>>ครั้งนี้ถือเป็นโอกาสที่เอ็กซ์คลูซีฟสุดๆ เพราะเราได้มาเปิดตู้ นั่งคุยกับ “โต๋เต๋-อัญชลิกา สนิทวงศ์ ณ อยุธยา” ถึงเรื่องสไตล์การแต่งตัวของเธอ แม้เธอจะบอกกับเราว่าสไตล์ของเธอนั้นเรียบๆ ง่ายๆ ไม่หวือหวา แต่ถ้าได้ลองเปิดตู้ดูสไตล์ของเธอในครั้งนี้แล้ว ของแต่ละชิ้นที่เธอหยิบมาให้เราดูแต่ละแบรนด์นั้นกลับไม่ธรรมเลยทีเดียว!
“โต๋เต๋-อัญชลิกา สนิทวงศ์ ณ อยุธยา” ภรรยาคนสวยของ “อภิชาต หวั่งหลี” นักธุรกิจเจ้าของร้านลิตเติล โฮม (Little Home) ร้านอาหารที่เปิดบริการความอร่อยมากว่า 60 ปี แต่เธอทำธุรกิจส่วนตัวด้วยการเปิดบริษัทแอทออรัส (At Aurous) เป็นตัวแทนนำเข้าผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทำสปาแบรนด์ “จูน เจคอบส์” (June Jacobs) ผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงในการทำสปาจากสหรัฐอเมริกา ที่เริ่มต้นจากความชอบส่วนตัวมาก่อน
“เพราะตัวเองเป็นคนรักสวยรักงาม ชอบนวด และเข้าสปา จึงเริ่มต้นจากการเป็นตัวแทนนำเข้าผลิตภัณฑ์สปาแบรนด์จูน เจคอบส์ จากประเทศสหรัฐอเมริกา ในขณะเดียวกันก็เปิดสปาควบคู่กันไปด้วย แต่หลังๆ งานเริ่มยุ่ง ความรับผิดชอบมากขึ้น จึงเลือกที่จะเป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเดียวดีกว่า ตอนนี้จูน เจคอบส์ มีจำหน่ายที่สปาชั้นนำในโรงแรม นอกจากนั้นเราก็มีจำหน่ายในร้านเซโฟร่า (Sephora) ทุกสาขา เป็นผลิตภัณฑ์สปาที่สามารถใช้ได้ที่บ้าน”
การอยู่ในธุรกิจนี้มากว่า 20 ปี ทำให้เห็นพัฒนาการของแบรนด์เครื่องสำอางต่างๆ มากขึ้น และเข้าใจในเทรนด์ของธุรกิจความงาม แต่ก็ยังมีความมั่นใจว่าแบรนด์นี้จะยังเป็นแบรนด์ที่มีแฟนคลับอย่างเหนียวแน่น เพราะมีจุดเด่นและความเป็นเอ็กซ์คลูซีฟที่หลายๆ คนอยากสัมผัสกับความเป็น จูน เจคอบส์
“จูน เจคอบส์ มีความโดดเด่น เพราะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ดูแลได้ตั้งแต่หัวจดเท้า สกัดจากธรรมชาติ ปราศจากสารกันบูด พาราเบน สีและกลิ่นสังเคราะห์ ไม่มีน้ำหอม และสารปิโตรเคมีใดๆ ทั้งสิ้น สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว เพราะเราดูแลโดยการวิเคราะห์ผิว แล้วดูแลตามสภาพผิว”
และสิ่งที่แทบจะเป็นไปโดยอัตโนมัติสำหรับคนทำแบรนด์บิวตี้ก็คือ การดูแลตัวเองอย่างดีทั้งเรื่องของรูปร่างและผิวพรรณ ซึ่งทั้งหมดยังเป็นความชอบที่สั่งสมมานาน ตั้งแต่อายุ 12 ปี ที่ทำให้น้าเต๋ยังดูดีจนถึงทุกวันนี้
“เรื่องความสวยความงามเราต้องดูแลตัวเองตั้งแต่ข้างใน เราดูแลตัวเองตั้งแต่อายุ 12 ปี ตอนเด็กๆ จำได้ว่ารู้จักใช้ครีมทาบริเวณผิวและทาใบหน้าแล้ว จากนั้นก็ใช้มาเรื่อยๆ ดูแลผิวพรรณมาตลอดจนถึงปัจจุบัน เช่นเดียวกับเรื่องของการดูแลรูปร่าง เราเป็นคนกลัวอ้วน จึงระวังเรื่องอาหารการกินมาก สูตรสำคัญที่อยากจะแชร์ก็คือ ถ้ากินเนื้อสัตว์ต้องกินกับผัก หรือถ้ากินแป้งก็ต้องกินกับผัก แล้วจะไม่ค่อยมีปัญหา และอีกอย่างที่ขาดไม่ได้คือการออกกำลังกาย เราชอบเล่นพิราทีส ปั่นจักรยาน และเข้ายิม อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 วัน และสิ่งสำคัญคือการนอนหลับพักผ่อนให้เต็มที่”
แม้ว่าในบางช่วงจะมีปัญหาเรื่องรูปร่างที่ดูมีน้ำมีนวลขึ้นกว่าปกติ แต่ก็ต้องรีบดูแลตัวเองให้กลับมารูปร่างใกล้เคียงเดิม เพราะส่วนหนึ่งกลัวว่าจะใส่เสื้อผ้าที่มีอยู่ล้นตู้ไม่ได้!!
“เป็นคนมีความสุขกับการแต่งตัว แต่สไตล์ของเราไม่เยอะนะ เรียบง่าย เก๋ ดูดี ถ้าใส่เสื้อผ้าธรรมดาก็จะเน้นที่จิวเวลรี ถ้าเสื้อผ้ามีรายละเอียดหรือสีสันเยอะ ก็จะถือกระเป๋าเรียบๆ เป็นคนไม่เน้นแบรนด์เนม เจออะไรที่ชอบก็ซื้อแล้วเอามามิกซ์แอนด์แมตช์ แต่ที่ชอบมากคือรองเท้ากับกระเป๋า ส่วนตัวรู้สึกว่าแบรนด์เนมใส่แล้วก็เหมือนกันไปหมด แต่เราเป็นคนไม่เหมือนคนอื่นก็เลยไม่ค่อยซื้อแบรนด์เนม (หัวเราะ)
อีกอย่างที่เราชอบก็คือเครื่องประดับจะมีแบรนด์ประจำที่ใช้ อย่าง โลตัส อาร์ต เดอ วีฟ (Lotus Arts de Vivre) และซินเซีย จิวเวลรี (Sincere Jewelry) แล้วก็มีเครื่องประดับวินเทจที่ไปเจอแล้วชอบ เช่นมีอยู่ชิ้นหนึ่งได้มาจากเวโรนา เป็นทองถักมือ สวยประณีตมาก”
ไม่ใช่แค่เรื่องของรูปร่างเครื่องแต่งกายเท่านั้น เรียกได้ว่าเธอยังเป็นคนที่ต้องเป๊ะตั้งแต่หัวจดเท้าเลยทีเดียว!!
“เป็นคนเป๊ะนะ โดยเฉพาะเรื่องใบหน้าและสไตล์ผม น้าเต๋ให้ความสำคัญกับสไตล์ของผมมาก เพราะรู้สึกว่าต่อให้เสื้อผ้าสวยมาก แต่หน้าผมไม่ไปด้วยก็ดูไม่สมบูรณ์แบบ ที่จริงเป็นคนไม่เข้าร้านทำผมบ่อย จะเข้าไปแค่ตัดผมกับทำสีผมปีละครั้ง แต่เราจะเลือกช่างที่มีฝีมือ เพราะเขาจะมีเทคนิคที่ทำให้เราสามารถกลับมาเซตเองได้ที่บ้าน”
ส่วนจะเป๊ะขนาดไหนนั้นพิสูจน์ได้จาก 4 ลุค ที่เธอบอกว่าเป็นสไตล์ของเธอมากที่สุด :: Text by FLASH
Photographer by กมลภัทร พงศ์สุวรรณ