xs
xsm
sm
md
lg

เปิดวิสัยทัศน์ เอิง-พิชนิตา นักธุรกิจหน้าใหม่สายโรงแรม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอิง-พิชนิตา ศศิธนานนท์
 
บ่อยครั้งที่ “ธุรกิจโรงแรมรีสอร์ต” ถูกมองเป็น “ของเล่นไฮโซ” แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ว่า ธุรกิจโรงแรมไม่ต่างกับแบบทดสอบชีวิตที่ท้าทาย ที่ เอิง-พิชนิตา ศศิธนานนท์ บอกว่า “ เป็นบททดสอบที่สำคัญมาก เพราะมันทดสอบทุกอย่างที่เอิงเคยผ่านมาทั้งหมดในชีวิต” การบริหารโรงแรม2 แห่งด้วยวัยเพียง 30 ต้นๆแม้จะเป็นเรื่องยาก แต่เธอก็ทำสำเร็จจนได้ชื่อเป็นนักธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ตหน้าใหม่ ที่เรียกเสียงฮือฮาด้วยสถิติการเปิดตัว โรงแรมใหม่ Palm City Hotel และโรงแรมรีสอร์ตสุดแนว “แกรนด์ราชพฤกษ์” ย่านนนทบุรี ถึงปีละแห่งในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา

 
จากผลงานที่โดดเด่นบวกกับหน้าตาที่สวยเฉี่ยว ตรงกันข้ามกับบุคคลิกที่อ่อนน้อมถ่อมตน ทำให้เราสนใจที่จะทำความรู้จักตัวตนของเธออย่างจริงจัง ซึ่งเธอก็ไม่ทำให้เราต้องผิดหวังเพราะในวันที่งานรัดตัวต้องดูแลโรงแรมเปิดใหม่แห่งที่ 2 อย่างใกล้ชิด “เอิง” ก็ยังปลีกตัวหลบมุมมาคุยกับเราที่ห้องอาหารของโรงแรมอย่างเป็นกันเอง

เอิง-พิชนิตา ศศิธนานนท์ ในอดีตเคยเป็นหนึ่งในทีมที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจ ให้อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กรณ์ จาติกวณิช แต่ต้องลาออก เพื่อกระโดดเข้าสู่แวดการค้าด้วยการรับช่วงธุรกิจต่อจากพ่อวิชัย ศศิธนานนท์ อดีตข้าราชการกรมโยธา ที่ผันตัวเองออกมาทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และสปอร์ตคลับย่านราชพฤกษ์ เธอเริ่มต้นพูดถึงการทำงานของครอบครัว ด้วยท่วงท่าสบายๆ ว่า จริงๆแล้ว ทั้งพ่อและแม่จะอยากให้ทำงานรับราชการเหมือนอย่างที่ทั้ง 2 ท่านเคยเป็น จึงไม่เคยกำหนดว่าลูกๆจะต้องมารับช่วงสืบทอดงานของครอบครัว แต่เมื่อวันที่พ่อล้มป่วย มีเพียงแม่ และพี่ชาย เธอก็ไม่อาจจะละเลยได้

ดังนั้น ปริญญาตรีบริหารการตลาด หลักสูตรนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล และปริญญาโท ด้านบริหารระหว่างประเทศ ที่ University of Westminster ประเทศอังกฤษ เพิ่มเติม บวกกับปริญญาโทใบที่ 2 จากมหาวิทยาลัย Bremen University of Applied Sciences ประเทศเยอรมัน ในสาขาบริหารธุรกิจ ที่อุตส่าห์หอบหิ้วข้ามน้ำข้ามทะเลกลับมา โดยมุ่งหวังจะนำมาใช้ทำงานราชการเอาใจพ่อแม่ จึงเป็นได้แค่เพียงนำมาทำงานสร้างประสบการณ์ให้ตัวเองเข้มแข็งขึ้นเท่านั้น

 
“ช่วงที่พ่อป่วยหนัก เอิงกำลังเรียนอยู่ที่เยอรมัน ตอนนั้นก็คิดว่าจะไม่กลับไปแล้ว แต่แม่กับพ่อไม่ยอมขอให้กลับไปเรียนให้จบ เอิงก็ไม่อยากขัดใจ พอกลับมาถึงไทยพ่อกับแม่ก็ยังคาดหวังว่าจะให้ทำงานราชการ ระหว่างรอสอบ ก.พ. เพื่อนจึงชวนให้มาทำงานเป็นทีมที่ปรึกษาของกรณ์ จาติกวนิช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ก็ทำตรงนั้นมาประมาณ 2 ปี เป็นจังหวะที่พ่ออยากเพิ่มไลน์ธุรกิจโรงแรม พ่อก็เรียกให้มาบริหารโรงแรมใหม่”

1 เดือนแรกสำหรับการเข้ามาทำงานให้ที่บ้าน ค่อนข้างหนักพอสมควร เพราะงานอสังหาริมทรัพย์ และการทำโรงแรมเป็นเรื่องที่ไม่เคยจับต้องมาก่อน แต่เมื่อได้รับมอบหมายก็ต้องทำให้ได้ โดยทุกครั้งที่ตามพ่อและพี่ชายไปทำงาน ก็ได้พยายามจดจำในสิ่งที่ได้เห็น “ปาล์ม ซิตี้ เป็นโรงแรมเล็กๆแห่งแรกของครอบครัวเรา เอิงเข้ามาก็ลองผิดลองถูกทำตั้งแต่คือดูแลระบบ พนักงาน และบริหารบัญชีรายรับ-รายจ่าย ซึ่งโรงแรมเล็กๆตรงนั้นเอิงว่าไม่ยากนัก แต่กับ “แกรนด์ราชพฤกษ์” เอิงวิ่งเต้นเองทั้งหมด ตั้งแต่คิดจะทำ ตั้งชื่อ ขอใบอนุญาต”

เอิงก็ยอมรับว่าคาดหวังกับโรงแรมแห่งนี้มาก เพราะโจทย์ในการสร้างโรงแรมโนเนมจากคนโนเนมให้เป็นที่รู้จักและยอมรับให้ได้นั้นท้าทายผู้หญิงตัวเล็กอย่างเธอมาก โดยตลอดระยะเวลา 1 ปีที่เริ่มคิดจะทำโรงแรมแห่งที่ 2 เอิงก็มุ่งมั่นตั้งใจทำการบ้านเองตั้งแต่การก่อสร้างถึงการตกแต่ง ตลอดจนการเจรจาหาลูกค้าด้วยตัวเอง ซึ่งเธอก็ใช้ศิลปะในการเจรจาต่อรองจนสำเร็จ

 
อย่างไรก็ตามการบริหารโรงแรมพร้อมๆกับการบริหารคน เอิง ยอมรับว่าหลายครั้งที่รู้สึกเหมือนถูกลองเชิง ถูกปรามาสทั้งจากทางสายตาและความคิด จากลูกค้า และพนักงาน ทำให้เธอต้องลุกมาพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าเธอไม่ใช่เด็กแต่ตัว หรือเก่งเฉพาะแต่งตัวเดินไปมา “เอิงเป็นคนชัดเจนถูกเป็นถูก ผิดเป็นผิด เพียงแต่เวลาทำงานเราปรับความคิดให้เข้ากับผู้ใหญ่ เอิงนำเอาสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่สอนตั้งแต่เรื่องความอ่อนน้อมถ่อมตน ความอดทน อดกลั้นมาใช้ พยายามนำสิ่งที่คุณกรณ์เคยสอนทั้งเรื่องการมองคน การบริหาร การวิเคราะห์อนาคต และความรับผิดชอบ มาผสมผสานใช้ด้วยกัน ไม่ว่าจะมีอะไรเข้ามาเอิงแก้ไขได้หมด”

 
สำหรับโรงแรมแกรนราชพฤกษ์แห่งนี้ แม้ไม่ใช่โรงแรม 5 ดาว แต่เอิงกำหนดให้ต้องมีไลฟ์สไตล์ มีบริการเหนือระดับ แม้เธอจะให้คำตอบไม่ได้ว่าดีหรือไม่ แต่หลังเปิดให้บริการมาเพียง 4-5 เดือน จำนวนคนที่มาใช้บริการก็สามารถใช้เป็นเครื่องมือตัดสินได้แล้วว่า โรงแรมน้องใหม่แห่งนี้เทียบชั้นได้กับโรงแรม 5 ดาวดีๆนี่เอง
กำลังโหลดความคิดเห็น