เจ้าหน้าที่ ปคบ.บุกจับร้านดัดฟันเถื่อนกลางเมืองอยุธยา (ชมคลิป)

พระนครศรีอยุธยา - รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปคบ.นำหมายศาลบุกจับร้านดัดฟันเถื่อนกลางเมืองอยุธยา หลังได้รับการร้องเรียนว่ามีเด็กหญิงอายุ 16 ปี เข้าไปใช้บริการดัดฟันแล้วทำให้ปากเน่า

วันนี้ (23 ก.ค.) นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ พ.ต.ท.เอกรัตน์ ทัศเจริญ สารวัตรกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทําผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้วางแผนส่งสายลับเข้าไปล่อซื้อร้านเสริมสวยที่เปิดบริการดัดฟันให้แก่นักเรียน นักศึกษา พนักงานโรงงาน ผิดกฎหมายใน จ.พระนครศรีอยุธยา หลังได้รับการร้องเรียนว่ามีเด็กหญิงอายุ 16 ปี เข้าไปใช้บริการดัดฟันแล้วทำให้ปากเน่า

โดยนำหมายศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เข้าตรวจค้นที่ร้านเสริมสวยไม่มีชื่อภายในตลาดคานหาม ห้องบี 6 ม.4 ต.คามหาม อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา พบ น.ส.อรปรียา พูลพทุรา อายุ 34 ปี เจ้าของร้านอยู่ภายในร้าน อุปกรณ์ในการจัดฟันที่ไม่ได้มาตรฐาน ยาชา ลวดดัดฟัน เข็มฉีดยาใช้สำหรับฉีดกาว และอุปกรณ์อีกจำนวนมาก อุปกรณ์บางชิ้นที่เป็นโลหะขึ้นสนิม ไม่มีการทำความสะอาด

สอบสวน น.ส.อรปรียา ให้การรับสารภาพว่าได้แอบเปิดรับดัดฟันโดยเปิดเป็นร้านเสริมสวยรับสักคิวถาวรมานานกว่า 2 เดือนแล้ว ก่อนหน้านี้เคยเป็นลูกจ้างร้านเสริมสวยที่อยู่ใกล้กันมาหลายปี การจัดฟันจะใช้เวลาประมาณรายละ 20 นาที อุปกรณ์ส่วนใหญ่จะสั่งซื้อมาจากอินเทอร์เน็ต คิดค่าจัดฟันบนและล่าง 900 บาท ส่วนใหญ่กลุ่มลูกค้าจะเป็นวัยรุ่น และพนักงานโรงงานจึงได้มาเปิดร้านในบริเวณนี้เนื่องจากใกล้กับหอพัก และสวนอุตสาหกรรม

นอกจากนี้ กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้เข้าตรวจค้นร้านรับดัดฟันเถื่อนที่อยู่ใกล้กันยึดอุปกรณ์ได้จำนวนมาก และร้านที่ตั้งอยู่ใน อ.พระนครศรีอยุธยา อีกจำนวน 1 ร้าน อยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยและสถานศึกษา พร้อมตรวจยึดอุปกรณ์ได้จำนวนมากมาดำเนินคดี

นพ.ธเรศ กล่าวว่า ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่า มีร้านรับดัดฟันผิดกฎหมายโดยไม่มีทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ทำ จึงได้ร่วมกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปคบ.วางแผนโดยส่งสายลับปลอมตัวเข้าไปใช้บริการ แล้วรวบรวมพยานหลักฐานของศาลออกหมายเข้าตรวจค้น

“การดัดฟันกับร้านเสริมสวย และร้านดัดฟันเถื่อนนับว่าเป็นอันตรายอย่างมาก เพราะอุปกรณ์และเครื่องมือต่างๆ ไม่ได้มาตรฐาน และไม่สะอาด จนเกิดทำให้ช่องปากอักเสบเน่าได้ ส่วนผู้ต้องหากระทำผิดในข้อหาตั้งสถานพยาบาลโดยไม่ได้อนุญาต และไม่มีใบประกอบวิชาชีพทันตกรรม รวมทั้งประกอบโรคศิลปโดยไม่ได้รับอนุญาต นอกจากนี้ ยังจำหน่ายสินค้าที่คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคห้ามจำหน่าย”