เปิดศึกทีวีดิจิตอลจัดเต็มรับปี 59 คาดเม็ดเงินคอนเทนต์สะพัดไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท ทุกช่องพร้อมอัดคอนเทนต์ชิงเรตติ้ง “โมโน 29” ทุ่ม 900 ล้านบาท ยึดหัวหาดบัลลังก์ “หนังดี ซีรีส์ดัง” เอ็กซ์คลูซีฟค่ายหนังดังทั้ง Warner, NBA UNIVERSAL และ PARAMOUNT เพิ่ม ปิดประตูห้ามฉายช่องอื่นยาว 6 ปี พร้อมเพิ่มละคร/ซีรีส์ไทยลงไพร์มไทม์เพิ่มฐานต่างจังหวัดสู้ “ช่อง 8” หวังดันเรตติ้งเบียด “เวิร์คพ้อยท์ทีวี” ขึ้นแท่นท็อป 3 จากปีนี้อยู่ท็อป 5 มั่นใจรายได้ปีหน้าทะลุ 1 พันล้านบาท
นายนวมินทร์ ประสพเนตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท โมโน บรอดคาซท์ จำกัด ในเครือโมโนกรุ๊ป เปิดเผยว่า สถานการณ์การแข่งขันของทีวีดิจิตอลในปีหน้าเชื่อว่าจะรุนแรงมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันกับตัวเองและกับช่องอื่นๆ โดยทุกช่องพร้อมที่จะเพิ่มงบพัฒนาคอนเทนต์รวมกันคาดว่าไม่น่ำต่ำกว่าหมื่นล้านบาทเพื่อชิงเรตติ้ง โดยมองว่าปีหน้าจะเป็นปีที่เห็นภาพของการลงโฆษณาในช่องทีวีดิจิตอลใหม่แทนที่ช่องฟรีทีวีมากขึ้น เอเยนซีและเจ้าของสินค้าเริ่มหันมาลงโฆษณาในช่องทีวีดิจิตอลใหม่ๆ มากขึ้น จากราคาที่คุ้มค่ากว่าช่องฟรีทีวีเดิม
ส่วนแนวโน้มการปรับราคาโฆษณาของทีวีดิจิตอลนั้นจะต้องขึ้นอยู่กับสภาพเศรษฐกิจและการปรับราคาของฟรีทีวีด้วย เพราะหากกลุ่มนี้ไม่มีการปรับราคาตามกลไกตลาดก็อาจจะปรับขึ้นได้ยากเช่นกัน ยกเว้นบางช่องและบางคอนเทนต์ที่มีเรตติ้งที่ดีจึงสามารถปรับราคาขึ้นได้
สำหรับช่อง “โมโน 29” ตั้งแต่เริ่มออกอากาศในเดือน เม.ย.57 สถานีฯ เริ่มมีเรตติ้งดีขึ้นตั้งแต่ระดับ 0 นิดๆ มาเป็น 0.4-0.5 ในปัจจุบัน และอยู่ในระดับท็อป 5 ของกลุ่มทีวีดิจิตอลทั้ง 24ช่อง ภายใต้โพสิชันนิ่งการเป็นช่องภาพยนตร์และซีรีส์ โดยในแง่รายได้โฆษณานั้นเริ่มเข้ามาและดีขึ้นในช่วงไตรมาสสามและสี่ของปีนี้ หรืออยู่ที่สัดส่วน 70% ของพื้นที่โฆษณาทั้งหมด ขณะที่ราคาโฆษณาเฉลี่ยอยู่ที่ 1.5 หมื่นบาทต่อนาที และสูงสุดอยู่ที่ 4 หมื่นบาทต่อนาทีในช่วงไพร์ทไทม์หลังเวลา 20.00 น.เป็นต้นไป ส่งผลให้สิ้นปีนี้น่าจะมีรายได้รวมที่ 600-700 ล้านบาท เป็นรายได้ที่เกือบคุ้มทุน
ในปี 2559 บริษัทฯ พร้อมใช้งบลงทุนเพิ่มกว่า 900 ล้านบาท สำหรับลงทุนด้านคอนเทนต์หลัก 3 กลุ่มคือ 1. ภาพยนตร์และซีรีส์ต่างประเทศ โดยได้มีการจับมือในลักษณะเอ็กซ์คลูซีฟพาร์ตเนอร์กับค่ายหนังฮอลลีวู้ด อย่าง Warner, NBA UNIVERSAL และ PARAMOUNT เป็นระยะเวลา 6 ปี ตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นไป ในการรับสิทธิ์นำภาพยนตร์ชนโรงมาฉายที่ช่อง “โมโน 29” แต่เพียงช่องเดียว ถือเป็นปรากฏการณ์สำคัญที่อาจทำให้ช่องฟรีทีวีเดิมต้องปรับคอนเทนต์รับมือ รวมถึงค่ายภาพยนตร์ไทยอย่างสหมงคลฟิล์ม, พระนครฟิลม์ และเมเจอร์ เช่นเดียวกัน
2. ละคร/ซีรีส์ ภายใต้งบกว่า 150 ล้านบาท ปัจจุบันกำลังดำเนินการอยู่ 8 เรื่อง และภายในปีหน้าจะเพิ่มเป็น 12 เรื่อง เช่น ตี๋ใหญ่, น้ำใสใจจริง, ตำนานสมเด็จพระนเรศวร เดอะซีรีส์, ซีรีส์ พันท้ายนรสิงห์ เป็นต้น จะเริ่มทยอยออกอากาศตั้งปีต้นปี 2559 เป็นต้นไปสัปดาห์ละ 1 เรื่อง ในวันจันทร์-อังคาร เวลาไพรม์ไทม์ประมาณเวลา 19.00-20.00 น. สำหรับเจาะกลุ่มผู้ชมต่างจังหวัด และ 3.กีฬา ได้จับมือกับ TOP KING กับคอนเทนต์กีฬา ศึกมวยไทยระดับโลก K-1 และไทยแลนด์บาสเกตบอลลีก (TBL) เป็นต้น
“การเพิ่มงบด้านคอนเทนต์เป็น 900 ล้านบาทจากปีนี้ใช้ไป 500 ล้านบาท ส่วนใหญ่เน้นหนักในการเพิ่มคอนเทนต์ภาพยนตร์ต่างประเทศและเพิ่มละครไทยมากขึ้นในลักษณะผลิตเองและจ้างผลิต มองว่าจะเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยเพิ่มฐานผู้ชมและสร้างเรตติ้งช่องได้ดีขึ้น ที่สำคัญจะช่วยให้บางคอนเท้นท์สามารถปรับราคาโฆษณาขึ้นได้อีก 10-20% ทั้งนี้จะต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ และอุตสาหกรรมทีวีดิจิตอลด้วย”
นายนวมินทร์ กล่าวต่อว่า จากแผนที่วางไว้เชื่อว่าในปีหน้า ช่อง “โมโน 29” จะก้าวขึ้นอยู่ในกลุ่มท็อป 3 ของอุตสาหกรรมทีวีดิจิตอลทั้งหมด รองจาก “ช่อง 7” และ “ช่อง 3” หรือแซงช่อง “เวิร์คพ้อยท์” ที่อยู่ในอันดับสามในปีนี้ โดยจะต้องมีเรตติ้งช่องอยู่ในระดับ 0.6 ขึ้นไป ทั้งนี้เชื่อว่าในปีหน้า ช่อง “โมโน 29” จะเป็นธุรกิจหลักในการขับเคลื่อนเครือโมโนกรุ๊ป หรือทำรายได้อยู่ที่ 1 พันล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 50% จากธุรกิจรวมทั้งหมด จากปีนี้อยู่ในสัดส่วน 40% จากภาพรวมรายได้เครือโมโนที่ตั้งไว้ 2.8-3 พันล้านบาท โดยอาจจะต่ำกว่าเป้าหมายนี้ที่ตั้งไว้เล็กน้อย
