โดย นพ.กฤษดา ศิรามพุช
ท่านที่ห่วงเรื่องตุ่มน้อยใหญ่ที่เป็นก้อนเนื้อต่างๆ ตามผิวว่า จะมีความผิดปกติได้หรือไม่นั้น ต้องเข้าใจธรรมชาติของผิวสักนิดครับ
ข้อแรกคือ ไม่มีผิวใครสมบูรณ์แบบเกลี้ยงเกลาไร้ริ้วรอย
โดยมากแล้วผิวเนื้อของคนเราย่อมมีการสร้างเซลล์อยู่ตลอดเวลา หรือพูดง่ายๆ ว่ามันมีการเติบโตอยู่เรื่อยๆ ดังนั้นจึงมีการสร้างทั้งเม็ดสีที่ทำให้มีรอยด่างดำได้ เป็นบ่อเกิดของจุดดำ, ฝ้า, กระฯลฯ ส่วนผิวหนังที่สร้างเซลล์งอกงามขึ้นมาเพื่อผลัดกับเซลล์เก่าแก่หมดอายุนั้น ก็อาจสร้างตัวมากจนเกินพอดี กลายเป็นตุ่ม, ติ่ง และก้อนเนื้องอกเผ่าพันธุ์ต่างๆ บนผิวเราได้
สิ่งที่ทำให้กังวลกันมากคือ “เซลล์มะเร็ง”
เมื่อได้เห็นก้อนเนื้อที่ปูดโปนหรือเป็นปุ่มปมนูนขึ้นมาที่ผิวรวมถึงสีต่างๆ ที่ดูไม่สวย เช่น เป็นไฝหรือขี้แมลงวันที่หน้าตาแปลกๆ ก็ชวนให้ห่วงเรื่อง “มะเร็งผิวหนัง” โดยเฉพาะเมลาโนม่าหรือว่ามะเร็งผิวหนังชนิดที่อาจเสี่ยงเข้ามารบกวนชีวิต ซึ่งที่ไหนมีเซลล์เม็ดสีที่นั่น ก็มีโอกาสเกิดมะเร็งชนิดนี้ได้ ไม่เว้นแม้ในลูกนัยน์ตาก็ยังเป็นได้ครับ
ขออนุญาตเรียกมะเร็งเซลล์สร้างเม็ดสีชนิดนี้แบบสั้นๆ ว่า “มะเร็งไฝ” ก็แล้วกันครับ
แม้จะพบน้อย แต่ถ้าป่วยเข้าแล้ว ก็ค่อนข้างรุนแรงน่าห่วง
โดยใน 1 ชีวิตของมนุษย์นี้จะมีไฝเกิดขึ้นได้ตั้งแต่ในวัยปฐมจนเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ก็จะพบได้มากขึ้นราว 30-40 จุดต่อคน และยิ่งเวลาผ่านไปไฝนี้ ก็จะมีพัฒนาการไปได้เป็นต้นว่าเพิ่มจำนวน, โตขึ้น หรือมีขนขึ้นที่ไฝนั้น
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นจะไม่เปลี่ยนแบบปุบปับเร็วเกินไป
ซึ่งในเรื่องการ “เปลี่ยน” ของไฝนี้บางชนิดก็เป็นการ “กลาย” เข้าสู่โหมดไฝร้ายคือ “ไฝมะเร็ง” ได้เหมือนกัน ดังนั้นเพื่อให้ดีต่อสุขภาพเรา จึงควรทราบหน้าตาของไฝชนิดที่ต้องสงสัยไว้ว่าจะมีอะไรให้สังเกตบ้าง
ไฝต้องสงสัย ให้ประชาชนช่วยกันสังเกต
1) รูปร่างบิดเบี้ยว
ข้อสังเกตที่สะดุดตาอย่างหนึ่งของไฝมะเร็งชนิดเมลาโนม่าคือ หน้าตาที่ดูบูดเบี้ยวไม่กลมกลึงเกลี้ยงเกลาของมัน เพราะไฝธรรมดาส่วนใหญ่เป็นตุ่มกลมๆ ดูเกลี้ยงตา ผิดกับไฝมะเร็งที่ชอบจะดูไม่ชัดเจนไม่สมมาตร
2) ขอบไม่เรียบ
ขอบส่วนใหญ่ของไฝปกติจะดูเรียบเสมอกัน แต่ถ้าเป็นไฝมะเร็งอาจมีลักษณะขรุขระดูไม่ราบเรียบหรือเป็นตะปุ่มตะป่ำถ้าสังเกตใกล้ๆ ขอให้นึกถึงเม็ดช็อกโกแลตที่ขอบแหว่งไม่เท่ากัน
3) มีหลากสี
โดยปกติไฝทั่วไปก็จะมีสีชัดเจนอยู่สีเดียวทั้งเม็ด แต่ถ้าไฝต้องสงสัยนี้ อาจมีสีเข้มร่วมกับสีอ่อนกว่าอยู่ในเม็ดเดียวกัน หรือดูมีสีที่ไม่ผสานกันเนียนไปทั้งเม็ด รวมความแล้วจะดูเหมือนก้อนเปรอะๆไม่ค่อยสวยนัก
4) ขนาด
ข้อนี้ขออย่าคิดว่าไฝน่าสงสัยต้องใหญ่โตเท่าช้างเสมอไปนะครับ ความลับของไฝมะเร็งก็คือ มัน “โตเร็ว” หรือบางที “โตกว่าไฝทั่วไปอยู่บ้าง” ซึ่งผมขอให้ข้อสังเกตง่ายๆ ไว้คือ ถ้าจู่ๆ เห็นไฝเม็ดดั้งเดิมโตใหญ่ขึ้นมาผิดหูผิดตาเช่นโตขึ้นเป็น 2 เท่าภายในเวลาไม่กี่เดือนอย่างนี้เป็นต้น
5) เปลี่ยนรูป
ข้อนี้สำคัญอยู่อย่างหนึ่งคือ ต้องหมั่นสังเกตไฝเม็ดเดิมๆ เอาไว้ว่าเพื่อนเก่าของเราหน้าตาเป็นอย่างไร ก้อนเล็กใหญ่แค่ไหนรวมถึงจำนวนของมัน เพราะไฝร้ายอาจสงสัยได้ถ้าเพื่อนเก่าของเราเปลี่ยนหน้าตาไปทั้งสี, ขนาด, รูปร่าง และจำนวนครับ
ทั้งหมดนี้เป็นข้อสังเกตแบบ “ทั่วๆไป” ที่ถ้าจะให้แน่คงต้องตรวจกันอย่างใกล้ชิดในทางลึกอีก แต่อย่างน้อยก็ช่วยให้เราเห็นมันตั้งแต่ “เนิ่นๆ” เพื่อจะได้ดูแลกันทันครับ เพราะแต่ก่อนสอนกันว่ามะเร็งผิวหนังชนิดนี้ไม่ค่อยเจอในคนไทยนักแต่มักเจอกับฝรั่งผิวขาว แต่ยุคนี้ก็ประมาทไม่ได้นะครับ เพราะใครๆ ก็รักผิวขาวกันหรือถ้าไม่มีก็ทำ “ขาวประดิษฐ์” กันให้ครึกโครม
มีเทคนิคสากลในเรื่องการป้องกันภัยจากไฝมะเร็งอยู่ง่ายๆ ขออนุญาตนำมาฝากกันไว้ครับ
1. อย่าลืมครีมกันแดด
โลชั่นกันแดดหรือครีมเป็นของที่ไม่ควรขาดและเราสามารถที่จะช่วยปกป้องผิวของเราได้อีกแรงด้วยเสื้อผ้าที่สวมใส่ให้กันผิวของเราได้ ขอให้เลือกชนิดที่เอสพีเอฟเหมาะสมอย่างน้อยสัก 50 ขึ้นไป และเลือกแบบเนื้อเบาที่เราใช้สะดวกด้วยก็ดีครับ
2. คอยทาซ้ำถ้าอยู่กลางแดดนานๆ
เรื่องนี้สำคัญครับ ขอให้คิดว่าครีมกันแดดไม่ใช่ของที่ทนทานสุดในปฐพี ซึ่งเรื่องนี้หลายท่านทราบดีครับ ขอให้คอยทากันแดดอยู่เป็นระยะจะเป็นทุก 2 ชั่วโมงก็ได้หรือหลังจากล้างหน้าอาบน้ำแล้วก็ควรทาซ้ำครับ
3. ใส่แว่นกันแดด
ขอท่านที่รักอย่าคิดว่าเรื่องแดดแค่ป้องกันที่ตัวก็พอ ดวงตาและรอบตาก็เป็นอวัยวะสำคัญครับ ดังที่เล่าไปว่ามะเร็งชนิดนี้ขึ้นตาได้เช่นกัน(Ocular melanoma) ซึ่งการจับแว่นกันแดดอันโปรดมาใส่เป็นเรื่องง่ายๆ แถมยังช่วยถนอมดวงตาจากแสงยูวี ที่ระรานเข้าไปลึกล้ำด้วยครับ
4. หมั่นตรวจร่องรอยผิว
หมั่นสังเกตพื้นผิวร่างกายดูจุด, รอย, ติ่งเนื้อ และไฝทุกประเภทเอาไว้แล้วจดจำเพื่อที่จะได้รู้ว่าเมื่อเวลาผ่านไปมันมีความแตกต่างหรือไม่ธรรมดาอย่างไรบ้าง เพราะการรู้จักตัวเองอย่างใกล้ชิดนั้น ตัวเราจะทำได้ดีที่สุดเช่นส่องกระจกหลังอาบน้ำ เห็นไหมครับว่างานที่ท่านที่รักเป็นพระเอก
5. อย่าวางใจแม้ไม่โดนแดด
มีกฎอยู่ข้อหนึ่งเพื่อไม่ให้พลาดคือต้องบอกตัวเองว่า “มะเร็งผิวหนัง” ไม่จำเป็นต้องเกิดจากความเสี่ยงเรื่องแดดอย่างเดียว ยังมีความเสี่ยงอื่นอีกมากเช่น ประวัติมะเร็งในครอบครัว, ฮอร์โมนเพศ, โรคผิวหนังที่เคยเป็นหรือภูมิคุ้มกันที่ตกต่ำ ดังนั้นแม้จะบ่มผิวไม่โดนเปลวสุริยาเลยแม้แต่น้อย การเกิดไฝเนื้อร้ายก็ยังคงเป็นได้อยู่ดี (แต่ถ้าท่านจำวิธีสังเกตไฝร้ายที่ให้ไว้ได้ก็จะแยกได้เร็ว)
6. เลี่ยงเตียงอาบแดด
เตียงแบบแทนนิ่งเบดหรือซันเบดที่ใช้รังสียูวีทำให้ผิวแทนนี้แม้ไม่พบบ่อยในแถบศูนย์สูตรแต่เชื่อว่าอีกไม่นานก็คงแพร่หลายเข้ามา เลยขอนำมาเล่าจะได้ช่วยดูแลกันไว้ก่อนครับ โดยการใช้อุปกรณ์ใดก็ตามที่อาบร่างกายด้วยรังสียูวีนั้น มีส่วนทำให้เซลล์ผิดปกติไปจนถึงระดับดีเอ็นเอได้ ดังนั้นเผื่อเทรนด์ต่อไปชอบให้ตัวไหม้ เอ๊ย…แทนก็อาจลองเป็นสเปรย์พ่นผิวแทนก็ได้นะครับ
ที่เล่ามาคือเรื่องที่ no no หรือแม้บางเรื่องจะทำยากแต่หากเลี่ยงได้ก็จะดีครับ ด้วยเมืองเราเป็นเมืองร้อนที่พระอาทิตย์ท่านชักรถเผื่อแผ่รัศมีมาให้มาก หากมีผิวที่ไม่ได้ป้องกันหรือค่อนข้างขาวอยู่แล้วก็ต้องคอยดูแลกันให้มากหน่อย
จะได้ไม่ปล่อยให้เสี่ยงไฝไม่ธรรมดาครับ
* ช่วยคลิก Like ด้วยนะคะ เพื่อเป็นแฟนเพจ Lady Manager รับข่าวสารแซ่บๆ ของผู้หญิงในแวดวงสุขภาพความงาม แฟชั่น และความสัมพันธ์ (**)
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
ท่านที่ห่วงเรื่องตุ่มน้อยใหญ่ที่เป็นก้อนเนื้อต่างๆ ตามผิวว่า จะมีความผิดปกติได้หรือไม่นั้น ต้องเข้าใจธรรมชาติของผิวสักนิดครับ
ข้อแรกคือ ไม่มีผิวใครสมบูรณ์แบบเกลี้ยงเกลาไร้ริ้วรอย
โดยมากแล้วผิวเนื้อของคนเราย่อมมีการสร้างเซลล์อยู่ตลอดเวลา หรือพูดง่ายๆ ว่ามันมีการเติบโตอยู่เรื่อยๆ ดังนั้นจึงมีการสร้างทั้งเม็ดสีที่ทำให้มีรอยด่างดำได้ เป็นบ่อเกิดของจุดดำ, ฝ้า, กระฯลฯ ส่วนผิวหนังที่สร้างเซลล์งอกงามขึ้นมาเพื่อผลัดกับเซลล์เก่าแก่หมดอายุนั้น ก็อาจสร้างตัวมากจนเกินพอดี กลายเป็นตุ่ม, ติ่ง และก้อนเนื้องอกเผ่าพันธุ์ต่างๆ บนผิวเราได้
สิ่งที่ทำให้กังวลกันมากคือ “เซลล์มะเร็ง”
เมื่อได้เห็นก้อนเนื้อที่ปูดโปนหรือเป็นปุ่มปมนูนขึ้นมาที่ผิวรวมถึงสีต่างๆ ที่ดูไม่สวย เช่น เป็นไฝหรือขี้แมลงวันที่หน้าตาแปลกๆ ก็ชวนให้ห่วงเรื่อง “มะเร็งผิวหนัง” โดยเฉพาะเมลาโนม่าหรือว่ามะเร็งผิวหนังชนิดที่อาจเสี่ยงเข้ามารบกวนชีวิต ซึ่งที่ไหนมีเซลล์เม็ดสีที่นั่น ก็มีโอกาสเกิดมะเร็งชนิดนี้ได้ ไม่เว้นแม้ในลูกนัยน์ตาก็ยังเป็นได้ครับ
ขออนุญาตเรียกมะเร็งเซลล์สร้างเม็ดสีชนิดนี้แบบสั้นๆ ว่า “มะเร็งไฝ” ก็แล้วกันครับ
แม้จะพบน้อย แต่ถ้าป่วยเข้าแล้ว ก็ค่อนข้างรุนแรงน่าห่วง
โดยใน 1 ชีวิตของมนุษย์นี้จะมีไฝเกิดขึ้นได้ตั้งแต่ในวัยปฐมจนเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ก็จะพบได้มากขึ้นราว 30-40 จุดต่อคน และยิ่งเวลาผ่านไปไฝนี้ ก็จะมีพัฒนาการไปได้เป็นต้นว่าเพิ่มจำนวน, โตขึ้น หรือมีขนขึ้นที่ไฝนั้น
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นจะไม่เปลี่ยนแบบปุบปับเร็วเกินไป
ซึ่งในเรื่องการ “เปลี่ยน” ของไฝนี้บางชนิดก็เป็นการ “กลาย” เข้าสู่โหมดไฝร้ายคือ “ไฝมะเร็ง” ได้เหมือนกัน ดังนั้นเพื่อให้ดีต่อสุขภาพเรา จึงควรทราบหน้าตาของไฝชนิดที่ต้องสงสัยไว้ว่าจะมีอะไรให้สังเกตบ้าง
ไฝต้องสงสัย ให้ประชาชนช่วยกันสังเกต
1) รูปร่างบิดเบี้ยว
ข้อสังเกตที่สะดุดตาอย่างหนึ่งของไฝมะเร็งชนิดเมลาโนม่าคือ หน้าตาที่ดูบูดเบี้ยวไม่กลมกลึงเกลี้ยงเกลาของมัน เพราะไฝธรรมดาส่วนใหญ่เป็นตุ่มกลมๆ ดูเกลี้ยงตา ผิดกับไฝมะเร็งที่ชอบจะดูไม่ชัดเจนไม่สมมาตร
2) ขอบไม่เรียบ
ขอบส่วนใหญ่ของไฝปกติจะดูเรียบเสมอกัน แต่ถ้าเป็นไฝมะเร็งอาจมีลักษณะขรุขระดูไม่ราบเรียบหรือเป็นตะปุ่มตะป่ำถ้าสังเกตใกล้ๆ ขอให้นึกถึงเม็ดช็อกโกแลตที่ขอบแหว่งไม่เท่ากัน
3) มีหลากสี
โดยปกติไฝทั่วไปก็จะมีสีชัดเจนอยู่สีเดียวทั้งเม็ด แต่ถ้าไฝต้องสงสัยนี้ อาจมีสีเข้มร่วมกับสีอ่อนกว่าอยู่ในเม็ดเดียวกัน หรือดูมีสีที่ไม่ผสานกันเนียนไปทั้งเม็ด รวมความแล้วจะดูเหมือนก้อนเปรอะๆไม่ค่อยสวยนัก
4) ขนาด
ข้อนี้ขออย่าคิดว่าไฝน่าสงสัยต้องใหญ่โตเท่าช้างเสมอไปนะครับ ความลับของไฝมะเร็งก็คือ มัน “โตเร็ว” หรือบางที “โตกว่าไฝทั่วไปอยู่บ้าง” ซึ่งผมขอให้ข้อสังเกตง่ายๆ ไว้คือ ถ้าจู่ๆ เห็นไฝเม็ดดั้งเดิมโตใหญ่ขึ้นมาผิดหูผิดตาเช่นโตขึ้นเป็น 2 เท่าภายในเวลาไม่กี่เดือนอย่างนี้เป็นต้น
5) เปลี่ยนรูป
ข้อนี้สำคัญอยู่อย่างหนึ่งคือ ต้องหมั่นสังเกตไฝเม็ดเดิมๆ เอาไว้ว่าเพื่อนเก่าของเราหน้าตาเป็นอย่างไร ก้อนเล็กใหญ่แค่ไหนรวมถึงจำนวนของมัน เพราะไฝร้ายอาจสงสัยได้ถ้าเพื่อนเก่าของเราเปลี่ยนหน้าตาไปทั้งสี, ขนาด, รูปร่าง และจำนวนครับ
ทั้งหมดนี้เป็นข้อสังเกตแบบ “ทั่วๆไป” ที่ถ้าจะให้แน่คงต้องตรวจกันอย่างใกล้ชิดในทางลึกอีก แต่อย่างน้อยก็ช่วยให้เราเห็นมันตั้งแต่ “เนิ่นๆ” เพื่อจะได้ดูแลกันทันครับ เพราะแต่ก่อนสอนกันว่ามะเร็งผิวหนังชนิดนี้ไม่ค่อยเจอในคนไทยนักแต่มักเจอกับฝรั่งผิวขาว แต่ยุคนี้ก็ประมาทไม่ได้นะครับ เพราะใครๆ ก็รักผิวขาวกันหรือถ้าไม่มีก็ทำ “ขาวประดิษฐ์” กันให้ครึกโครม
มีเทคนิคสากลในเรื่องการป้องกันภัยจากไฝมะเร็งอยู่ง่ายๆ ขออนุญาตนำมาฝากกันไว้ครับ
1. อย่าลืมครีมกันแดด
โลชั่นกันแดดหรือครีมเป็นของที่ไม่ควรขาดและเราสามารถที่จะช่วยปกป้องผิวของเราได้อีกแรงด้วยเสื้อผ้าที่สวมใส่ให้กันผิวของเราได้ ขอให้เลือกชนิดที่เอสพีเอฟเหมาะสมอย่างน้อยสัก 50 ขึ้นไป และเลือกแบบเนื้อเบาที่เราใช้สะดวกด้วยก็ดีครับ
2. คอยทาซ้ำถ้าอยู่กลางแดดนานๆ
เรื่องนี้สำคัญครับ ขอให้คิดว่าครีมกันแดดไม่ใช่ของที่ทนทานสุดในปฐพี ซึ่งเรื่องนี้หลายท่านทราบดีครับ ขอให้คอยทากันแดดอยู่เป็นระยะจะเป็นทุก 2 ชั่วโมงก็ได้หรือหลังจากล้างหน้าอาบน้ำแล้วก็ควรทาซ้ำครับ
3. ใส่แว่นกันแดด
ขอท่านที่รักอย่าคิดว่าเรื่องแดดแค่ป้องกันที่ตัวก็พอ ดวงตาและรอบตาก็เป็นอวัยวะสำคัญครับ ดังที่เล่าไปว่ามะเร็งชนิดนี้ขึ้นตาได้เช่นกัน(Ocular melanoma) ซึ่งการจับแว่นกันแดดอันโปรดมาใส่เป็นเรื่องง่ายๆ แถมยังช่วยถนอมดวงตาจากแสงยูวี ที่ระรานเข้าไปลึกล้ำด้วยครับ
4. หมั่นตรวจร่องรอยผิว
หมั่นสังเกตพื้นผิวร่างกายดูจุด, รอย, ติ่งเนื้อ และไฝทุกประเภทเอาไว้แล้วจดจำเพื่อที่จะได้รู้ว่าเมื่อเวลาผ่านไปมันมีความแตกต่างหรือไม่ธรรมดาอย่างไรบ้าง เพราะการรู้จักตัวเองอย่างใกล้ชิดนั้น ตัวเราจะทำได้ดีที่สุดเช่นส่องกระจกหลังอาบน้ำ เห็นไหมครับว่างานที่ท่านที่รักเป็นพระเอก
5. อย่าวางใจแม้ไม่โดนแดด
มีกฎอยู่ข้อหนึ่งเพื่อไม่ให้พลาดคือต้องบอกตัวเองว่า “มะเร็งผิวหนัง” ไม่จำเป็นต้องเกิดจากความเสี่ยงเรื่องแดดอย่างเดียว ยังมีความเสี่ยงอื่นอีกมากเช่น ประวัติมะเร็งในครอบครัว, ฮอร์โมนเพศ, โรคผิวหนังที่เคยเป็นหรือภูมิคุ้มกันที่ตกต่ำ ดังนั้นแม้จะบ่มผิวไม่โดนเปลวสุริยาเลยแม้แต่น้อย การเกิดไฝเนื้อร้ายก็ยังคงเป็นได้อยู่ดี (แต่ถ้าท่านจำวิธีสังเกตไฝร้ายที่ให้ไว้ได้ก็จะแยกได้เร็ว)
6. เลี่ยงเตียงอาบแดด
เตียงแบบแทนนิ่งเบดหรือซันเบดที่ใช้รังสียูวีทำให้ผิวแทนนี้แม้ไม่พบบ่อยในแถบศูนย์สูตรแต่เชื่อว่าอีกไม่นานก็คงแพร่หลายเข้ามา เลยขอนำมาเล่าจะได้ช่วยดูแลกันไว้ก่อนครับ โดยการใช้อุปกรณ์ใดก็ตามที่อาบร่างกายด้วยรังสียูวีนั้น มีส่วนทำให้เซลล์ผิดปกติไปจนถึงระดับดีเอ็นเอได้ ดังนั้นเผื่อเทรนด์ต่อไปชอบให้ตัวไหม้ เอ๊ย…แทนก็อาจลองเป็นสเปรย์พ่นผิวแทนก็ได้นะครับ
ที่เล่ามาคือเรื่องที่ no no หรือแม้บางเรื่องจะทำยากแต่หากเลี่ยงได้ก็จะดีครับ ด้วยเมืองเราเป็นเมืองร้อนที่พระอาทิตย์ท่านชักรถเผื่อแผ่รัศมีมาให้มาก หากมีผิวที่ไม่ได้ป้องกันหรือค่อนข้างขาวอยู่แล้วก็ต้องคอยดูแลกันให้มากหน่อย
จะได้ไม่ปล่อยให้เสี่ยงไฝไม่ธรรมดาครับ
* ช่วยคลิก Like ด้วยนะคะ เพื่อเป็นแฟนเพจ Lady Manager รับข่าวสารแซ่บๆ ของผู้หญิงในแวดวงสุขภาพความงาม แฟชั่น และความสัมพันธ์ (**)
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net