พอเอ่ยถึง “เนื้อจระเข้” หลายคนอาจะเบือนหน้าหนี เมื่อนึกถึงหน้าตาอันน่ากลัวและหนังตะปุ่มตะป่ำ แต่ขอบอกว่า ถ้าไม่ลิ้มลองเนื้อจระเข้ แสดงว่าคุณได้พลาดโอกาสรับประทานของอร่อยไปแล้ว
เมื่อก่อนเนื้อจระเข้ได้มาจากจระเข้แก่ที่หมดสภาพแล้ว เมื่อนำมาทำอาหารจึงให้กลิ่นสาบแต่ปัจจุบันเนื้อจระเข้ที่ขายตามซูเปอร์มาร์เก็ตนั้นมาจากฟาร์มที่เลี้ยงเพื่อนำมาทำเป็นอาหารโดยเฉพาะ เหมือนฟาร์มเลี้ยงไก่หรือฟาร์มเลี้ยงหมูทั่ว ๆ ไป และการเลือกจระเข้มาทำอาหาร จะต้องเป็นจระเข้ที่มีอายุไม่เกิน 4 ปี ซึ่งยังไม่ถึงวัยผสมพันธุ์เนื้อจึงไม่มีกลิ่นสาบ
เนื้อจระเข้เมื่อนำมาทำอาหารจะมีสีชมพูอ่อน ลักษณะเส้นของเนื้อเหมือนเนื้อหมูและเนื้อวัว ไม่มีมันแทรก เมื่อเคี้ยวจะมีความเหนียวนุ่มเล็กน้อย รสชาติหวานหอม เป็นเนื้อที่ให้โปรตีนสูง ไขมันต่ำ
ชาวเอเชีย โดยเฉพาะคนจีน นิยมรับประทานเนื้อจระเข้ เพราะเชื่อว่าให้คุณประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย อาทิ ให้ความอบอุ่น นำมาตุ๋นกับเครื่องยาจีน จะให้ทั้งพลังงานและแก้โรคหืดหอบ รวมทั้งเพิ่มสมรรถภาพทางเพศอีกด้วย
อยากลิ้มลองเมนูเนื้อจระเข้ แวะไปได้ที่ ห้องอาหารจีนหยก โรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์ เพราะตลอดเดือนมีนาคมนี้ เชฟปรวียร์ อภิรมย์เกษม นำเนื้อจระเข้มาหมักในสไตล์กวางตุ้งเพื่อให้เนื้อนุ่มหอมอร่อย ก่อนจะนำไปผัดเมนูจีนจานเด็ด 3 เมนูคือ เนื้อจระเข้ผัดขิงขึ้นฉ่าย กินจานนี้ต้องยอมรับว่าเนื้อจระเข้กับขิงนั้นเข้ากันได้เป็นอย่างดี ช่วยชูรสไม่เพียงให้หอมเท่านั้น แต่รสชาติยังดีขึ้นจนเหลือเชื่อ , เนื้อจระเข้ผัดพริกไทยดำ เนื้อจระเข้ที่หมักจนนุ่มเมื่อนำมาผัดไฟแรง ๆ แค่คลุกเคล้ากับพริกไทยดำและพริกฝรั่งเท่านั้นก็อร่อยแล้ว เมนูสุดท้ายเนื้อจระเข้ผัดเต้าซี่เซี่ยงไฮ้ จานนี้เชฟนำเต้าซี่จากเมืองจีนไปบดละเอียดเพื่อให้ความหอมของเต้าซี่มาช่วยชูกลิ่นรสของเนื้อจระเข้ ใส่พริกหวานและต้นหอมลงเพื่อทำให้เมนูจานนี้มีกลิ่นรสครบเครื่อง
นอกจากนี้ ช่วงมื้อกลางวันยังบริการ “ติ่มซำ” ที่ทำสดใหม่ทุกวัน ทั้งประเภทนึ่งและทอด อาทิ ขนมจีบ ซาลาเปา ฮะเก๋า ก๋วยเตี๋ยวหลอด ฟองเต้าหู้ ปอเปี๊ยะ กังป๋วย หัวไชเท้าทรงเครื่อง เป็นต้น
สนใจสำรองที่นั่งโทร. 0-2276-4567 ต่อ 8429-30