โดย นพ.กฤษดา ศิรามพุช
คำเตือนเรื่องสุขภาพหลายเรื่องเป็นเรื่องของการ “งด” หรือ “อด” โดยเฉพาะอาหารการกินครับ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นคำเตือนด้วยความปรารถนาดีทั้งสิ้น
ประโยชน์นั้นก็เพื่อ “คนไข้” เอง ไม่ใช่อื่นใด
แต่ก็เห็นใจคนไข้ที่มีหลายโรครุมรัก เพราะ อาหารที่ต้องห้าม ก็จะมากเข้าเป็นเงาตามตัว
เช่น เป็นเบาหวานแล้วยังมีโรคเก๊าท์ จะถูกห้ามทั้งของหวานและยอดผักจนหลายท่านหนักอกไม่รู้จะทานอะไร หรือสูงวัยกล้ามเนื้อน้อย แต่ดันมีโรคไตอยู่ เลยทำให้รับประทานโปรตีนเติมเข้าไปช่วยสร้างกล้ามเนื้อไม่ได้ มีข้อจำกัดที่มากขึ้นอย่างน่าเห็นใจ
ในทางอายุรวัฒน์จะพยายามหาทางออกที่ดีต่อทั้ง 2 ฝ่ายคือ คุณหมอก็สบายใจไม่กังวล และคนไข้ก็ไม่ต้อง “อดจนเครียด” มากเกินไปครับ
ซึ่งเรื่องนี้อยู่ที่ “ตัวท่าน” ค่อยๆ “จูน” เองได้ ให้เหมาะสมและไม่กระทบต่อโรคที่เป็น แต่ถ้าไม่แน่ใจก็สามารถคุยกับคุณหมอที่ท่านดูแลอยู่ได้
ในเรื่องอาหารที่มีทางออกให้สุขภาพดังต่อไปนี้ครับ
1) ไข่แดง
เป็นไม้เบื่อไม้เมากับโรค “ไขมันสูง” ซึ่งจริงแล้วนั้น ไขมัน “โคเลสเตอรอล” ส่วนใหญ่ในตัวเราผลิตมาจาก “ตับ” ครับ
และไขมันนั้นเป็นดั่งตาน้ำต้นธารแห่ง “ฮอร์โมนเพศ” ซึ่งเมื่อมันต่ำลงแล้วก็อาจทำให้ฮอร์โมนเพศที่ช่วยเราด้อยลงด้วย ที่สำคัญคือ ไข่แดงมีของดีคือ “กรดไขมันดี” อาทิโอเมก้า 3 ที่ช่วยคุมไขมันได้ด้วยซ้ำครับ
2) เป็ด-ไก่
สัตว์ทวิปีกทวิบาททั้งหลายเป็นผู้ร้ายในโรค “เก๊าท์” ที่มีกรดยูริกเป็นผู้ร้ายทำลายข้อด้วยความเป็นผลึกคมๆ ราวเข็มเล่มจิ๋วแหลมเปี๊ยบ เกิดขึ้นมากจากการรับประทานสัตว์ปีกและน้ำซุปเป็ด-ไก่-เนื้อครับ
จริงแล้วเนื้อไก่มีโปรตีนย่อยง่าย ไม่เสี่ยงแพ้มากอยู่ ส่วนเนื้อเป็ดนั้นมี “ธาตุเหล็ก” อยู่มากดังจะเห็นว่ามีสีแดงชาดดุจเดียวกับเนื้อแดงหลายชนิด
3) เครื่องใน
เป็นอวัยวะที่อัดแน่นไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุดีๆ อย่างวิตามินเอที่มีมากใน “ตับ” นั้น มีมากเสียยิ่งกว่าในผักผลไม้หลายชนิดเสียอีก
ส่วน “ไต(เซ่งจี๊)” มีวิตามิน “บี 12” อยู่มากช่วยผลิตเม็ดเลือดแดงครับ และ “หัวใจ” มี “โคคิวเท็น” เป็นของดีที่อินเทรนด์
นอกจากนั้นยังมีแร่ธาตุอย่าง ธาตุเหล็ก, สังกะสี, ทองแดง ฯลฯ ล้วนจำเป็นต่อการสร้างกระดูก, ต้านอนุมูลอิสระ และลดความเสี่ยงมะเร็ง ถ้าทานให้พอเหมาะพอสม
4) เนื้อหมู
เป็นหนึ่งเนื้อแดงที่ถูกห้ามโดยเฉพาะ “เนื้อหมูติดมัน” ซึ่งในเนื้อหมูมีธาตุเหล็ก (Heme iron) ที่ร่างกาย “จับ” ไปใช้ได้ดีกว่าเหล็กจากพืช มีวิตามินบี 12 ช่วยสร้างเลือด
นอกจากนั้นยังมี “วิตามินดี” ที่ช่วยสมองในเรื่องของอารมณ์ ส่วนไขมันของมันนั้นก็ควรเลือกดูให้ดี ถ้ามีติดมันนักก็เลี่ยงเสียปลอดภัยกว่าครับ
5) หอยนางรม
เป็นหนึ่งในของต้องห้ามอีกอย่างเวลาตรวจเลือดแล้วไขมันสูง ในหอยนางรมเก็บคุณสมบัติที่ดีต่อสุขภาพไว้มาก อาทิ มีกรดไขมันดี “โอเมก้า3” ที่หลายคนถวิลหา เพราะว่าช่วยลดไขมันได้
ในเนื้อหอยยังเป็นแหล่ง “สังกะสี” ที่เป็นแร่ธาตุจำเป็นต่อร่างกาย ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันได้ ส่วน “ไอโอดีน” ที่ต้องได้จากอาหารทะเลนั้น หอยนางรมก็มีอยู่มากน่าประทับใจครับ
6) กาแฟ
หลายท่านถูกแนะให้จำกัดเครื่องดื่มชนิดนี้ด้วยซึ่งก็ถูกอยู่ครับสำหรับท่านที่ดื่มแทนข้าว เอ๊ย…ดื่มมากต่อวัน
นอกจากคาเฟอีนแล้วในกาแฟ 1 แก้วมีสารอื่นอีกนับ 100 อย่าง โดยที่สำคัญคือ “สารต้านอนุมูลอิสระ” ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย
ในการศึกษาส่วนใหญ่ทำในกาแฟดำที่ไม่ปรุงและแก้วมาตรฐาน 8 ออนซ์ครับ เทคนิคดื่มให้ดีจึงควรไม่ปรุง “หวาน” หรือ “มัน” จนล้น และไม่ดื่มกาแฟแทนข้าว เอ๊ย…ดื่มมากไปครับ
7) กะทิ
มีอยู่ในทั้งเครื่องคาว-หวาน เรียกว่าอดทานแทบทุกบาทในกาพย์เห่ เพราะในอาหารไทยเราใช้กะทิเป็นเอกลักษณ์
ความน่ารักของกะทิอยู่ที่มันมีกลุ่มกรดไขมันรูปร่างสันทัด (MCFAs) ที่ช่วยร่างกายมากในหลากมิติ อย่าง “กรดลอริก” ช่วยเสริมภูมิต้านเชื้อโรคได้ อีกทั้งยังช่วยชะลอวัยเพราะได้วิตามินอีธรรมชาติบำรุงผิวจากน้ำมันมะพร้าวครับ
8) น้ำหวาน
มักถูกห้ามเพราะถือเป็น “แคลอรีเปล่า(Empty calorie)” คือไร้คุณค่าอาหารให้ชื่นชม ซ้ำยังมี “น้ำตาล” อันเป็นข้าศึกต่อสุขภาพ
แต่ในยามที่ท่าน “หมดสภาพ” เช่นเป็นลมหน้ามืดจากน้ำตาลต่ำ, ท้องเสียจนขาดน้ำ, เบื่ออาหารหรือออกกำลังหนัก การได้ “กลูโคส” ดีๆ ในน้ำฉ่ำชื่นใจจะช่วยกู้สถานการณ์ได้อย่างน่าประทับใจครับ
9) อาหารดิบ
หนึ่งสุขบัญญัติคลาสสิกคือต้องกินอาหารปรุงสุกใหม่ๆ ซึ่งเป็นสิ่งดีครับ
แต่อาหารดิบหลายอย่างให้ “วิตามินสด” ในปริมาณมหาศาล อย่าง “ปลาดิบ” ที่ชาวญี่ปุ่นและชาวจีนรับประทานกันมานานนั้นทำให้ได้ทั้งแคโรทีนอยด์, วิตามินซี, ดี, อี, และเค
สิ่งเหล่านี้ช่วยชีวิตชาวขั้วโลกเหนือแทนผักผลไม้สดมาตลอด ของดิบขอให้ทำสะอาดถูกอนามัยจะได้สบายใจครับ
10) ขนมหวาน
เป็นอาหารที่แสนบีบคั้นหัวใจหลายท่านยามถูกห้าม แต่นั่นก็เป็นคำแนะนำที่ถูกต้องครับเพราะหลายชนิดเป็น “หวานประหาร”
แต่ขนมที่มีประโยชน์ก็มีมากอย่าง “ช็อคโกแลตดำ” ที่ช่วยบำรุงสมองปกป้องหัวใจราวกับสุภาพบุรุษผู้สุขุม
นอกจากนั้นขนมแบบไทยๆ ก็ทำให้ท่านได้ใยอาหารมากอย่าง ข้าวโพด, กล้วยต้ม, มันต้ม, ถั่วต้ม หรือกล้วยบวดชี, ฟักทองแกงบวดก็ช่วยเติมวิตามินเอให้ดูดซึมได้ดีครับ
หลายท่านเครียดอย่างน่าเห็นใจเมื่อ “ถูกห้ามกิน” ด้วยความเครียดไร้สุขขณะรับประทานอาหารเป็นสิ่งไม่พึงประสงต่อสุขภาพครับ เพราะมันมีส่วนทำให้ไขมันสูง, เบาหวานกำเริบ, และอีกหลายโรคตามมา
เรียกได้ว่าแค่ “เครียด” ก็สร้างได้ทุกสถานการณ์ที่เลวร้าย
ดังนั้นการรับฟังคำเตือนทางการแพทย์อย่างเข้าใจว่าในหลายสิ่งนั้นให้เดินตามทางสายกลางก็เพียงพอ เป็นการขอความร่วมมือให้คุมแต่ไม่ต้อง “บีบ” ตัวเองจนกลุ้ม อาทิ เป็นโรคเก๊าท์ถ้าไม่ให้รับประทานเนื้อสัตว์เลยก็ลำบาก แค่ระวังเรื่องอาหารประเภท “ซุป” ทั้งหลายที่เคี่ยวจากเนื้อ,ไก่,เป็ด, และหมู เช่น รับประทานก๋วยเตี๋ยวก็เลือก “แห้ง” แทน “น้ำ” หรือการลดไขมันในเลือดก็ไม่จำเป็นต้องอด “ไข่แดง” ซึ่งเป็นแหล่งอาหารบำรุงสมองเสียจนเคร่งเครียด
เอาแค่พอเหมาะพอสม จะได้คืนความสุขให้ตัวเองครับ
* ช่วยคลิก Like ด้วยนะคะ เพื่อเป็นแฟนเพจ Lady Manager รับข่าวสารแซ่บๆ ของผู้หญิงในแวดวงสุขภาพความงาม แฟชั่น และความสัมพันธ์ (**)
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
คำเตือนเรื่องสุขภาพหลายเรื่องเป็นเรื่องของการ “งด” หรือ “อด” โดยเฉพาะอาหารการกินครับ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นคำเตือนด้วยความปรารถนาดีทั้งสิ้น
ประโยชน์นั้นก็เพื่อ “คนไข้” เอง ไม่ใช่อื่นใด
แต่ก็เห็นใจคนไข้ที่มีหลายโรครุมรัก เพราะ อาหารที่ต้องห้าม ก็จะมากเข้าเป็นเงาตามตัว
เช่น เป็นเบาหวานแล้วยังมีโรคเก๊าท์ จะถูกห้ามทั้งของหวานและยอดผักจนหลายท่านหนักอกไม่รู้จะทานอะไร หรือสูงวัยกล้ามเนื้อน้อย แต่ดันมีโรคไตอยู่ เลยทำให้รับประทานโปรตีนเติมเข้าไปช่วยสร้างกล้ามเนื้อไม่ได้ มีข้อจำกัดที่มากขึ้นอย่างน่าเห็นใจ
ในทางอายุรวัฒน์จะพยายามหาทางออกที่ดีต่อทั้ง 2 ฝ่ายคือ คุณหมอก็สบายใจไม่กังวล และคนไข้ก็ไม่ต้อง “อดจนเครียด” มากเกินไปครับ
ซึ่งเรื่องนี้อยู่ที่ “ตัวท่าน” ค่อยๆ “จูน” เองได้ ให้เหมาะสมและไม่กระทบต่อโรคที่เป็น แต่ถ้าไม่แน่ใจก็สามารถคุยกับคุณหมอที่ท่านดูแลอยู่ได้
ในเรื่องอาหารที่มีทางออกให้สุขภาพดังต่อไปนี้ครับ
1) ไข่แดง
เป็นไม้เบื่อไม้เมากับโรค “ไขมันสูง” ซึ่งจริงแล้วนั้น ไขมัน “โคเลสเตอรอล” ส่วนใหญ่ในตัวเราผลิตมาจาก “ตับ” ครับ
และไขมันนั้นเป็นดั่งตาน้ำต้นธารแห่ง “ฮอร์โมนเพศ” ซึ่งเมื่อมันต่ำลงแล้วก็อาจทำให้ฮอร์โมนเพศที่ช่วยเราด้อยลงด้วย ที่สำคัญคือ ไข่แดงมีของดีคือ “กรดไขมันดี” อาทิโอเมก้า 3 ที่ช่วยคุมไขมันได้ด้วยซ้ำครับ
2) เป็ด-ไก่
สัตว์ทวิปีกทวิบาททั้งหลายเป็นผู้ร้ายในโรค “เก๊าท์” ที่มีกรดยูริกเป็นผู้ร้ายทำลายข้อด้วยความเป็นผลึกคมๆ ราวเข็มเล่มจิ๋วแหลมเปี๊ยบ เกิดขึ้นมากจากการรับประทานสัตว์ปีกและน้ำซุปเป็ด-ไก่-เนื้อครับ
จริงแล้วเนื้อไก่มีโปรตีนย่อยง่าย ไม่เสี่ยงแพ้มากอยู่ ส่วนเนื้อเป็ดนั้นมี “ธาตุเหล็ก” อยู่มากดังจะเห็นว่ามีสีแดงชาดดุจเดียวกับเนื้อแดงหลายชนิด
3) เครื่องใน
เป็นอวัยวะที่อัดแน่นไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุดีๆ อย่างวิตามินเอที่มีมากใน “ตับ” นั้น มีมากเสียยิ่งกว่าในผักผลไม้หลายชนิดเสียอีก
ส่วน “ไต(เซ่งจี๊)” มีวิตามิน “บี 12” อยู่มากช่วยผลิตเม็ดเลือดแดงครับ และ “หัวใจ” มี “โคคิวเท็น” เป็นของดีที่อินเทรนด์
นอกจากนั้นยังมีแร่ธาตุอย่าง ธาตุเหล็ก, สังกะสี, ทองแดง ฯลฯ ล้วนจำเป็นต่อการสร้างกระดูก, ต้านอนุมูลอิสระ และลดความเสี่ยงมะเร็ง ถ้าทานให้พอเหมาะพอสม
4) เนื้อหมู
เป็นหนึ่งเนื้อแดงที่ถูกห้ามโดยเฉพาะ “เนื้อหมูติดมัน” ซึ่งในเนื้อหมูมีธาตุเหล็ก (Heme iron) ที่ร่างกาย “จับ” ไปใช้ได้ดีกว่าเหล็กจากพืช มีวิตามินบี 12 ช่วยสร้างเลือด
นอกจากนั้นยังมี “วิตามินดี” ที่ช่วยสมองในเรื่องของอารมณ์ ส่วนไขมันของมันนั้นก็ควรเลือกดูให้ดี ถ้ามีติดมันนักก็เลี่ยงเสียปลอดภัยกว่าครับ
5) หอยนางรม
เป็นหนึ่งในของต้องห้ามอีกอย่างเวลาตรวจเลือดแล้วไขมันสูง ในหอยนางรมเก็บคุณสมบัติที่ดีต่อสุขภาพไว้มาก อาทิ มีกรดไขมันดี “โอเมก้า3” ที่หลายคนถวิลหา เพราะว่าช่วยลดไขมันได้
ในเนื้อหอยยังเป็นแหล่ง “สังกะสี” ที่เป็นแร่ธาตุจำเป็นต่อร่างกาย ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันได้ ส่วน “ไอโอดีน” ที่ต้องได้จากอาหารทะเลนั้น หอยนางรมก็มีอยู่มากน่าประทับใจครับ
6) กาแฟ
หลายท่านถูกแนะให้จำกัดเครื่องดื่มชนิดนี้ด้วยซึ่งก็ถูกอยู่ครับสำหรับท่านที่ดื่มแทนข้าว เอ๊ย…ดื่มมากต่อวัน
นอกจากคาเฟอีนแล้วในกาแฟ 1 แก้วมีสารอื่นอีกนับ 100 อย่าง โดยที่สำคัญคือ “สารต้านอนุมูลอิสระ” ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย
ในการศึกษาส่วนใหญ่ทำในกาแฟดำที่ไม่ปรุงและแก้วมาตรฐาน 8 ออนซ์ครับ เทคนิคดื่มให้ดีจึงควรไม่ปรุง “หวาน” หรือ “มัน” จนล้น และไม่ดื่มกาแฟแทนข้าว เอ๊ย…ดื่มมากไปครับ
7) กะทิ
มีอยู่ในทั้งเครื่องคาว-หวาน เรียกว่าอดทานแทบทุกบาทในกาพย์เห่ เพราะในอาหารไทยเราใช้กะทิเป็นเอกลักษณ์
ความน่ารักของกะทิอยู่ที่มันมีกลุ่มกรดไขมันรูปร่างสันทัด (MCFAs) ที่ช่วยร่างกายมากในหลากมิติ อย่าง “กรดลอริก” ช่วยเสริมภูมิต้านเชื้อโรคได้ อีกทั้งยังช่วยชะลอวัยเพราะได้วิตามินอีธรรมชาติบำรุงผิวจากน้ำมันมะพร้าวครับ
8) น้ำหวาน
มักถูกห้ามเพราะถือเป็น “แคลอรีเปล่า(Empty calorie)” คือไร้คุณค่าอาหารให้ชื่นชม ซ้ำยังมี “น้ำตาล” อันเป็นข้าศึกต่อสุขภาพ
แต่ในยามที่ท่าน “หมดสภาพ” เช่นเป็นลมหน้ามืดจากน้ำตาลต่ำ, ท้องเสียจนขาดน้ำ, เบื่ออาหารหรือออกกำลังหนัก การได้ “กลูโคส” ดีๆ ในน้ำฉ่ำชื่นใจจะช่วยกู้สถานการณ์ได้อย่างน่าประทับใจครับ
9) อาหารดิบ
หนึ่งสุขบัญญัติคลาสสิกคือต้องกินอาหารปรุงสุกใหม่ๆ ซึ่งเป็นสิ่งดีครับ
แต่อาหารดิบหลายอย่างให้ “วิตามินสด” ในปริมาณมหาศาล อย่าง “ปลาดิบ” ที่ชาวญี่ปุ่นและชาวจีนรับประทานกันมานานนั้นทำให้ได้ทั้งแคโรทีนอยด์, วิตามินซี, ดี, อี, และเค
สิ่งเหล่านี้ช่วยชีวิตชาวขั้วโลกเหนือแทนผักผลไม้สดมาตลอด ของดิบขอให้ทำสะอาดถูกอนามัยจะได้สบายใจครับ
10) ขนมหวาน
เป็นอาหารที่แสนบีบคั้นหัวใจหลายท่านยามถูกห้าม แต่นั่นก็เป็นคำแนะนำที่ถูกต้องครับเพราะหลายชนิดเป็น “หวานประหาร”
แต่ขนมที่มีประโยชน์ก็มีมากอย่าง “ช็อคโกแลตดำ” ที่ช่วยบำรุงสมองปกป้องหัวใจราวกับสุภาพบุรุษผู้สุขุม
นอกจากนั้นขนมแบบไทยๆ ก็ทำให้ท่านได้ใยอาหารมากอย่าง ข้าวโพด, กล้วยต้ม, มันต้ม, ถั่วต้ม หรือกล้วยบวดชี, ฟักทองแกงบวดก็ช่วยเติมวิตามินเอให้ดูดซึมได้ดีครับ
หลายท่านเครียดอย่างน่าเห็นใจเมื่อ “ถูกห้ามกิน” ด้วยความเครียดไร้สุขขณะรับประทานอาหารเป็นสิ่งไม่พึงประสงต่อสุขภาพครับ เพราะมันมีส่วนทำให้ไขมันสูง, เบาหวานกำเริบ, และอีกหลายโรคตามมา
เรียกได้ว่าแค่ “เครียด” ก็สร้างได้ทุกสถานการณ์ที่เลวร้าย
ดังนั้นการรับฟังคำเตือนทางการแพทย์อย่างเข้าใจว่าในหลายสิ่งนั้นให้เดินตามทางสายกลางก็เพียงพอ เป็นการขอความร่วมมือให้คุมแต่ไม่ต้อง “บีบ” ตัวเองจนกลุ้ม อาทิ เป็นโรคเก๊าท์ถ้าไม่ให้รับประทานเนื้อสัตว์เลยก็ลำบาก แค่ระวังเรื่องอาหารประเภท “ซุป” ทั้งหลายที่เคี่ยวจากเนื้อ,ไก่,เป็ด, และหมู เช่น รับประทานก๋วยเตี๋ยวก็เลือก “แห้ง” แทน “น้ำ” หรือการลดไขมันในเลือดก็ไม่จำเป็นต้องอด “ไข่แดง” ซึ่งเป็นแหล่งอาหารบำรุงสมองเสียจนเคร่งเครียด
เอาแค่พอเหมาะพอสม จะได้คืนความสุขให้ตัวเองครับ
* ช่วยคลิก Like ด้วยนะคะ เพื่อเป็นแฟนเพจ Lady Manager รับข่าวสารแซ่บๆ ของผู้หญิงในแวดวงสุขภาพความงาม แฟชั่น และความสัมพันธ์ (**)
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net