xs
xsm
sm
md
lg

ชีวิตที่เลือกเองของ ทศธรรม เปี่ยมสมบูรณ์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ทศธรรม เปี่ยมสมบูรณ์
 
ทศธรรม เปี่ยมสมบูรณ์ วัย 26 ปี เป็นลูกชายคนกลาง 1 ใน 3 ของ ร.ต.อ.ดร.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ ก้าวเข้าสู่วงการบันเทิง ด้วยการเป็นพิธีกรรายการ Hello English และผู้ประกาศข่าว Welcome World ซึ่งเป็นรายการเล่าข่าวต่างประเทศ ตั้งแต่นั้นมาชื่อของเขาก็เริ่มเป็นที่รู้จัก และโลดแล่นอยู่ในวงการมายามาโดยตลอด มีผลงานพิธีกรประจำรายการทีวีและงานอีเวนต์อย่างต่อเนื่อง

 
“ทศ” ในชุดลำลองสบายๆ บอกความฝังใจในวัยเด็ก อยากยืนหน้าเวทีเหมือน ร.ต.อ.ปุระชัยผู้เป็นพ่อ ทำให้เขาวางเป้าหมายทำงานเกี่ยวกับการพูดและการใช้ภาษา ดังนั้น การไปเรียนนิวซีแลนด์ ตั้งแต่อายุเพียง 7 ขวบ ทำให้เขาเก่งในเรื่องของการใช้ภาษาอังกฤษเพิ่มขึ้นมา และเมื่อจบมัธยมปลายก็เลือกเรียน Mass Communication ที่มหาวิทยาลัยแคนเทอร์บิวรี่ จนจบปริญญาตรี แล้วจึงเรียนต่อปริญญาโท คณะ Sociology จนได้รับเกียรตินิยมอันดับ 2

“ผมรู้สึกมีความสุขเวลาที่ได้พูดแล้วมีคนฟัง ก็คิดจะเป็นอย่างพ่อ พอโตมาก็รู้ว่าอาชีพพิธีกรเกี่ยวข้องกับการพูดเหมือนกัน และยังอยู่ในแวดวงบันเทิงที่ผมชอบด้วย เลยคิดจะเป็นพิธีกรให้ได้ และทุกครั้งที่กลับมาเยี่ยมคุณพ่อที่เมืองไทย ถ้ารู้ข่าวที่ไหนสมัครพิธีกร ผมจะไปแคสงานตลอด สมมุติมี 10 งานต้องได้อย่างน้อย 5 งาน งานแรกเป็นพิธีกรรายการ Hello English ตรงนั้นเป็นโอกาสให้ได้ทำงาน ก็รู้ว่ามันใช่ตัวเราจริงๆ พอจบก็ตัดสินใจกลับมาทำงานด้านนี้อย่างจริงจัง ได้เป็นพิธีกร English Club ที่ช่อง NBT เป็นรายการภาษาอังกฤษล้วน แล้วก็มีตามมาอีกหลายงาน ล่าสุด ทำหน้าที่ประกาศข่าวทีวีดิจิตอล โมโน 29 ครับ”

การเลือกใช้ชีวิตของหนุ่ม “ทศ” หากดูเพียงผิวเผิน ก็ไม่ต่างไปจากวัยรุ่นหลายๆคนที่ชื่นชอบในภาษา แฟชั่น ดนตรี และกีฬา แต่ลึกลงไปใครจะรู้ว่า หนุ่มหล่อคนนี้ เป็นคนชอบค้นคว้าหาความรู้ พร้อมที่จะเก็บเกี่ยวสิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ โดยเฉพาะ การเรียนรู้สิ่งรอบตัว เพื่อจะได้นำมาเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิต และทำงานที่มีคุณภาพ อย่างที่หลายคนยากจะเลียนแบบ

“ผมชอบอ่านหนังสือ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นรอบตัวเรามีหลากหลาย ทั้งดีและไม่ดี ผมพยายามเรียนรู้ให้ได้มากที่สุด การศึกษาค้นคว้าไปเรื่อยๆ ช่วยให้การทำงานของผมมีคุณภาพ เพราะหน้าที่ผมคือ สะท้อนความคิดเห็นและเรื่องราวต่างๆ ถึงผู้ชมและคนที่ฟังเราพูด ตรงนี้ผมมองว่าเป็นประโยชน์”

 
เสน่ห์แห่งการคิดและพูดที่แคล่วคล่องทั้งไทยและอังกฤษ รวมถึงการเอนเตอร์เทนฯ ผู้ชมได้เป็นอย่างดี ซึ่งเมื่อบวกกับรูปร่างหน้าตาที่หล่อขั้นเทพ ทำให้มีแมวมองหลายสำนักเข้าแถวชักชวน “ทศ” ให้เข้ามาชิมลางงานละคร ซึ่งเขาก็ยอมรับว่าสนใจงานด้านนี้ไม่น้อยเช่นกัน

“ผมทำงานพิธีกรมานานแล้ว ก็รู้สึกอยากเปลี่ยนมาลองงานด้านการแสดงบ้าง เพราะชอบมาตั้งแต่เด็กเหมือนกัน ผมคิดเสมอว่าเมื่อเรามาอยู่ในแวดวงนี้ ก็ควรจะทำให้ได้หลายๆอย่าง ตอนนี้มีคนมาทาบทาม ก็เลยไปลงเรียนด้านการแสดงเพิ่มเติมสำหรับงานละครครับ” หนุ่มทศสะท้อนความคิดให้เราฟัง

ความคิดและความมุ่งมั่นที่สัมผัสได้ จากการพูดคุยกับทายาทอดีตนักการเมืองใหญ่ ทำให้เรารู้สึกว่าเขาเป็นคนกระตือรือร้น ไม่ได้เป็นคุณหนูที่อยากได้งานก็แค่นั่งรอคนนำงานมาให้ โดยเขาให้เหตุผลที่ต้องทำเองทุกอย่างว่า เป็นเพราะถูกเลี้ยงให้ช่วยเหลือตัวเองมาตั้งแต่เด็ก

“คุณพ่อไม่เคยช่วยเหลืออะไรครับ คุณพ่อเป็นคนที่รักษาศีล 5 เป็นคนตรง ท่านไม่เคยใช้อำนาจเพื่อที่จะได้อะไรมาง่ายๆ ท่านสอนเสมอไม่ให้เอาเปรียบใคร ตั้งแต่เด็กมาพวกเรา 3 คนพี่น้อง อยากได้อะไรก็ต้องขวนขวายทำกันเองครับ"

 
ทศ ยังยกตัวอย่างเรื่องราวการใช้ชีวิตในแบบที่ ร.ต.อ.ปุระชัย ผู้เป็นพ่อสอนให้เดินตรงตามเส้นทางอย่างคนอื่นๆ โดยไม่ยอมให้เขาและพี่น้องได้เดินทางลัดตามอย่างหลายๆ ครอบครัว ที่สร้างไว้เพื่อช่วยเหลือลูก-หลาน อย่างเช่น การเป็นทหารเกณฑ์รับใช้ชาติ

“ตอนอายุครบเกณฑ์ ผมเริ่มงานพิธีกรแล้ว และรู้เลยว่าพ่อไม่มีทางช่วยแน่ๆ จึงไปสมัครเป็นทหารเกณฑ์เอง เพราะถ้ารอจับใบดำใบแดง ก็แค่ลุ้นได้กับไม่ได้ ผมไม่ชอบการเสี่ยง ถ้าเราสมัครขอเป็นเองตรงนี้เราจะได้สิทธิ์เรียน 3 เดือน ฝีกภาคสนาม 3 เดือน แล้วกลับมาทำงานได้ครับ”

 
แม้จะดูเหมือนเป็นหนุ่มน้อยเจ้าสำอาง หากแต่เขาบอกว่า การฝึกทหารทำให้ได้รับสิ่งดีๆ มากมาย โดยช่วงแรกต้องปรับตัวเยอะมาก ทั้งเรื่องอาหาร การผมกางมุ้งนอน การตื่นนอนแต่เช้า รวมถึงการฝึกที่ต้องเจอกับอากาศร้อนอบอ้าว

“โชคดีที่ผมไม่ติดสำอางมากครับ ดูแลตัวเองตามปกติ อาบน้ำล้างหน้าธรรมดา เวลาอยู่ที่ค่ายทหารก็ไม่รู้สึกอึดอัดมากนัก แต่ยอมรับว่าเหนื่อยมาก แต่ก็สนุกเพราะตรงนั้นช่วยให้มีระเบียบวินัย มีความอดทน ความรักความสามัคคีในหมู่เพื่อนทหารด้วยกัน เพราะต้องทำงานกันเป็นทีม มันเป็นความสุข ความสนุกในแบบที่เราไม่เคยเจอมาก่อน”

และคงด้วยเหตุผลเหล่านี้นี่เอง ที่ทำให้วิถีชีวิตของ “ทศ” ประสบความสำเร็จตั้งแต่ยังอายุน้อย

เมื่อถามถึงการทำงานในอนาคต หากอิ่มตัวกับวงการบันเทิงแล้ว “ทศ” บอกว่า เวลานี้รักในงานที่ทำ โดยเฉพาะ อาชีพพิธีกร และยังไม่นึกอยากทำงานอย่างอื่น แต่ในวันข้างหน้า หากทุกอย่างเข้าที่เข้าทางและมีโอกาสที่เหมาะสม เขาอยากนำที่ดินของเขามาลงทุนสร้างคอนโดมิเนียม หรืออพาร์ตเมนต์ให้เช่า อีกอาชีพหนึ่งที่เขาฝันและคิดว่าจะต้องทำให้ได้เมื่อมีโอกาส
กำลังโหลดความคิดเห็น