xs
xsm
sm
md
lg

หนังยอดเยี่ยมออสการ์ Birdman: โบยบินไปอย่างศิลปินผู้รักศิลปะ

เผยแพร่:   โดย: อภินันท์ บุญเรืองพะเนา



“โลกทุกวันนี้ เรื่องเสียดสีคือเจ้าแห่งทุกสิ่ง
ใครก็ตามที่จริงใจที่สุดหรือซื่อสัตย์ที่สุด
มักต้องพบกับความทรมาน มันเป็นเรื่องที่น่าหัวเราะ
เป็นโลกที่ราวกับความฝัน”
(อเลฮานโดร กอนซาเลซ อินาร์ริตู)


หนึ่งในคนทำหนังที่ผมกล้ากล่าวได้ว่า ตลอดระยะเวลาเกือบยี่สิบปีที่ทำหนังมา คุณภาพยังคงดีเยี่ยมเสมอต้นเสมอปลาย ก็คือผู้กำกับภาพยนตร์สายเลือดเม็กซิกันคนนี้ “อเลฮานโดร กอนซาเลซ อินาร์ริตู” ผู้มีผลงานล่าสุดคือ “เบิร์ดแมน” ที่เพิ่งฉายในบ้านเรา และเข้าชิงออสการ์ในหลากหลายสาขา รวมถถึงผู้กำกับ-ภาพยนตร์ และบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม

อันที่จริง การเข้าชิงออสการ์สำหรับอินาร์ริตู ดูจะเป็นปรากฏการณ์ที่คาดเดาได้โดยไม่ยาก ซึ่งหากปีไหนเขามีหนังใหม่ออกมา ก็เล็งเป้ามองไกลไปถึงการได้เข้าชิงออสการ์ได้เลย เพราะนับแต่เริ่มทำหนังใหญ่มาตั้งแต่ปี 2000 ผลงานทุกเรื่องของเขาก็เป็นหนึ่งในจำนวนหนังที่เข้าชิงออสการ์มาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็น “อะมอเรส เพอร์รอส” (Amores perros) ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น Pulp Fiction แห่งแดนจังโก้, 21 Grams, Babel และ Biutiful

อินาร์ริตูในฐานะผู้กำกับ ได้รับการเชิดชูคู่เคียงกับคนทำหนังอีกสองคนซึ่งร่วมแผ่นดินถิ่นเกิด ว่าเป็น “สามเสือแห่งดินแดนเม็กซิโก” อีกสองคนนั้นคือ กิลเลอร์โม เดล โตโร (The Devil’s Backbone, Pan’s Labyrinth, Hellboy, Pacific Rim) และ อัลฟองโซ กัวรอง (Y Tu Mamá También, Children of Men, Gravity) กล่าวสำหรับอินาร์ริตู ถ้อยคำเชิดชูนั้นไม่เกินเลยความจริงแม้แต่น้อย กล่าวอย่างรวบรัดในบรรทัดนี้ก็คือว่า ส่วนตัวผมตั้งแต่เริ่มดูหนังของผู้กำกับคนนี้มา กล้าพูดได้ว่าไม่เคยผิดหวังในผลงานของเขาเลยสักเรื่อง

ความดีความงามที่เราจะสามารถสัมผัสได้ในงานทุกๆ ชิ้นของอินาร์ริตู คือความเข้มข้นของเรื่องราว ความล้ำลึกในประเด็นเนื้อหา และครั้งหนึ่ง เขาเคยทำให้คนดูรู้สึกแปลกตากับวิธีการเล่าเรื่องที่เปี่ยมด้วยชั้นเชิงในอะมอเรส เพอร์รอส ขณะที่วิธีการในเรื่อง Babel ก็สื่อสะท้อนให้เห็นถึงแรงเหวี่ยงแห่งการกระทำของคนคนหนึ่งซึ่งส่งผลต่อผู้คนบนโลก จากเรื่องเล็กลุกลามเป็นเรื่องใหญ่ที่เรามักคาดไม่ถึงในลักษณะผีเสื้อขยับปีกหรือเด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว

บรรยากาศในหนังของอินาร์ริตูมักเกี่ยวพันกับเรื่องราวเชิงลึกของมนุษย์ มีความเศร้าความซึ้ง มีความเจ็บปวดและงดงาม มีอารมณ์ขันอันชวนตลกแต่ก็น่าสงสารเห็นใจ ความปรารถนาที่ยากจะถึงฝั่งกับวิธีการไปถึงความต้องการที่มักจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่นำไปสู่ความยุ่งยากยิ่งกว่าเดิม ผมรู้สึกว่า สายตาแห่งการมองมนุษย์ในทัศนะของอินาร์ตูนั้นค่อนข้างไปทางหดหู่น่าอดสูเวทนา มันอาจมีเหตุผลร้อยแปดชักพาชะตากรรมที่เลวร้ายมาสู่มนุษย์ แต่บางที มนุษย์ก็เหมือนจะมีกรรมอยู่อย่างหนึ่งคือบอดเขลาเกินกว่าจะให้สติแก่ตัวเองเพื่อเดินสู่วิถีทางที่ดีและงดงาม ความงดงามนั้นมีอยู่ แต่บ่อยครั้ง กว่าจะรับรู้หรือสัมผัสได้ ก็ต้องผ่านการเจ็บปวดสูญเสียอย่างสาหัสสากรรจ์เสียก่อน

“เบิร์ดแมน” ซึ่งเป็นงานชิ้นใหม่ ผมเองก็ยังมองว่าเนื้อหาเชิงลึกของหนัง ก็ยังคงไม่ห่างไกลไปจากความเป็นคนที่น่าหดหู่ซึ่งอินาร์ริตูเคยเสนอมา เพียงแต่ฉากหลังอาจไม่ใช่บ่อนพนันขันแข่งสุนัข (อะมอเรส เพอร์รอส) ไม่ใช่ดินแดนทุรกันดารอย่างใน Babel และกลับมาจากความหวังที่แห้งผากในเรื่อง Biutiful แต่มันคือโรงละครเวทีที่สีสันพราวพราย ที่ซึ่งใครต่อใครมักมองเข้าไปด้วยสายตาอันหลงใหลในเสน่ห์ของมัน ประดุจวงการบันเทิงที่ฉาบทาด้วยสีสันน่ายวนใจ กระนั้นก็ตาม นั่นเป็นเพียงสิ่งที่ทุกคนมองเห็นอยู่ข้างนอก เพราะลึกเข้าไปเบื้องหลังโรงละครของเบิร์ดแมนนั้น มันแทบไม่ต่างอะไรกับละครหน้าฉากที่เรื่องราวพราวแต้มด้วยสุขทุกข์ สนุกสนาน สะเทือนอารมณ์...

“แม้กระนั้น คุณได้รับสิ่งที่ต้องการจากชีวิตนี้หรือเปล่า?
ฉันได้
อะไรคือสิ่งที่คุณต้องการ?
การที่ได้เรียกตัวเองว่าเป็นที่รัก
การได้รู้สึกว่าตัวเองเป็นที่รักบนโลกนี้”...


นั่นคือถ้อยคำของนักเขียนนามว่า “เรย์มอนด์ คาร์เวอร์” ที่หนังหยิบมาใช้เป็นตัวเปิดเรื่องก่อนจะพาคนดูไปทำความรู้จักกับ “ริกเกน” อดีตนักแสดงวัยดึกซึ่งเคยโด่งดังจากการรับบทบาทเป็นซูเปอร์ฮีโร่เรื่อง “เบิร์ดแมน” แต่เมื่อถึงวันโรยรา ริกเกนก็เบนเข็มชีวิตมาสู่ศิลปะการละคร โดยหยิบเอาผลงานประพันธ์ของเรย์มอนด์ คาร์เวอร์ เรื่อง What We Talk About When We Talk About Love มาดัดแปลงทำละคร ซึ่งเขาหวังเป็นอย่างยิ่งว่ามันจะช่วยให้เขากลายเป็นที่รักที่ชื่นชอบของมหาชนคนที่เสพงานศิลปะอย่างแท้จริง ซึ่งจุดแรกที่สามารถพูดถึงได้ตั้งแต่บรรทัดนี้เลยก็คืออารมณ์เสียดสีตลกร้ายของเรื่องราว หนังใช้ชื่อ “เบิร์ดแมน” แล้วเป็นเบิร์ดแมนที่เป็นซูเปอร์ฮีโร่ด้วย มันชวนให้นึกถึง “แบ็ทแมน” (Batman) อย่างปฏิเสธได้ยาก หนังใช้ประโยชน์จากตรงนี้ในการวิพากษ์เหน็บแนมอุตสาหกรรมภาพยนตร์ในฮอลลีวูดที่มักจะให้ความสำคัญกับหนังฟอร์มยักษ์บล็อกบัสเตอร์ซูเปอร์ฮีโร่ หรือจริงๆ แล้ว หนังก็วิพากษ์อุตสาหกรรมภาพยนตร์ทั้งระบบ มันมีความตลกร้ายที่จิกกัดเสียดเย้ยไปทั่ว ตั้งแต่คนในแวดวงโดยตรง (คนทำหนัง นักแสดง) ไปจนถึงบุคคลที่เกี่ยวข้อง (ผู้สื่อข่าว นักวิจารณ์) หรือแม้กระทั่งคนดูผู้ชมอย่างเราๆ ท่านๆ

และสำหรับริกเกน ลึกๆ แล้วเขาเองก็ปรารถนาจะท้าพิสูจน์ว่าเขาสามารถงดงามในสายงานศิลปะการแสดงได้ โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาหนังฟอร์มยักษ์หรือบทซูเปอร์ฮีโร่พวกนั้น กระนั้นก็ดี ด้วยความที่งานนี้ไม่หมู บวกกับชีวิตที่วิกฤติลุ่มๆ ดอนๆ ก่อให้เกิดเป็นปมขัดแย้งอยู่ภายในใจ เสียงพูดพึมพำระหว่างเขากับ “เบิร์ดแมน” ที่อยู่ในความคิด คือภาพสะท้อนแห่งความขัดแย้งทางใจที่ก่อกวนริกเกนอยู่ตลอดเวลา

“ไมเคิล คีตัน” ในบทของริกเกน เป็นความยอดเยี่ยมที่ไม่จำเป็นต้องบรรยายให้มากความ รางวัลนักแสดงนำชายจากเวทีต่างๆ ยืนยันถึงศักยภาพของบทและการแสดงนี้ได้อยู่แล้ว รวมทั้งการได้เข้าชิงออสการ์ก็ยิ่งทำให้ดารารุ่นใหญ่รายนี้กลายเป็นมีรัศมีเจิดจ้าขึ้นมาอีกครั้ง ทั้งนี้ รวมถึงนักแสดงอีกคนอย่างเอ็ดเวิร์ด นอร์ตัน ที่บทมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่า และถ้าจะว่ากันอย่างถึงที่สุด บทของเอ็มม่า สโตน เอย นาโอมิ วัตตส์ เอย แซ็ค กาลิฟินาคิส เอย หรือแม้แต่ตัวละครอย่างภรรยาเก่าของริกเกน รวมไปจนถึงนักวิจารณ์ ล้วนแล้วแต่มีความสำคัญ และส่งเสริมพลังของเนื้อหาเรื่องราวให้ดูมีมิติความลุ่มลึกยิ่งขึ้น และแน่นอนว่า บทบาทเหล่านั้นต่างส่งแรงถาโถมเข้าสู่เนื้อหาตัวตนของริกเกนอย่างพร้อมหน้า เอ็ดเวิร์ด นอร์ตัน ในบท “ไมค์” คือนักแสดงละครเวทีฝีมือเยี่ยมที่ไม่ยอมลงให้แก่ริกเกนแบบง่ายๆ เอ็มม่า สโตน คือลูกสาวของริกเกนที่ดูเหมือนจะมีช่องว่างระหว่างกันค่อนข้างมาก ขณะที่นักวิจารณ์ก็ดูจะปิดประตูตายอย่างไม่ไยดีต่อผลงานชิ้นใหม่ของริกเกนเลย แล้วอย่างนี้ ชายผู้มีความปราถนาแรงกล้าที่จะกลับมาได้รับความรักความชื่นชอบจากบุคคลอื่น จะเป็นเช่นใด

หนักอึ้ง จนน่าเหนื่อยใจ และคล้ายเนิ่นนานหน่วงหนักยิ่งนักในความปรารถนา เทคนิคการถ่ายภาพของหนังที่ใช้ Long Take นั่นคือความยอดเยี่ยมในความคิดสร้างสรรค์และทะเยอทะยานอย่างถึงที่สุดของผู้กำกับภาพอย่าง “เอ็มมานูเอล ลูเบสกี้” เป็นที่แน่นอน ผมคิดเล่นๆ ว่า นอกเหนือจากมันจะทำให้การถ่ายภาพไปกันได้ดีกับเนื้อเรื่อง เราดูหนังเรื่องนี้ได้อารมณ์ต่อเนื่องเหมือนกำลังดูละครเวทีเรื่องหนึ่งและเป็นละครเวทีชีวิตชั้นยอด ซึ่งมันก็ตอบสนองกันพอดีกับสิ่งที่ตัวละครในเรื่องทำ (ซึ่งก็คือการแสดงละครเวที) แต่อีกอย่างหนึ่งซึ่งผมรู้สึกคือ ภาพ Long Take ร่วมสองชั่วโมง มันชวนให้คิดถึงโมงยามของความปรารถนาที่รอการเติมเต็ม ทั้งยาวนานทั้งหน่วงหนัก นี่คือธรรมชาติของความอยากโดยทั่วๆ ไป

...What We Talk About When We Talk About Love “เราพูดถึงอะไรเวลาพูดถึงความรัก”...จากชื่อบทประพันธ์ที่หนังนำมาใช้แสดงละครในเรื่อง ผมรู้สึกว่า เมื่อเดินทางไปถึงจุดสิ้นสุดของหนัง เราจะพบเห็นการคลี่คลายในประเด็นเกี่ยวกับความรัก (ซึ่งกินความถึงการได้รับความนิยมชมชอบ) ตัวละครที่สามารถหาบาลานซ์ให้แก่ตัวเองได้ อยู่ร่วมกับตัวเองได้โดยไม่รู้สึกขัดแย้ง ขณะเดียวกัน ความโหยหาหรือความปรารถนาอันหนักหน่วงหนัก ก็ดูเหมือนได้รับการปลดชนักและโบยบินไปในวิถีที่ควรจะเป็น ผมไม่รู้ว่าคนอื่นจะรู้สึกอย่างไร แต่หนังแบบนี้ ตัวละครลักษณะนี้ ยังเป็นที่ถูกใจของออสการ์เสมอๆ เหมือนเช่นที่ผมพูดทุกปี คืออย่างน้อยก็ต้องได้เฮกันตอนจบ ปลื้มปริ่มยิ้มสุข หลังจากโมงยามแห่งความหดหู่ตรอมตรมรุมเร้ามาโดยตลอด

ครับ, ถึงตอนนี้นั้น คนรักภาพยนตร์ทุกคนคงรู้กันไปแล้วว่า “เบิร์ดแมน” ได้รับการประกาศให้เป็นหนังยอดเยี่ยมของรางวัลออสการ์ในปีนี้ รวมไปจนถึงผู้กำกับยอดเยี่ยม และบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ซึ่งนับเป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุด มันคือความเยี่ยมยอดของทุกองค์ประกอบรวมกัน ทีมงานทุกคนมืออาชีพและช่วยกันหนุนส่งให้คุณค่าของหนังสว่างเรืองรอง

ในขณะที่เบิร์ดแมนหมายมุ่งไปในเส้นทางของศิลปะที่เขาพยายาม ผมคิดว่าอินาร์ริตูเอง ในฐานะผู้กำกับภาพยนตร์ก็คงจะกล่าวเช่นนั้นได้ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา อินาร์ริตูยังคงใส่ใจกับความเป็นศิลปะเสมอต้นเสมอปลายในงานของเขา และการได้รับรางวัลออสการ์ คงจะพูดเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ว่า นี่คือความคุ้มค่าอย่างถึงที่สุดแล้ว สำหรับคนคนหนึ่งซึ่งมุ่งมั่นในวิถีแห่งศิลปะภาพยนตร์ และมันก็น่าจะยืนยันได้ระดับหนึ่งว่า เขาไม่ใช่ใครสักคนที่เพียงแต่ “ปลอมแปลงตัวเอง” เข้ามาในเส้นทางสายนี้ เหมือนกับที่เบิร์ดแมนพูดเสียดสีริกเกน

ออสการ์ หรือตุ๊กตาทอง อาจจะมีส่วนไม่มากก็น้อยในการช่วยขายได้คล่องขึ้น
แต่โดยพื้นฐาน “เบิร์ดแมน” มีคุณค่าและมีคุณภาพอยู่แล้ว ด้วยตัวของมันเอง...



ASTVผู้จัดการออนไลน์ เพิ่มหมวดข่าว “โต๊ะญี่ปุ่น” นำเสนอความเคลื่อนไหวของข้อมูลข่าวสาร ตอบสนองผู้อ่านที่สนใจในประเทศญี่ปุ่น รวมทั้ง สรรสาระ เกร็ดความรู้ต่างๆ ที่ผู้อ่านควรรู้ และ ต้องรู้อีกมากมาย ติดตามเราได้นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป



ติดตามรับชมช่อง “Super บันเทิง” ได้ที่ Super บันเทิง live

ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th

ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม



เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ “ซ้อ 7” ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย
ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540
ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก
ระบบ True Move เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000
*ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก











กำลังโหลดความคิดเห็น