย-จรสพรรณ” ทำบุญ ณ วัดราชาธิวาส**
เนื่องจากวัดราชาธิวาส เป็นวัดที่รัชกาลที่ 4 ทรงปฏิสังขรณ์ใหม่และพระราชทานนามใหม่ว่า วัดราชาธิวาสวิหาร และเป็นวัดที่รัชกาลที่ 4 ได้ทรงผนวชและจำพรรษา และได้ก่อตั้งคณะสงฆ์ธรรมยุติกนิกายขึ้น
ดังนั้นวัดแห่งนี้จึงเป็นวัดประจำราชสกุลสายตรงที่ได้รับพระราชทานมาจากรัชกาลที่ 4 ไม่ว่าจะเป็น เทวกุล สุจริตกุล และสวัสดิวัตน์ เป็นต้น โดยแต่ละสายราชสกุลมีการรวมตัวกันที่วัดนี้เพื่อทำบุญวันเกิด หรือทำบุญให้บรรพบุรุษ แล้วแต่วาระและโอกาสที่แตกต่างกันไป
จุ๋ย-จรสพรรณ สวัสดิวัตน์ ณ อยุธยา ลูกสาวคนสวยของ พลตรี ม.ล. เพิ่มวุทธิ์ สวัสดิวัตน์และเป็นหลานสาวของท่านปู่ ม.ร.ว.ถนัดศรี สวัสดิวัตน์ หรือเจ้าของป้ายเชลล์ชวนชิม ก็เป็นคนหนึ่งที่ได้ไปร่วมทำบุญที่วัดแห่งนี้เป็นประจำ
จุ๋ยเล่าว่า “ ความจริงแล้ว วัดราชาธิวาสวิหารแห่งนี้ ไม่ใช่วัดประจำราชสกุลสวัสดิวัตน์แต่อย่างใด แต่เป็นวัดที่รัชกาลที่ 4 ทรงปฏิสังขรณ์ และสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสวัสดิโสภณ กรมพระสวัสดิวัดนวิศิษฎ์ พระราชโอรสพระองค์ที่ 60 ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงเป็นต้นราชสกุลสวัสดิวัตน์ ซึ่งเรียกง่ายๆ ว่าเป็นท่านเทียดของจุ๋ย เสด็จมาประกอบทรงพิธีสำคัญต่างๆ ที่วัดราชาธิวาสแห่งนี้ รวมถึงเป็นที่บรรจุพระอัฐิและพระสรีรังคารของราชสกุลสวัสดิวัตน์ จนถึงตอนนี้ เหล่าลูกๆ หลานๆ ก็ได้มาทำบุญให้บรรพบุรุษ หรือทำบุญวันเกิดที่วัดแห่งนี้อยู่เนืองๆ ณ ศาลาสวัสดิวัฒน์ ล่าสุด เราได้ทำบุญครบรอบ 150 ปี ของสมเด็จชวดไปเมื่อเร็วๆ นี้”
**ยุ้ย-ณพอาภา ทำบุญวัดราชาธิราช**
ราชนิกุลสาวที่มีใจรักอิสระ แต่พอถึงเวลาทำบุญกับครอบครัว ยุ้ย-ณพอาภา เทวกุล ณ อยุธยา ก็ติดตามคุณพ่อ พลเอกหม่อมหลวงทศนวอมร เทวกุล และคุณแม่รัตนาภา เทวกุล ณ อยุธยา ไปทำบุญให้บรรพบุรุษที่วัดราชาธิราช ซึ่งเป็นวัดประจำราชสกุลเทวกุล ของทางฝั่งคุณพ่อ และต้นสกุล สุจริตกุล และวัชโรทัย สายของคุณแม่ อยู่เป็นประจำ
ยุ้ย เล่าว่า “ปกติแล้วยุ้ยจะมีโอกาสได้ทำบุญกับครอบครัวที่ "วัดราชาธิราช" เป็นประจำ ส่วนใหญ่จะได้ทำประมาณ 4 ครั้งต่อปี ส่วนมากจะมาทำที่ศาลาสุจริตกุลก่อน เพราะเป็นศาลาเดียวกันกับสกุล "วัชโรทัย" แล้วจึงนำพวงมาลาไปวางที่ศาลา "เทวกุล" ต่อ หากพูดถึงสกุล "วัชโรทัย" นั้นเป็นตระกูลของบรรพบุรุษของคุณตา คุณแก้วขวัญ วัชโรทัย (เลขาธิการพระราชวัง) ซึ่งเป็นสกุลเก่าแก่ ที่ได้รับการไว้วางพระราชหฤทัยของกษัตริย์มาตั้งแต่รัชกาลที่ 1 และนามสกุลนี้ได้รับพระราชทานนามสกุลจากรัชกาลที่ 6 เราจึงมาทำบุญให้บรรพบุรุษที่วัดราชาธิวาสวิหารแห่งนี้เป็นประจำ ประมาณ 4 ครั้งต่อปี โดยเฉพาะในโอกาสครบรอบวันเกิด และวันครบรอบการสิ้นชีวิตของคุณชวดทั้งสอง (พระยาอนุรักษ์ราชมณเฑียร (กาด วัชโรทัย) และท่านผู้หญิงอนุรักษ์ราชมณเฑียร (พัว วัชโรทัย) โดยคุณตาจะนิมนต์พระมาสวด ถวายพวงมาลัยให้บรรพบุรุษ และไม่ลืมที่จะไปสักการะบรรพบุรุษสายราชสกุลเทวกุล และสุจริตกุลด้วยค่ะ”
ด้วยเหตุที่วัดราชาธิวาส เป็นวัดประจำราชสกุลหลายสาย แต่ละราชสกุลจึงได้สร้างศาลา หรืออนุสรณ์สถานไว้ติดๆ กัน เพื่อให้บรรดาลูกหลานได้มารวมกันทำบุญแด่บรรพบุรุษ
**ปรียวรรณ สาย“บุนนาค” ทำบุญที่วัดบุปผาราม**
แม้จะเป็นที่รู้กันว่าวัดประจำราชินิกุลตระกูลบุนนาค จะมี 2 วัดหลัก คือวัดประยูรวงศาวาสวรวิหาร ที่ต้นตระกูลบุนนาคสายสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงศ์ (ดิศ บุนนาค) หรือที่คนทั่วไปนิยมเรียกว่า “สมเด็จเจ้าพระยาองค์ใหญ่” ได้สร้างขึ้น และวัดพิชยญาติการามวรวิหาร ที่สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาพิไชยญาติ (ทัต บุนนาค) หรือ “สมเด็จเจ้าพระยาองค์น้อย” ได้บูรณะปฎิสังขรณ์จากวัดร้าง
แต่ทุกวันที่ 20 มิถุนายนของทุกปี บรรดาลูกหลานสายสกุลบุนนาคทุกคนต่างไปรวมตัวกัน ที่วัดบุปผาราม เพื่อทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้บรรพชน เนื่องในวันครบรอบวันพระราชทานนามสกุลบุนนาค ที่รัชกาลที 6 ทรงพระราชทานให้
ปรียาวรรณ บุนนาค เลขาชมรมสายสกุลบุนนาค เล่าว่า “ทุกๆ วันที่ 20 มิถุนายน เราจะไปรวมตัวกันที่วัดบุปผาราม เนื่องจากเป็นวัดที่สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ หรือช่วง บุนนาค เป็นบุตรชายคนโตของสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงศ์ (ดิศ บุนนาค) ซึ่งท่านเคยได้เป็นถึงผู้สำเร็จราชการแผ่นดินแทนพระองค์ในสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้บูรณะวัดนี้ และพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 4 ทรงช่วยในการบูรณปฏิสังขรณ์วัดนี้ด้วย พร้อมพระราชทานนามใหม่ว่า วัดบุปผาราม ซึ่งภายในวัดนอกจากจะมีพระอัฐิของสมเด็จช่วงแล้ว ที่บานประตูของพระวิหารยังมีตราสุริยมณฑลแบบฝรั่ง ซึ่งเป็นตราประจำของสมเด็จเจ้าพระยาฯ (ช่วง บุนนาค) ใช้ประทับตรากำกับสิ่งของเครื่องใช้ หรือก่อสร้างถาวรวัตถุต่างๆ กำกับไว้เสมอ และถือเอาวันนี้เป็นวันครบรอบวันพระราชทานนามสกุลบุนนาค”
**กบ-อาภาสิริ ทำบุญวัดราชบูรณะปีละ 2 ครั้ง**
แม้ราชสกุลเทพหัสดิน จะมีหลายสาย แต่พอถึงสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนกรกฎาคม ลูกหลานเทพหัสดิน จะมารวมตัวกันเพื่อทำบุญแด่บรรพบุรุษต้นราชสกุลือ “ เจ้าขรัวเงิน” พ่อค้าชาวจีน ซึ่งได้เสกสมรสกับสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระศรีสุดารักษ์ พระพี่นางเธอในรัชกาลที่ 1 และหลังจากนั้นเจ้าฟ้ากรมหลวงเทพหริรักษ์ พระโอรสในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอฯได้ทรงบูรณปฏิสังขรณ์วัดเลียบแห่งนี้ขึ้น และพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ได้พระราชทานนามว่า “วัดราชบูรณะ”
กบ-อาภาสิริ เทพหัสดิน ณ อยุธยา หนึ่งในลูกหลานราชสกุลนี้ เผยว่า ทุกๆ ปี ราชสกุลเทพหัสดินจะนัดรวมตัวกัน 2 ครั้ง ครั้งแรกคือเดือนมีนาคม โดยแต่ละสายจะรับเป็นเจ้าภาพเชิญเครือญาติมาร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ที่บ้านของตัวเอง และครั้งที่ 2 เดือนกรกฎาคมของทุกปี ก็จะรวมตัวกันไปทำบุญให้บรรพบุรุษที่วัดราชบูรณะ ซึ่งเป็นสถานที่เก็บพระอัฐิของราชสกุลเทพหัสดิน โดยจะมีศาลาเทพหัสดินเพื่อการประกอบราชพิธีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเลี้ยงพระ ถวายผ้าไตร โดยเครือญาติทั้งหมดในราชสกุลเทพหัสดิน และเทพหัสดิน ณ อยุธยา จะมีจำนวนกว่าพันคน ซึ่งนอกจากลูกๆ หลานๆ จะได้ทำบุญร่วมกันแล้ว ยังถือโอกาสนี้ให้เด็กและผู้ใหญ่ในราชสกุลได้พบปะกันด้วย”
การเข้าวัดของเหล่าเซเลบรุ่นใหม่ นอกจากจะได้ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่บรรพบุรุษผู้ล่วงลับเป็นการแสดงออกถึงความกตัญญูแล้ว ยังถือเป็นการสานสายใยสายสัมพันธ์ของวงศ์ตระกูลที่แม้จะแตกหน่อกิ่งก้านออกไป แต่บ้านและวัดก็ยังเป็นสถานที่อันอบอุ่นที่จะได้มารวมญาติและร่วมทำกิจกรรมของครอบครัวร่วมกัน
เรื่องโดย : นวพร แนวณรงค์
ภาพโดย วรวิทย์ พานิชนันท์ และ ธัชกร กิจไชยภณ