xs
xsm
sm
md
lg

ค่านิยมเพี้ยน! จัดฟันแฟชั่นยิ้มโชว์เหล็ก หวังเสริมความแบ๊ว ดูรวยขึ้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

By Lady Manager

การจัดฟัน ในปัจจุบันนี้ กลายเป็นแฟชั่นเหมือนการเจาะหูไปเรียบร้อยแล้วในเมืองไทย แม้ในรายที่ไม่มีปัญหาเรื่องการสบฟัน ฟันสวยเรียบดี ไม่เก หรือซ้อน แต่ไปจัดฟันเพราะอยากยิ้มโชว์เหล็กและยางสีสันสดใส

“ประเทศไทยเป็นประเทศเดียวเลยที่คนชอบจัดฟันจนเหมือนจะเป็นแฟชั่น โดยเฉพาะเด็กวัยรุ่น เห็นว่าการที่มีเหล็กดัดฟัน โดยเฉพาะที่เป็นสีต่างๆ เป็นของสวยงาม เป็นแฟชั่น

เป็นความเชื่อที่ว่า ดัดฟันแล้วดูดี มีฐานะทางบ้านที่ดี จึงเป็นค่านิยมที่แปลกสำหรับเมืองไทย ในขณะที่ประเทศอื่นเขาไม่มีความเชื่อตรงนี้ ยิ่งเด็กๆ ในต่างประเทศจะไม่อยากจัดฟัน ไม่ชอบเลย แต่ของคนไทยกลับกลายเป็นแฟชั่น อยากจัดฟันกัน ดังนั้นจึงกลายเป็นปัญหาที่สั่งสมมานาน”

รศ.ทพ.พาสน์ศิริ นิสาลักษณ์ คณบดีคณะทันตแพทยศาสตร์ มหิดล และนายกสมาคมทันตแพทย์จัดฟันแห่งประเทศไทย กล่าวถึงความเชื่อในการจัดฟันแบบผิดและเพี้ยนของเด็กไทย พร้อมให้ข้อมูลเรื่องการจัดฟันแบบจัดเต็ม


จัดฟันแก้ความผิดปกติได้ทุกช่วงวัย เด็กน้อยยันชราอายุ 70

“การจัดฟันตั้งแต่สมัยก่อนถึงปัจจุบันไม่ได้แตกต่างกันมาก จะมีเครื่องมืออยู่ 2 ชนิดที่ใช้กันอยู่ คือ เครื่องมือจัดฟันแบบติดแน่น และเครื่องมือจัดฟันแบบถอดได้ แต่ระยะหลังมานี้ จะเป็นการพัฒนาในเรื่องของวัสดุ และเรื่องความสวยงามระหว่างการจัดฟัน เพราะคนไข้โดยเฉพาะผู้ใหญ่ไม่อยากให้เห็นเครื่องมือจัดฟันอย่างชัดเจน จึงมีเครื่องมือที่ติดแน่นเป็นเซรามิกสีเหมือนฟัน หรือการจัดฟันที่อยู่ด้านใน รวมถึงตอนนี้มีการจัดฟันแบบถอดได้ที่นำมาใช้เป็นพลาสติกใส หรือเรียกว่าการจัดฟันแบบล่องหน

การจัดฟันแบบใสนั้นค่อนข้างถูกใจดารา แอร์โฮสเตส เพราะเครื่องมือสามารถถอดเข้าถอดออกได้หากจะออกงาน ซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่แพงมากหลักแสน เพราะจะต้องส่งไปทำแล็บในต่างประเทศ แต่โดยความเห็นส่วนตัว หมอคิดว่า ไม่สามารถจัดฟันได้ในทุกกรณี เพราะยังมีข้อจำกัด เหมาะกับคนที่ฟันผิดปกติไม่เยอะมาก ฟันเกเล็กน้อย

เนื่องจากเป็นเครื่องมือที่ถอดเข้าถอดออกได้ การที่จะควบคุมการเลื่อนฟันนั้น อาจจะทำได้ไม่เต็มที่นัก และยังต้องอาศัยความร่วมมือกับคนไข้เยอะด้วย หากคนไข้ถอดออกไม่ค่อยได้ใส่ ก็จะไม่ได้ผล

หากเทียบผลรักษาระหว่างเครื่องมือจัดฟันแบบติดแน่น กับเครื่องมือจัดฟันแบบใส เครื่องมือจัดฟันแบบติดแน่นจะให้ผลการรักษาที่ดีกว่า

ส่วนเครื่องมือจัดฟันแบบติดด้านในฟัน ซึ่งวิธีการทำยุ่งยากมาก เมื่อเทคนิคค่อนข้างยาก การที่จะให้ผลดีจะยากตามไปด้วย ซึ่งถ้าพูดในความนิยม การจัดฟันแบบติดด้านในจะไม่เป็นที่นิยมเท่าไหร่

ส่วนเคสที่มีความผิดปกติของใบหน้า จะรักษาโดยการจัดฟันอย่างเดียวไม่ได้ ต้องร่วมกับการผ่าตัดขากรรไกรด้วยด้วย เช่น คนไข้ที่มีความผิดปกติของโครงสร้างกระดูกขากรรไกร อย่างไรก็ตาม การจะเลือกใช้เครื่องมือแต่ละชนิด ต้องดูความเหมาะสมของคนไข้แต่ละรายด้วย ไม่ได้หมายความว่าเครื่องมือจะใช้ได้เหมาะกับคนไข้ทุกคน

ดังนั้นการจัดฟันสามารถทำได้ตั้งแต่เด็กเล็กเลยที่ยังมีฟันน้ำนมอยู่ หากมีความผิดปกติ เพราะหากปล่อยทิ้งไว้จะทำให้เกิดผลเสียรุนแรงมากขึ้น เช่น เด็กที่มีฟันเก ทำให้สบฟันไม่ได้ มีปัญหาเรื่องการบดเคี้ยว หรือมีแนวโน้มการเจริญเติบโตของขากรรไกรไม่เป็นปกติ ก็จะใส่เครื่องมือที่ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของขากรรไกร

ทว่าคนไข้ที่มีอายุ 70 ปี ก็สามารถจัดฟันได้ อาจจะทำเฉพาะบางตำแหน่งมีการกระแทก ทำเพราะมีความจำเป็นที่ปล่อยทิ้งไว้ จะสูญเสียฟันไปหมด เพราะฟันกระเเทกกันจนโยก ห่าง”

เตือน! ขี้เกียจใส่รีเทนเนอร์ ฟันคืนสภาพ เก ซ้อน เหยิน เสียตังค์ฟรี!

“ในชีวิตของคนเราสามารถจัดฟันกี่ครั้งก็ได้ เพราะฟันของคนเราสามารถเลื่อนไปในกระดูกได้ตลอดเวลา การจัดฟันคือการเลื่อนไปในกระดูกขากรรไกร จัดฟันเพื่อเลื่อนไปในตำแหน่งต่างๆ โดยธรรมชาติแล้วฟันสามารถเลื่อนไปได้ตลอดชีวิตเลย ฉะนั้นหากจำเป็นสามารถทำได้ จะทำอายุเท่าไหร่ กี่ครั้งก็ได้

ทว่าต้องรู้ถึงข้อจำกัด เช่น หากเป็นผู้ใหญ่ การที่ฟันจะเลื่อนไปได้ต้องเกิดการละลายตัวของกระดูก และการสร้างกระดูกขึ้นมาใหม่ ฟันที่เลื่อนไป กระดูกที่ยึดรากฟันจะต้องละลายก่อนเพื่อให้ฟันเลื่อนไปได้ พอเลื่อนไปถึงตำแหน่งที่ต้องการ กระดูกจะสร้างขึ้นมาใหม่ ยึดเอาไว้

ซึ่งกระบวนการละลายกระดูก กับสร้างกระดูกขึ้นมาใหม่ในผู้ใหญ่ที่มีอายุมาก จะน้อยกว่าเด็ก เช่นเดียวกับการหายของแผล ผู้ใหญ่จะยากกว่าเด็ก และผู้ใหญ่อาจจะมีการละลายตัวของกระดูกโดยธรรมชาติอยู่แล้ว เหลือกระดูกที่รองรับฟันอยู่น้อย จึงทำให้ยากและอันตรายกว่าเด็ก จึงต้องเลือกเคส และหมอฟันต้องระมัดระวังด้วย

การจัดฟันหลายครั้งก็เช่นเดียวกัน ทุกครั้งที่มีการจัดฟัน จะต้องมีการละลายตัวของกระดูก บางครั้งการสร้างกระดูกใหม่ขึ้นมา อาจจะไม่ได้เท่าเดิมเป๊ะ อาจจะมีการละลายของกระดูกนิดหน่อย หรือตัวรากฟัน เวลาที่เลื่อนฟันไป หากใช้แรงไม่เหมาะสม หรือแรงมากไป อาจจะมีการละลายของรากฟันได้เช่นกัน”

ส่วนสาเหตุที่ต้องมาจัดฟันอีกรอบนั้น ส่วนใหญ่เป็นเพราะหลังถอดเครื่องมือแล้วคนไข้มักไม่ชอบใส่ รีเทนเนอร์ (Retainer) นั่นเอง

“โดยปกติเมื่อถอดเครื่องมือจัดฟันใหม่ๆ กระดูกยังไม่สร้างตัวขึ้นมายึดฟันให้อยู่ในตำแหน่งนั้นอย่างดีพอ จึงต้องใส่เครื่องมือคงสภาพฟันไว้ก่อนให้ฟันอยู่กับที่ ที่เราเรียกว่า รีเทนเนอร์ (Retainer) จะให้ใส่ทั้งวันทั้งคืน 24 ชั่วโมงเลยในช่วงแรก ถอดออกแค่ช่วงทานข้าว หรือแปรงฟัน อาจจะใส่ไปสัก 6 เดือน หลังจากนั้นก็ใส่เฉพาะตอนนอน และลดเวลาใส่ลงเรื่อยๆ เช่น ใส่เว้นเว้นวัน หรืออยากให้ฟันเรียบสวยก็ใส่ไปตลอดชีวิต

เพราะฟันของคนเราเคลื่อนไปได้ตลอดชีวิตเช่นกัน ดังนั้นจะเห็นได้ว่า คนที่ฟันเรียบสวยแต่ไม่เคยจัดฟัน แต่พออายุ 40 ฟันเก ฟันซ้อน หรือฟันยื่นออกมา ไม่สวยเหมือนเดิม

รีเทนเนอร์เป็นสิ่งสำคัญมากหลังจัดฟัน ส่วนใหญ่คนไข้มักละเลย เมื่อจัดฟันเสร็จแล้วก็ไม่ใส่รีเทนเนอร์ พอไม่ใส่จะเกิดการคืนกลับสู่ตำแหน่งเดิมของฟันได้ ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ต้องมาจัดฟันอีกรอบนั่นเอง”

เช็กข้อมูล ตรวจฟันฟรี! นิทรรศการ “จัดฟัน รู้ทันไปหมด”

รศ.ทพ.พาสน์ศิริ เล่าว่า ในช่วงแรกเราจะเห็นว่าการจัดฟันแฟชั่นน่ากลัวมาก คือ ทำกันตามข้างถนน ซึ่งอันตรายมาก เพราะเอาวัสดุที่ไม่มีคุณภาพอันตรายมาใส่ในปาก เช่น ลวดตากผ้า หรือนำวัสดุบางอย่างมาติดไว้กับฟัน แต่ทางสมาคมทันตแพทย์ก็รณรงค์เรื่องนี้อยู่ตลอดเวลาถึงอันตราย ทำให้ตอนนี้ไม่ค่อยเห็นแล้วการจัดฟันแฟชั่นแบบอันตราย แต่เปลี่ยนมาใช้เครื่องมือจัดฟันจริงๆ และไม่ใช่ทันตแพทย์

“คือเขาไปซื้อเครื่องมือของทันตแพทย์มาติดฟันเลย เคยพบกรณีแบบนี้ มีเด็กมาตรวจสุขภาพฟัน จากนั้นก็เห็นติดเครื่องมือจัดฟันแบบไม่ถูกตำแหน่ง ฟันจึงเกไปหมดเลย ถามว่าไปทำที่ไหน เด็กบอกว่าไปทำที่ร้านตัดผม พอจะเอาเครื่องมือจัดฟันออกให้ เพราะเป็นผลเสียต่อฟันอย่างมาก คนทำไม่ใช่ทันตแพทย์ แต่เด็กกลับบอกว่าไม่เอาออก เสียตังค์ไปแล้ว”

ส่วนในกรณีที่เป็นทันตแพทย์แต่ไปจัดฟันให้คนไข้ ทั้งที่ฟันสวยอยู่แล้ว เป็นกรณีการจัดฟันที่ไม่ควรทำ เพราะไม่มีปัญหา แต่มาจัดเพื่อเป็นแฟชั่น แบบนี้เราถือว่าผิดจริยธรรมของทันตแพทย์ สามารถฟ้องแพทยสภาได้ในกรณีที่มีคนร้องเรียน

ดังนั้นปัญหาเรื่องการจัดฟัน เช่น จัดฟันแฟชั่น คนไข้ไม่มีความรู้ความเข้าใจ สมาคมทันตแพทย์จัดฟันแห่งประเทศไทยจึงเห็นว่าการให้ความรู้กับประชาชน ปรับปลี่ยนทัศนคติในเรื่องการจัดฟันแฟชั่น โทษของการจัดฟันที่ไม่ใช่กับหมอจัดฟันโดยตรง จึงเป็นส่วนหนึ่งที่สมาคมทันตแพทย์จัดฟันแห่งประเทศไทยที่อยากจัดนิทรรศการ “จัดฟัน รู้ทันไปหมด Fact or Fiction?” อยากจัดฟัน...เริ่มต้นอย่างไรดี

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบ และให้ข้อมูลประชาชนก่อนตัดสินใจจะจัดฟัน ซึ่งจำเป็นมาก นอกจากการหาข้อมูลตามสื่อออนไลน์ ซึ่งอาจจะไม่ใช่ความรู้ที่ถูกต้องเสมอไป ต้องมีวิจารณญาณในการรับข้อมูล

นอกจากนี้ ประชาชนที่อยากจะหาข้อมูลที่ถูกต้องแนะนำให้เข้าไปในเว็บไซต์ของสมาคม www.thaiortho.org โดยจะให้ความรู้การจัดฟันทั้งหมด

ภายในงานนิทรรศการจะมีการให้ความรู้ทางด้านจัดฟันที่น่าสนใจแก่ประชาชนทั่วไป ด้วยเทคนิคการนำเสนอผ่านทางสื่อผสมที่ทันสมัย รวมทั้งมีการให้บริการตรวจฟันฟรี และให้คำแนะนำเกี่ยวกับการจัดฟันโดยทันตแพทย์จัดฟัน ว่าฟันแบบนี้ควรจัดหรือไม่ควร

ในวันที่ 7-8 กรกฎาคมนี้ โซนอีเดน ชั้น 1 เซนทรัลเวิลด์” รศ.ทพ.พาสน์ศิริ กล่าวปิดท้าย
* ช่วยคลิก Like ด้วยนะคะ เพื่อเป็นแฟนเพจ Lady Manager รับข่าวสารแซ่บๆ ของผู้หญิงในแวดวงสุขภาพความงาม แฟชั่น และความสัมพันธ์
 

>>
อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ 
 http://www.celeb-online.net
 
กำลังโหลดความคิดเห็น